วันคืนผ่านไปไม่มีหยุด หนังก็เช่นกัน สร้างใหม่ เข้าโรง ออกโรง และถูกหยิบมาดูใหม่กันไม่มีเว้น แต่นี่จะสิ้นปีแล้ว หนังดีๆ ยังไม่หยุดจะเข้าโรงมาให้เราได้ดูกันเลย นี่ก็อีกเรื่องหนึ่งที่ดูแล้วรู้สึกอิ่มใจและซึ้งใจอย่างบอกไม่ถูก ‘Wonder’ หนังชื่อสั้นๆ แต่นำเสนอแง่มุมที่ลึกซึ้งและชวนเข้าใจคนรอบๆ กายได้อย่างเหลือเชื่อ
ผลงานของผู้กำกับ Stephen Chbosky คนที่เคยกำกับ ‘The Perks of Being a Wallflower’ และเคยเขียนบท ‘Beauty and the Beast’ ที่คุณเคยประทับใจมาแล้วนั่นแหละ คราวนี้เขาก็ร่วมเขียนบทเอง และลงมือกำกับมัน
แถมยังเป็นผลงานที่น่าประทับใจอีกเช่นเคยเสียด้วย…
เรื่องย่อหนัง ‘Wonder’
เด็กชายคนหนึ่งที่เติบโตขึ้นมาในแบบที่ไม่เหมือนคนอื่น ความผิดปกติของยีนบางอย่างทำให้เขาต้องได้รับการผ่าตัดหลายครั้ง กว่าที่จะกลายเด็กผู้มีอาการครบเหมือนเด็กทั่วไป ทว่าศัลยกรรมกลับทำได้เพียงเท่านั้น เขายังคงมีใบหน้าที่ดูอัปลักษณ์ในสายตาคนทั่วไป
ออกัส พูลแมน หรือชื่อเล่น อ๊อกกี้ (Jacob Tremblay) ไม่เคยย่างกรายออกจากบ้าน เติบโตมากับ เนต (Owen Wilson) พ่อที่คอยสร้างอารมณ์ขันให้กับเขาได้ตลอดเวลา อิซาเบล (Julia Roberts) แม่ผู้ฉลาดปราดเปรื่องผู้ทิ้งหน้าที่การงานมารับหน้าที่สอนลูกและดูแลเขาตลอด 24 ชั่วโมง และเวีย (Izabela Vidovic) พี่สาวที่รักและดูแลเขาอย่างดี
แต่เมื่อถึงวันหนึ่ง ครอบครัวเริ่มคิดได้ว่า มันคงถึงเวลาแล้วที่อ๊อกกี้จะต้องออกมาเจอผู้คน โลกใบเดิมที่กว้างกว่า เริ่มต้นที่โรงเรียน ที่ที่อ๊อกกี้หวั่นกลัวมาตลอด เขาจะต้องปรับตัวอย่างหนักเพื่ออยู่ร่วมกับเด็กที่เขามองว่าหน้าตาปกติ และมองว่าเขาเป็นตัวประหลาด
รวมทั้งเขาจะปรับหัวใจตัวเองให้แข็งแรงเพื่อที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่นให้ได้แม้ว่าเขาจะหน้าตาเป็นแบบนั้น
รีวิวหนัง ‘Wonder’
ก่อนเข้ามาดูเหมือนตัวเองโดนกรอกหูไม่น้อยเลยว่า หนังดีมาก อย่างนั้นอย่างนี้ พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่คาดหวังไปเองก่อนเข้าโรง แต่มันก็คงจะทำได้ยากมาก หากว่าหนังไม่ได้ทำได้ดีอย่างที่ได้ฟังมา เราเองที่คงจะรู้สึกเฟลไม่น้อย แต่ไม่ใช่แบบนั้นเลย เรารู้สึกได้ตั้งแต่นาทีแรกที่เริ่มต้นขึ้นแล้ว
บอกเล่าทั่วถึง เล่าเด่นทุกตัวละคร ไม่ถูกละเลย
จากตัวอย่าง เราอาจจะคิดว่า หนังจะเล่าเรื่องของอ๊อกกี้ผู้มีหน้าตาประหลาด กับการปรับตัวเข้ากับสังคม แต่ไม่เลย หนังเล่าเรื่องของทุกคนในมุมมองที่แตกต่างกันไป จะมีตัวละครกลุ่มหนึ่งที่จะมีช่วงเวลาของตัวเอง และก็จะมีตัวละครอีกกลุ่มที่จะอยู่ในหนังตลอดเวลา
แม้ว่าหนังจะไม่ได้เจาะจงเล่าเรื่องของเขา
หนังแปะชื่อของตัวละครที่จะเล่าถึงไว้ก่อนเสมอ ทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้ หนังจะเล่าเรื่องราวจากมุมมองของใคร จากที่เรื่องก่อน เราอาจจะไม่เข้าใจการกระทำของเพื่อนเราอีกคน เพราะเราไม่รู้จักเขามากพอ พอหนังเล่าในตอนต่อมา เราถึงได้เข้าใจเหตุในการกระทำที่เปลี่ยนไปของเขา
มันทำให้เราได้คิดว่า เราไม่อาจจะเข้าใจคนอื่นได้ทั้งหมดหรอก ถ้าเราไม่เปิดตาเปิดใจจะรับฟังเขา ทุกคนมีเรื่องราวของตน ที่บางครั้งก็ไม่อาจจะบอกเล่าต่อเราได้ทุกเรื่อง
ส่วนหนึ่งก็เพราะเราปิดใจที่รับฟังนั่นเอง
ชวนน้ำตาไหลตั้งแต่ต้นยันจบ
อ๊อกกี้ดูน่าสงสารนะ ถ้าเรามองว่าเขาดูด้อยกว่าเรา แต่ถ้าเรามองอีกแบบหนึ่ง ว่าเขาพิเศษกว่าคนอื่น ซึ่งตรงนั้นแหละที่ทำให้เขาดูโดดเด่นกว่าเรา
ทุกอย่างมันอยู่ที่เรามองคนอื่นและที่เราตัวเราเองต่างหากหรือเปล่า
ในช่วงแรก อ๊อกกี้มีปัญหามากในการออกมาเจอผู้คน เขาหวาดระแวงมากว่าคนอื่นจะมองเขาเป็นตัวประหลาด แค่โดนมองหน้าก็รู้สึกเฟลไปเสียแล้ว อ๊อกกี้ร้องไห้หลายครั้งมากกับชีวิตช่วงนี้ หมวกมนุษย์อวกาศนั่นก็คงคล้ายกับ Safe Zone เมื่อได้สวมแล้วจึงรู้สึกปลอดภัย ไม่ต่างอะไรกับการที่อ๊อกกี้รักเทศกาลฮาโลวีนนั่นแหละ
การที่คนเรามองและตัดสินกันที่ภายนอกก็เช่นกัน ทำให้หลายคนไม่อาจจะอยู่ในสังคมนี้อย่างรู้สึกว่าตัวเองปกติ สิ่งที่อ๊อกกี้เป็นก็ไม่ต่างอะไรกับคนทั่วไปที่ถูกผู้คนทำระยำตำบอน สร้างพฤติกรรม bully กันตลอดเวลานั่นเอง
การเลี้ยงลูกที่อยู่ในวัยเติบโต จิตใจเขานั้นเปราะบางกว่า แม้พ่อแม่จะมองเห็นว่า ชีวิตของลูกต้องอยู่ให้ได้ในสังคมนี้ จึงเลือกจะปล่อยให้ลูกได้ทดลองใช้ชีวิตในโรงเรียน แม้ในใจจะยังหวั่นๆ และเป็นห่วงว่าอ๊อกกี้จะทำได้ไหม
‘ชีวิตมหัศจรรย์วันเดอร์’ ไม่ได้เร่งเร้าอะไรกับคนดูเลยที่จะต้องบีบน้ำตาให้กับเรื่องราวในนั้น การดำเนินเรื่องที่สลับสับเปลี่ยนกันไป ทั้งมุกชวนขำ ความอิ่มเอิบใจที่ตัวละครแสดงออกมา และช่วงเวลาที่พวกเขาโศกเศร้าเสียใจ แต่จริงๆ แล้ว…
ไม่ว่าจะเป็นช่วงไหน มันก็ทำให้ผมอินน้ำตาไหลได้หมดแหละ
และผมก็ไม่ได้อินเฉพาะกับตัวละครอย่างอ๊อกกี้เพียงเท่านั้น หากแต่ตัวละครอื่นๆ ก็น่าอินไม่น้อยเลย อาจจะไม่มีใครทันคิดว่า ในระหว่างที่โลกกำลังหมุนตามอ๊อกกี้ แต่ก็ยังมีบางตัวละครที่ได้รับผลจากการหมุนเหล่านั้น บางทีมันก็เหมือนจำลองสิ่งที่ผมได้เคยพบเจอมาใส่ไว้ในหนัง
และแน่นอน ผมก็เสียน้ำตาให้กับมันอีกครั้ง…
ผูกกับสตาร์วอร์สเอาไว้อย่างแนบสนิท
สิ่งที่รู้สึกว่าหนังทำให้มีรอยยิ้มได้บ่อยครั้ง ก็คือ การที่อ๊อกกี้นั้นรักและคลั่งไคล้ในมหากาพย์ Star Wars อย่างมาก เขาใฝ่ฝันจะเป็นนักบินอวกาศ และหมวกนักบินอวกาศก็เป็นของชอบของเขา
หนังหยิบเอาตัวละครบางตัวใน Star Wars มาใช้ ซึ่งทำให้คนที่รักสตาร์วอร์สรู้สึกอิ่มเอมใจ และชอบหนังมากยิ่งขึ้นไปอีก
จะว่าไป นักแสดงทีมนี้ทั้งทีมถือว่าทำงานได้ดีกันทั้งทีม ไม่รู้ว่าคนไหนจะอ่อนด้อยไปกว่าคนอื่น แต่ที่โดดเด่นสุดก็เห็นจะเป็นเจ้าหนูน้อยจาค็อบที่ทำให้เราทั้งหัวเราะและร้องไห้ และบางครั้งก็หัวเราะทั้งน้ำตา
ที่ชื่นชอบอีกคน กลับกลายเป็นอิซาเบล่า เธอมีความน่ารักนะ และเล่นบทพี่สาวคนโตได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้เราเข้าใจและเห็นใจความเป็นลูกที่อยู่นอกวงโคจรอย่างดีที่สุด
คือหนังฟีลกู้ดส่งท้ายปีที่ดีที่สุด
แม้ว่านี่จะเป็นหนังที่ทำให้ผมน้ำตาไหลได้ตลอดเรื่อง แต่มันก็กลับกลายเป็นหนังที่สร้างความประทับใจให้กับผมมากถึงมากที่สุด เป็นหนังที่มองโลกในแง่ดีพอสมควร มันจึงถูกเรียกว่าเป็นหนังฟีลกู้ดได้อย่างสนิทปาก แต่เป็นหนังฟีลกู้ดที่เรียกน้ำตาได้อย่างไม่หยุดหย่อน มีหลายมุมของหลายตัวละครที่สร้างความอินได้
เพราะหลายเรื่อง เราก็เคยผ่านมาแล้วทั้งนั้น
ปัญหาของวัยเรียนก็คือ ทุกคนในนั้นอยู่ในช่วงของการเติบโต บางเรื่องก็ไม่รู้ว่ามันไม่ควร บางเรื่องก็เป็นที่พ่อแม่เองที่คอยให้ท้ายอยู่กลายๆ ปัญหานี้จะยังไม่จบไม่สิ้น และเด็กๆ ในวัยนี้เองที่ต้องเรียนรู้และเติบโตขึ้นอย่างเข้มแข็ง คล้ายโลกนี้จะคัดคนอยู่กลายๆ เรื่องราวแย่ๆ ในวัยเด็กจะทำให้เขาโตเป็นผู้ใหญ่ที่เข้มแข็ง หรืออ่อนไหว มันก็คงเริ่มต้นจากตรงนี้
นายแพทก็ได้แต่หวังว่า เมื่อทุกคนได้ดูหนังเรื่องนี้ จะมองเห็นมุมมองที่ดีในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมมากขึ้น ไม่ตัดสินคนเพียงเพราะภายนอก เข้าใจความแตกต่างระหว่างบุคคล คนที่สังคมตัดสินว่าแปลกประหลาดหรืออัปลักษณ์ก็อาจจะมีอะไรมากกว่าคนที่มีเหมือนๆ กันไปหมดก็ได้ ทำให้เราเข้าใจและเห็นใจคนรอบข้างมากขึ้น ใจเขาใจเรามากขึ้น
เพราะโลกนี้ ทุกคนแตกต่างกัน ทุกคนจึงโดดเด่นแตกต่างกันไปครับ
ชื่อภาพยนตร์: Wonder / ชีวิตมหัศจรรย์วันเดอร์
ผู้กำกับภาพยนตร์: Stephen Chbosky
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Stephen Chbosky, Steve Conrad
นักแสดงนำ: Jacob Tremblay, Owen Wilson, Izabela Vidovic, Julia Roberts, Noah Jupe, Daveed Diggs, Bryce Gheisar, Millie Davis, Danielle Rose Russell
ดนตรีประกอบ: Marcelo Zarvos
ความยาว: 113 นาที
แนว/ประเภท: Drama, Family
อัตราส่วนภาพ: 2.39 : 1
ปี: 2017
เรท: ไทย/, MPAA/PG
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 7 ธันวาคม 2017
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Lionsgate, Mandeville Films, Participant Media
ชีวิตมหัศจรรย์วันเดอร์
Wonder - 9
9
Wonder
มันเป็นหนังเพื่อความเข้าใจต่อความแตกต่างหลากหลายของผู้คนอย่างแท้จริง หนังไม่ได้เล่าเรื่องของเด็กชายหน้าตาที่เขามองว่าอัปลักษณ์เท่านั้น หากยังเล่ามุมมองต่างๆ ของคนอื่นๆ อีกด้วย แม้หนังจะมีความขำ ตลก น่ารัก และเศร้า แต่ทุกมุมก็ชวนอินจนทำให้น้ำตาไหลได้ตลอดเวลา