รีวิวหนัง Wonka | มิวสิคัลช็อกโกแลตหวานๆ ที่โคตรฟีลกู้ด

ไม่ควรพลาด เรื่องราวภาคก่อนที่เล่าเรื่องของ วองก้า หนุ่มผู้ฝันอยากมีร้านช็อกโกแลต แต่ถูกโลกทุนนิยมทำร้าย

เมื่อปี 2005 พวกเราเคยได้สัมผัสกับโลกของหวานที่ถูกสรรค์สร้างโดยวิลลี่ ในหนังเรื่อง ‘Charlie and the Chocolate Factory’ แม้มันจะผ่านมาเนิ่นนานถึง 18 ปี แต่ทุกคนก็ล้วนยินดีที่ปลายปี 2023 จะได้พบกับ ‘Wonka’ หนังที่ไม่ต้องเสียเวลาตั้งชื่อไทย เพราะมันเป็นชื่อของตัวละครนำนั่นแหละ ‘วองก้า’ หนังที่ย้อนไปเล่าเรื่องของชายหนุ่มก่อนจะได้เป็นเจ้าของร้านช็อกโกแลต

ภาพจากหนังเรื่อง ‘Wonka’
source: Warner Bros. Thailand

ความเห็นส่วนตัวของนายแพท

หลังจากได้รู้จักกับ วิลลี่ วองก้า มาเมื่อหลายปีก่อน ปีนี้เลยได้พบกับเรื่องราวก่อนหน้าที่ทำให้เราได้รู้ว่า เด็กหนุ่มกำพร้าในวันนั้น เขาสร้างร้านและโรงงานช็อกโกแลตมาได้ยังไง หนังเดินเรื่องแบบมิวสิคัล ร้องและเต้นท่ามกลางฉากอลังการที่หยิบกลิ่นไอของมิวสิคัลเรื่องเก่าๆ มาทำใหม่ให้เฉิดไฉไล เพลงที่แสนไพเราะกับเสียงร้องของ ทิโมธี ชาลาเมต์ ที่แสนฟังเพลิน ผ่านเรื่องราวที่ว่าด้วยประเด็นทุนนิยมผูกขาด เหมือนจะเป็นประเด็กหนักๆ ทว่า กลับทำออกมาให้ดูนุ่มนวล มองเห็นความมุ่งมั่นของคนมีฝัน

แต่สำหรับคนดูที่ชอบกินช็อกโกแลตแล้ว พวกเขาคงรู้สึกหิวและต้องการความหวานในทันทีที่หนังจบลง


เรื่องย่อหนัง ‘Wonka’

ชายหนุ่มหน้าละอ่อนที่ชื่อ วิลลี่ วองก้า (Timothée Chalamet/ทิโมธี ชาลาเมต์ จากหนังเรื่อง ‘Dune’ และ ‘Bones and All’) ที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปมาทั่วทั้งเจ็ดสมุทร วันหนึ่งเขาก็ขึ้นบก มาเพื่อสร้างฝันอันยิ่งใหญ่ให้เป็นจริง ความฝันของเขานั้นคือการมีร้านช็อกโกแลตในเมืองใหญ่แห่งนี้ แต่การกลับสู่แผ่นดินใหญ่ของเขากลับพบเจอกับอุปสรรค

แต่อุปสรรคไหนก็คงไม่ใหญ่เท่ากับการที่ต้องรับมือกับ 3 เจ้าของธุรกิจร้านช็อกโกแลตยักษ์ใหญ่ ที่พยายามกีดกันทุกทางไม่ให้เขาประกอบธุรกิจนี้ได้

ตัวอย่างหนังเรื่อง ‘Wonka’ [ซับไทย]

และในครั้งนี้ วองก้า ก็ได้พบกับจอมขโมยร่างเล็กที่มีตัวสีแดงผมสีเขียว ที่เรียกตัวเองว่า อูมปา ลูมป้า (Hugh Grant/ฮิวจ์ แกรนต์ จากหนังเรื่อง ‘Glass Onion’ และ ‘The Gentlemen’) ชายผู้มีเหตุของการมาเยือนบางอย่าง และเขาอาจเป็นปัจจัยอันสำคัญต่อชีวิตของวิลลี่ วองก้า ก็เป็นได้


รีวิวหนัง ‘วองก้า’

จากนวนิยายที่ขายดีตลอดกาลอย่าง ‘ชาร์ลี และโรงงานช็อกโกแลต’ ผลงานของ Roald Dahl ผ่านฝีมือของผู้กำกับจากหนังเรื่อง ‘Paddington’ ทั้งสองภาคอย่าง Paul King พาผู้คนไปรู้จักกับเรื่องราวในอดีตของหนุ่มหน้ามนคนรักช็อกโกแลตที่ท่องมาแล้วทั้งเจ็ดสมุทร เขาตัดสินใจก้าวขึ้นแผ่นดินเพื่อสร้างฝันอันยิ่งใหญ่ของตนเองให้เป็นจริง

ภาพยนตร์ที่จะทำให้คนดูได้รู้จักกับนักมายากล นักประดิษฐ์ และนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แน่นอนว่า เรารู้บทสรุป แต่เราไม่รู้เรื่องระหว่างทาง ก่อนที่เขาจะมีร้านและโรงงานช็อกโกแลตเป็นของตนเอง เป็นเจ้าของแบรนด์ช็อกโกแลตอันลือลั่น เขาต้องเผชิญกับอะไรบ้าง ในวันเก่า เขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มธรรมดาที่กำพร้าแม่ เป็นเพียงหนุ่มเร่ร่อนที่อยากจะปักหลักสร้างธุรกิจขึ้นจากสิ่งที่ตนเองหลงรักและถนัด แต่กลับต้องเจอกับอุปสรรคต่างๆ นานาที่ขวางกั้นไม่ให้เขาทำสำเร็จ

ภาพจากหนังเรื่อง ‘วองก้า’
source: Warner Bros. Thailand

โลกใบนั้นของวิลลี่ วองก้า พาเขาไปพบกับ มิสซิสสครับบิต (Olivia Colman/โอลิเวีย โคลแมน จากหนังเรื่อง ‘The Favourite’) ที่เขาได้ไปพักพิงและพบเจอกับมิตรสหายกลุ่มใหม่ อย่าง นู้ดเดิล (Calah Lane/คาลาห์ เลน) เด็กสาวกำพร้าที่ถูกสัญญาทาสบังคับให้ต้องรับใช้ไปแทบจะทั้งชีวิตเพราะหนี้สินล้มพ้นตัว และอีกหลายคน พวกเขาร่วมมือกันแต่ก็พบว่ามีนายทุนยักษ์ใหญ่ผู้ผูกขาดการขายช็อกโกแลตในเมืองที่ขัดขวางไว้ ความฉ้อฉลของพวกเขาทำให้เราได้รู้ว่า พวกเขาร่ำรวยกันมาได้อย่างไร และรักษาสถานะความร่ำรวยกันมาได้ยังไง

ไม่เท่านั้น วิลลี่ วองก้า ก็ได้เรียนรู้ว่า โลกนี้มีนายทุนอยู่ทั้งเล็กทั้งใหญ่ แต่ไม่ว่าระดับไหนก็เลือกจะเอาเปรียบชนชั้นล่างที่ยากจนที่สุดอยู่วันยันค่ำ มันเหมือนจะเป็นหนังที่ฟีลกู้ด อบอวลด้วยกลิ่นของช็อคโกแลตและส่วนผสมที่มาจากหลากมุมโลก แต่เนื้อในมันกำลังบอกเล่าเรื่องราวในโลกทุนนิยม

โปสเตอร์หนังเรื่อง ‘Wonka’ เวอร์ชัน IMAX
source: Warner Bros. Thailand

นอกนั้นแล้ว หนังก็พาเราไปพบกับสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ ที่เขาภูมิใจในความ “ชะลูด” ของตนเอง ฮิวจ์ แกรนต์ หลังๆ มานี่ รับบทสมทบได้หลากหลายแถมยังสามารถโดดเด่นในหนังที่ตัวเองไม่ได้เป็นพระเอกได้เสียทั้งหมด หนนี้เขาเล่นเป็น อูมปา ลูมป้า ผู้เป็นดังเจ้าหนี้ของวองก้า ลีลาการเต้นในแบบอูมปา ลูมป้า ช่างน่ารักและดูมีเอกลักษณ์ อีกตัวละครที่พาผู้ชมอารมณ์ดี แม้เขาจะตามมาทวงหนี้ไม่หยุดหย่อน

และนั่นทำให้หนังที่เล่าประเด็นหนักๆ มีส่วนผสมที่ทำให้หนังดูไม่หนักมากอย่างที่คิดแหละ

หนังมีความเอามิวสิคัลเรื่องเก่าที่ผู้คนจดจำมาปัดฝุ่นแต่งองค์ทรงเครื่องเสียใหม่ ใส่ความนุ่มละมุนและความหวานของขนม ทำให้กลายเป็นหนังที่นำพาความสุขมาให้อย่างเต็มล้น ด้วยเพลงเพราะ ฟังเพลิน เนื้อหาเข้าใจง่าย กอปรกับเสียงร้องของทิโมธี่ที่แสนกังวาน ไม่คิดว่าเขาจะร้องเพลงได้ดีขนาดนี้ บวกเข้ากับโปรดักชั่นที่จัดว่าดีงาม มองเห็นความตั้งใจ ต้องบอกว่า ถ้าดูแล้วน้ำลายไหล หิวของหวานก็ไม่ต้องประหลาดใจไป ใครๆ ก็เป็นเหมือนคุณแหละ

Timothée Chalamet กับบท วิลลี่ วองก้า ในหนังเรื่อง ‘วองก้า’
source: Warner Bros. Thailand

ถ้ามีใครถามว่า หนังมันน่ารักพอจะพาลูกไปดูได้ไหม ก็คงตอบแบบเต็มใจว่าได้แน่ หนังให้ความเพลิดเพลินด้วยงานแฟนตาซีชนิดหอมอบอวล เจือไปด้วยความเป็นมิวสิคัล แต่เรื่องที่หนังเล่า สารที่หนังสื่อ มันเป็นประเด็นหนักๆ จิกกัดระบบทุนนิยมสไตล์ผูกขาด เล่าเรื่องคนมีฝันที่ถูกสกัดดาวรุ่ง บางส่วนของหนังก็มีความกวนโอ๊ยอยู่ข้างใน มันจึงสามารถจะดูกันได้ทั้งครอบครัว แต่แค่คนโตแล้วจะเข้าใจเรื่องหนักๆ ได้มากกว่าเท่านั้นเอง

ถึงเวลาที่คุณจะได้สัมผัสกับโลกมหัศจรรย์ที่ช็อกโกแลตพาเธอลอยล่อยไปในอากาศ พบพานเสน่ห์ของชาลาเม่ต์ที่ทั้งร้องทั้งเต้น ผ่านเรื่องเล่าผ่าประเด็นสังคม ที่เชื่อมโยงกับโลกที่เคยรู้จักมาก่อนไว้ได้อย่างสนิทพอดี หนังจบไม่ต้องรีบลุกนะ มีแถมอีกหน่อยตอนเครดิตขึ้น จากนั้นก็ฟังเพลงกันยาวๆ ที่ทำให้รู้ว่ามันเพราะติดหูขึ้นอีกระดับ แล้วค่อยลุกเดินออกจากโรงไป…


รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง

ชื่อภาพยนตร์Wonka / วองก้า
กำกับPaul King
เขียนบทSimon Farnaby, Paul King
แสดงนำTimothée Chalamet, Olivia Colman, Hugh Grant, Sally Hawkins, Paterson Joseph, Keegan-Michael Key, Rowan Atkinson
แนว/ประเภทผจญภัย,​ คอมเมดี้, ครอบครัว, แฟนตาซี, มิวสิคัล
เรทPG
ความยาว116 นาที
ปี2023
สัญชาติสหรัฐอเมริกา
เข้าฉายในไทย7 ธันวาคม 2023
ผลิต/จัดจำหน่ายWarner Bros., Heyday Films, Village Roadshow Pictures

คะแนนรีวิวหนัง วองก้า

พล็อตและบท - 8
การแสดง - 8
การดำเนินเรื่อง - 8
เพลงและดนตรีประกอบ - 8.5
งานภาพ โปรดักชั่น และเทคนิคพิเศษ - 8.5

8.2

Wonka

หลังจากได้รู้จักกับ วิลลี่ วองก้า มาเมื่อหลายปีก่อน ปีนี้เลยได้พบกับเรื่องราวก่อนหน้าที่ทำให้เราได้รู้ว่า เด็กหนุ่มกำพร้าในวันนั้น เขาสร้างร้านและโรงงานช็อกโกแลตมาได้ยังไง หนังเดินเรื่องแบบมิวสิคัล ร้องและเต้นท่ามกลางฉากอลังการที่หยิบกลิ่นไอของมิวสิคัลเรื่องเก่าๆ มาทำใหม่ให้เฉิดไฉไล เพลงที่แสนไพเราะกับเสียงร้องของ ทิโมธี ชาลาเมต์ ที่แสนฟังเพลิน ผ่านเรื่องราวที่ว่าด้วยประเด็นทุนนิยมผูกขาด เหมือนจะเป็นประเด็กหนักๆ ทว่า กลับทำออกมาให้ดูนุ่มนวล มองเห็นความมุ่งมั่นของคนมีฝัน แต่สำหรับคนดูที่ชอบกินช็อกโกแลตแล้ว พวกเขาคงรู้สึกหิวและต้องการความหวานในทันทีที่หนังจบลง

User Rating: Be the first one !
Exit mobile version