บางครั้ง การพาตัวเองไปพบเจอกับหนังเล็กๆ ที่มีความน่าสนใจในโรงบ้างก็ดีเหมือนกัน ทำให้เราไปพบกับอะไรที่ไม่จำเจ อยู่ในสูตร ไม่ต้องสมบูรณ์ แต่เต็มไปด้วยความตั้งใจ วันนี้ ผมได้เจอกับหนังเรื่องหนึ่ง มันเป็นหนังดราม่าที่มีลีลาและเรื่องราวที่เฉพาะตัวพอประมาณ มีความฟีลกู้ดพอตัว ‘Wonderstruck’ ภาพยนตร์ที่นำเข้าไทยโดย M Pictures
ไม่แปลกอะไรที่คุณไม่รู้จัก ทอดด์ เฮย์นส์ (Todd Haynes) ผู้กำกับคนนี้ แต่เขาเคยทำ ‘Carol’ นะ ‘Far from Heaven’ ก็ด้วย ‘I’m Not There.’ อีก แต่ไม่เป็นหรอก ถ้ายังไม่เคยดู เริ่มที่งานนี้ของเขาก่อนก็ได้
แล้วค่อยถอยกลับไปติดตามต่อเรื่องพวกนั้น…
เรื่องย่อหนัง ‘อัศจรรย์วันข้ามเวลา’
นี่คือเรื่องราวของ เบน (โอ๊คส์ เฟกลีย์) เด็กชายในยุค 1977 ผู้ที่ถูกฟ้าผ่าจนกลายเป็นคนหูหนวก และ โรส (มิลลิเซนต์ ซิมมอนด์ส) เด็กหญิงในยุค 1927 ผู้เป็นคนหูหนวกแต่กำเนิด เด็กทั้งสองได้เดินทางมายังมหานครนิวยอร์กด้วยจุดประสงค์ที่ต่างกัน
เบนเดินทางมาเพื่อหาเบาะแสของพ่อผู้ที่เขาไม่เคยเจอ และโรสเดินทางมาเพื่อพบกับ ลิเลียน เมย์ฮิว (จูลีแอนน์ มัวร์) ไอดอลในดวงใจของเธอ ชะตากรรมทำให้พวกเขาทั้งสองได้พบกัน
และพบกับความจริงว่าพวกเขามีความสัมพันธ์กันมากกว่าการเป็นคนแปลกหน้า
รีวิวหนัง ‘Wonderstruck’
เรื่องที่ดำเนินไปอย่างเรียบเรื่อยและเชื่องช้า สลับฟันปลาระหว่างช่วงเวลาที่ห่างกัน 50 ปี เรื่องในปี 1977 ของเด็กชายคนหนึ่งที่สูญเสียประสาทสัมผัสทางการได้ยินอย่างกระทันหัน ฉับพลันเหตุการณ์บางอย่างชักพาให้เขาเกิดอยากจะออกจากบ้านคนเดียวเพื่อไปตามหาผู้เป็นพ่อถึงนิวยอร์ก
กับเรื่องของเด็กหญิงหูหนวกอีกคนในปี 1927 ที่มุ่งหวังจะออกจากบ้านไปตามหาแม่ของตนที่ไปเป็นดาวดังอยู่ในนิวยอร์ก
การตัดต่อที่สลับกันไประหว่างสองเวลาที่ทั้งคู่ต่างก็เป็นเวลาอดีตของปัจจุบันทั้งคู่ ภาพเก่าที่ยังเป็นปี 1977 ของเบน และภาพเก่าแบบขาวดำในสมัย 1927 ที่ใช้ลูกเล่นด้วยการเล่าให้เป็นเหมือนหนังเงียบ มีเสียงดนตรีประกอบที่เข้ากับจังหวะการแสดงที่เน้นความเกินจริงเพื่อให้คนดูเข้าใจความหมายของสิ่งที่กระทำ
เรื่องราวที่สลับไขว้กันไปมาของเด็กพิการทางหูสองคนที่หนีออกจากบ้านและตามหาพ่อแม่เหมือนๆ กัน แถมยังเป็นสถานที่เดียว ต่างกันแค่เวลา
คือกิมมิกที่น่าสนใจของหนัง
แม้ว่ามันจะดูใช้เวลานานเกินไปบ้าง ในการเล่าแบบสลับแบบมีกิมมิกนี้ จนทำให้หน้าดูไม่ชวนตื่นเต้นอะไรนัก จวบจนมันเดินเข้าสู่ 2 ใน 3 ของหนัง หลังจากสงสัยกันมาตั้งนานว่า การเดินทางตามหาพ่อแม่ของตัวเอกทั้งสองจะนำไปสู่อะไร ก็ได้เวลาที่จะเฉลยเสียที
ปริศนาที่ซ่อนไว้ได้คลี่คลายเป็นเรื่องราวที่ชวนฉงน แถมยังเดินต่อด้วยการเล่าที่ต่างออกไปอีกครั้ง
เหมือนหนังจะพยายามให้คนดูซึมซับไปความรู้สึกของตัวละครที่สูญเสียการได้ยิน โดยเฉพาะช่วงเวลาปี 1927 ที่ทุกอย่างเหมือนหนังเงียบ ตัวละครพูดแต่ก็ไม่ได้ยิน อ่านปากก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ แถมหนังยังสร้างความสงสัยให้กับผู้ชมได้ตลอดเวลา
แม้ว่ามันดูนิ่งๆ ไปหน่อยก็ตาม
หนังมีอารมณ์ละมุนมาก จัดเต็มในเรื่องของการเซ็ตฉาก อุปกรณ์ โลเกชั่น เสื้อผ้า รถรา เพลง ของใช้ต่างๆ มุมกล้องของหนังแบบเก่า รวมไปถึงกิมมิกของหนังสือที่มีชื่อเดียวกับหนังคือตัวผูกร้อยเรื่องทั้งหมดเข้าด้วย ฉากของหนังส่วนใหญ่จะอยู่ในพิพิธภัณฑ์ ทำให้เราได้เห็นบางมุมที่บุคคลภายนอกไม่มีวันได้เห็น
ถึงหนังจะไม่ได้กลมกล่อมมากนัก แต่อาศัยที่นักแสดงเองก็ทำหน้าที่ได้ดี แถมหนังก็ใช้วิธีการที่น่าสนใจในการดำเนินเรื่องอีก
จัดว่าไม่เลวเลยครับ สำหรับการรับชมหนังเรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์
ชื่อภาพยนตร์: Wonderstruck / อัศจรรย์วันข้ามเวลา
ผู้กำกับภาพยนตร์: Todd Haynes
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Brian Selznick (screenplay by), Brian Selznick (based on the book by)
นักแสดงนำ: Oakes Fegley, Julianne Moore, Michelle Williams, Millicent Simmonds, Cory Michael Smith,
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
ความยาว: 116 นาที
แนว/ประเภท: Drama, Family, Mystery
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
ปี: 2017
เรท: ไทย/, MPAA/PG
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 25 มกราคม 2561
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Amazon Studios, Cinetic Media, FilmNation Entertainment, M Pictures
อัศจรรย์วันข้ามเวลา
Wonderstruck - 7
7
Wonderstruck
ด้วยการเดินเรื่องที่มีกิมมิก ใช้การตัดสลับกันของสองช่วงเวลา โดยเฉพาะช่วงอดีตปี 1927 ที่กลายเป็นหนังเงียบขาวดำทำให้หนังดูเท่ เดินเรื่องละมุนไปอย่างเนิบๆ ก่อนจะเข้าสู่ท่อนฮุกที่เปลี่ยนการเล่าเรื่องไปเป็นอีกแบบ หนึ่งในหนังเล็กๆ ที่ทะเยอะทะยานและทำออกมาได้น่าสนใจ