หนังเรื่องนี้ เข้าฉายในแบบ Sneak Preview ในบ้านเรามาหลายวันแล้ว ก่อนหน้านั้นก็ยังเข้าฉายในงานเทศกาล World Film Festival of Bangkok ด้วย ทำให้รู้สึกอึดอัดอย่างมากที่จะได้แต่ฟังเสียงเยินยอของหนังเรื่องนี้อยู่หลายวัน กว่าที่จะสัมผัสกับอรรถรสของ ‘Whiplash ตีให้ลั่น เพราะฝันยังไม่จบ’ ด้วยตาตัวเอง
ก่อนหน้าที่ผมจะได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ยังพอจะได้ชมตัวอย่างหนังมาบ้าง ก็ยังคิดอยู่เลยว่า น่าจะเป็นหนังสร้างแรงบันดาลใจที่ดี แต่เมื่อมาได้เจอของจริง ก็ได้พบว่า มันยิ่งกว่าที่คิดไว้เยอะครับ หนังที่พูดถึงชีวิตของมือกลองหนุ่มวัย 19 ปี ที่ถูกเคี่ยวกรำอย่างหนักเพื่อก้าวไปสู่การเป็นสุดยอดมือกลอง..คนนี้
รีวิวหนัง ‘Whiplash’
เรื่องราวโดยย่นย่อนั้น มันเป็นเรื่องของคนสองคน(เกือบจะ)เท่านั้น คนหนึ่งเป็น ‘เด็กหนุ่ม’ ผู้ใฝ่ฝันอยากจะประสบความสำเร็จในฐานะมือกลอง แอนดรูว์ (Miles Teller จาก ‘Divergent’) ที่ได้พบกับ ‘ครู’ สอนดนตรีที่กำลังฝึกซ้อมวงแจ๊สออร์เคสตร้าเข้าประกวด เขาคือ เทอเรนซ์ เฟลทเชอร์ (J.K. Simmons จาก ‘Contraband’, ‘Juno’ และ ‘Spider-Man’ ไตรภาคก่อนหน้า) และบังเอิญเห็นแววในตัวเขา จึงเลือกไปเป็นส่วนหนึ่งของวง
แต่วิธีการฝึกของครูคนนี้ค่อนข้างจะเคร่งเครียด เข้มข้น และรุนแรงอยู่สักหน่อย
พรสวรรค์นั้นอาจพบเห็นได้ยากอยู่สักหน่อย และเมื่อมันถูกพบเห็นแล้ว หลายคนเลือกจะเจียระไนด้วยวิธีการค่อยเป็นค่อยไป แต่ไม่ใช่วิธีการในแบบของครูดนตรีคนนี้ เขาเน้นบทเรียนที่เร่งรัดและบีบคั้น เพื่อเค้นศักยภาพของคนๆ นั้นออกมาให้เต็มที่ และพัฒนาให้เพิ่มพูดให้ถึงขีดสุดและเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เขาจึงมักใช้คำพูดคำจาที่ไร้ความนิ่มนวลกับแอนดรูว์ และหลายครั้งทีเดียวที่เขาเลือกทำในสิ่งที่คาดไม่ถึง และดูเป็นครูที่คนเป็นศิษย์รับได้ยากอยู่พอสมควร แต่ถ้าพิจารณาดูแล้ว หลายครั้งแกก็ใช้ไม้อ่อนที่ทำให้ศิษย์ต้องอมยิ้ม
และหลายครั้ง แกก็อ่อนไหวให้เราได้เห็นความจริงที่ถูกปิดซ่อนไว้
จากที่คิดว่า ‘Whiplash’ จะเป็นหนังดราม่าสร้างแรงบันดาลใจแบบที่เคยดูทั่วๆ ไป มันกลับกลายเป็นหนังที่ดำเนินเรื่องแบบแอ็คชั่นระทึกขวัญ ที่คนดูเดาเหตุการณ์ต่อไปแทบไม่ถูก สองนักแสดงนำ ต่างรุกรับกันอย่างถึงพริกถึงขิง ชนิดที่นั่งลุ้นแทบไม่ติดเบาะ หัวใจเต้นระทึกตามจังหวะกลอง เรียกว่า “ลุ้นกันจนหยดสุดท้าย”
ภาพยนตร์เรื่องนี้ดีเด่นถึงระดับที่ได้รับเกียรติเป็นหนังเปิดเทศกาลหนังซันแดนซ์ และได้รับรางวัล Grand Jury Prize พัฒนาขึ้นจากหนังสั้นเรื่องเดียวที่เคยทำไว้เพื่อหาทุน นับเป็นทางใหม่ๆ สำหรับหนังดนตรีสร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งทำให้ออกมาได้ยอดเยี่ยมมาก หนังมีทั้งความจริงที่ปวดร้าว มีทั้งความจริงของคนมีพรสวรรค์ ทั้งความจริงของการผลักดันผู้คน
และมีประโยคคมๆ เอาไว้เตือนใจคนดูทุกคน
ชื่อภาพยนตร์: Whiplash / ตีให้ลั่น เพราะฝันยังไม่จบ
ผู้กำกับภาพยนตร์: Damien Chazelle
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Damien Chazelle (screenplay)
นักแสดงนำ: Miles Teller, J.K. Simmons, Melissa Benoist, Paul Reiser
แนว/ประเภท: Drama, Music
ความยาว: 106 นาที
เรท: ไทย/ท , USA/R
สัดส่วนภาพ: 2.35 : 1
วันเข้าฉายในประเทศไทย: 30 ตุลาคม 2557
ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย/สตูดิโอ: Blumhouse Productions, Bold Films, Right of Way Films
ตีให้ลั่น เพราะฝันยังไม่จบ
Whiplash - 10
10
Whiplash
ภาพยนตร์เรื่องนี้ดีเด่นถึงระดับที่ได้รับเกียรติเป็นหนังเปิดเทศกาลหนังซันแดนซ์ และได้รับรางวัล Grand Jury Prize พัฒนาขึ้นจากหนังสั้นเรื่องเดียวที่เคยทำไว้เพื่อหาทุน นับเป็นทางใหม่ๆ สำหรับหนังดนตรีสร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งทำให้ออกมาได้ยอดเยี่ยมมาก หนังมีทั้งความจริงที่ปวดร้าว มีทั้งความจริงของคนมีพรสวรรค์ ทั้งความจริงของการผลักดันผู้คน