นานมาแล้ว มีเกมตัวหนึ่งที่โดดเด่นและโด่งดังทำรายได้ระดับหมื่นล้าน มีผู้คนที่รักและคลั่งไคล้ติดกันงอมแงม น่าเสียดายที่เดียวที่มันถูกปล่อยมาเนิ่นนานกว่าจะเทคโนโลยีจะเพียงพอให้สร้างมันเป็นหนังที่ยิ่งใหญ่ และก็คงน่าเสียดายอีกเช่นกันที่คนบางคนไม่เคยได้เล่นเกมดังตัวนี้ แม้จะเคยมีชีวิตที่ผ่านช่วงเวลาที่เกมอย่าง ‘Warcraft’ โด่งดังอย่างสุดขีดอยู่ก็ตาม แต่ไม่ว่าจะเข้าอยู่ในกรณีไหน วันนี้ ผมก็ได้ดูแล้ว ‘Warcraft: The Beginning’ หรือ ‘กำเนิดศึกสองพิภพ’
เกมที่โด่งดังยาวนานสมัยนั้นมักจะได้รับการสร้างอย่างต่อเนื่องออกมาหลายเวอร์ชั่น สตอรี่หรือเรื่องราวก็ต่อเนื่องกันมาตามจำนวนของเวอร์ชั่น และมันก็มีมากเพียงพอที่จะทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นหนังไตรภาคได้อย่างมิต้องสงสัย แต่ภาคแรกเป็นภาคที่สำคัญยิ่ง หากว่ามันประสบความสำเร็จ ก็จะเป็นผลดีตามไปถึงภาคที่สองและสามต่อไป วันนี้ เราจะได้พิสูจน์ร่วมกันว่ามันจะเป็นไปได้ไหม
ไม่ว่าคุณจะเป็นคอเกมหรือไม่ใช่ก็ตาม
เรื่องย่อหนัง ‘Warcraft: The Beginning’
ในโลกของออร์ค พวกมันพบว่าโลกของมันกำลังเลวร้ายลงจนไม่น่าอยู่เสียแล้ว จึงคิดจะหาโลกใหม่ ซึ่งพวกมันพบว่าโลกของเหล่ามนุษย์ยังอุดมสมบูรณ์ดีอยู่ จึงคิดหาทางไปยังโลกของมนุษย์ด้วยประตูมิติ พวกออร์คมีผู้นำสูงสุดอย่างกุลดาน (Daniel Wu) ที่มีพลังอำนาจ “เฟล” อันเป็นพลังที่สรรค์สร้างขึ้นจากความตาย
พลังนี้ดึงเอาชีวิตของมนุษย์ไปป้อนให้กับประตูเพื่อก้าวเข้าสู่โลกแห่งมนุษย์ ซึ่งแน่นอน เหล่ามนุษย์มิได้เห็นดีเห็นงามด้วยแน่ จึงหาทางปกป้องโลกของตนเอาไว้
ภพฝั่งที่มนุษย์อาศัยอยู่นั้น มีพระราชา Llane Wrynn (Dominic Cooper) มีแม่ทัพด้านการรบอย่าง อันดูอิน โลธาร์ (Travis Fimmel) ชายหนุ่มร่างแกร่งที่เป็นพี่ชายของราชินี Ruth Negga (Paula Patton) ซึ่งฟากฝั่งมนุษย์ก็มีผู้ควบคุม ‘เฟล’ ได้เช่นกัน
หนึ่งในนั้นคือ หนุ่มหนวดวัยเยาว์ผู้ซึ่งยังไม่สำเร็จถึงขั้นเป็นผู้พิทักษ์อย่าง แคดการ์ (Ben Schnetzer) แต่จู่ๆ ก็เข้ามากลายเป็นส่วนหนึ่งของสงครามครั้งนี้ อีกคน คือ เมดิฟต์ (Ben Foster) ผู้พิทักษ์ที่ดูเหมือนจะพลังกำลังลดถอยลงไปด้วยเพราะเหตุบางอย่างที่ยังไม่ขอเปิดเผย
มนุษย์เหล่านี้ต้องรวมพลังสามัคคีกันเพื่อผลักดันและทำลายประตูมิติก่อนที่พวกออร์คจะยกโขยงกันมายึดพื้นที่และทำลายอาณาจักรของเหล่ามนุษย์
รีวิวหนัง ‘กำเนิดศึกสองพิภพ’
หนังที่สร้างขึ้นจากเกมดังหลายๆ เรื่องมักจะสร้างเนื้อเรื่องขึ้นมาใหม่ถ้าเกิดว่าเกมดั้งเดิมไม่ได้มีเนื้อเรื่องอะไรมากนัก แต่สำหรับ ‘Warcraft’ ที่ถูกสร้างออกมาจำหน่ายยาวนาน มีสตอรี่เพียงพอ อีกครั้งยังมีตัวละครมากพอที่จะทำเป็นมหากาพย์ไตรภาคได้สบายๆ ที่เหลือก็อยู่ที่จะเลือกจะแบ่งเล่าเรื่องยังไงให้ลงตัว โดยเฉพาะเมื่อมันเป็นภาคปฐมบทที่จะต้องช่วยปูทางสร้างความสำเร็จขั้นแรก จุดประกายให้คนสนใจใคร่ติดต่อภาคสองภาคสามถัดไป งานหนักมันจึงอยู่ตรงนี้
ซีจี 3 มิติสุดอลัง
จุดเด่นอันแรกสุดเลย คือ หนังที่มีครึ่งหนึ่งเป็นออร์ค พวกเขามีร่างกายใหญ่โต มีเขี้ยวงอกโผล่ออกมาพ้นริมฝีปาก แถมยังมีหลายเผ่าพันธุ์ ทั้งหมดต้องใช้เทคนิคพิเศษเพื่อสร้างภาพการเคลื่อนไหวให้เหมือนจริง อีกทั้งภูมิทัศน์ต่างๆ แทบจะไม่เห็นสิ่งใดเป็นของจริงเลย การพึ่งพาเทคโนโลยีและทีมสร้างงานภาพจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากกับภาพยนตร์เรื่องนี้
การถ่ายทอดงานภาพที่ออกมานั้นชัดเจนว่ามีความใกล้เคียงกับเกมที่คอเกมคุ้นเคยกันอยู่
หากแต่ถ้าพิจารณาภาพอย่างละเอียด ก็จะพบว่า บางจุดหรือบางช่วงของภาพบนจอ จะดูลอยๆ หรือเก็บจุดเล็กจุดน้อยไม่ครบถ้วน อาจพบเห็นได้เพียงเสี้ยววินาที เมื่อดูด้านงาน 3 มิติ ถือว่าสร้างโดยคำนึงถึงความเป็น 3 มิติได้ดีมาก พุ่งทะลุออกมาอย่างชัดเจน แต่ก็นั่นแหละ บางส่วนของภาพก็ยังดูเพี้ยนๆ ลอยๆ ให้จับได้อยู่
งานกำกับจากเจ้าของผลงานอย่าง ‘Moon’
ถือเป็นการกระโดดขึ้นมากำกับหนังฟอร์มยักษ์ของ Duncan Jones (ผกก. จาก ‘Moon’ และ ‘Source Code’ ซึ่งค่อนข้างได้กระแสตอบรับที่ดี) เลยก็ว่าได้ เขาทั้งรับหน้าที่กำกับภาพยนตร์และเขียนบทเอง ซึ่งในส่วนการเขียนบทก็จะมี Charles Leavitt เข้ามาช่วยอีกแรงด้วย
งานกำกับหนังฟอร์มใหญ่ถือไปได้
หนึ่ง คงเป็นที่ตัวละครในเรื่องนั้นค่
ปูเรื่องราวค่อนข้างเบาบาง และเดินเรื่องอย่างรวดเร็ว
อีกหนึ่งคือการเล่าเริ่มเรื่
หนังยังมีปัญหาด้านการตัดต่ออยู่บ้าง เหมือนว่ามันจะเดินไปข้างหน้าด้วยกำลังช้างสาร มิสนจะรีรอผู้ใดที่ตามมาข้างหลัง ผู้ชมไม่มีบางเวลาเอาไว้ให้ซึมซับความรู้สึกของตัวละคร ไม่มีช่วงผ่อนแล้วมาเล่นซีนอารมณ์ให้คนดูได้อินเพื่อจะได้เอาใจช่วยพวกเขา
หากพิจารณาด้านความสวยงามด้านงานภาพ ถือว่า ‘Warcraft: The Beginning’ ก็ทำได้ค่อนข้างดี แต่มีปัญหาอยู่บ้างในการปูเรื่องไม่ลงลึกมากพอและการเล่าเรื่องที่เดินหน้าเร็วเกิน ไม่ทำให้อินกับตัวละครได้อย่างที่ควรจะเป็น
แต่ก็ยังหวังว่า เราจะได้ดูจบครบทุกภาคอยู่ดี
ชื่อภาพยนตร์: Warcraft: The Beginning / Warcraft / กำเนิดศึกสองพิภพ
ผู้กำกับภาพยนตร์: Duncan Jones
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Duncan Jones (screenplay), Charles Leavitt (screenplay), Chris Metzen (story and characters)
นักแสดงนำ: Travis Fimmel, Paula Patton, Ben Foster, Dominic Cooper, Toby Kebbell, Ben Schnetzer, Robert Kazinsky, Daniel Wu
ความยาว: 123 นาที
แนว/ประเภท: Action, Adventure, Fantasy
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
เรท: ไทย/น13+, MPAA/PG-13
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 26 พฤษภาคม 2559
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Atlas Entertainment, Legendary Pictures, Blizzard Entertainment, UIP
กำเนิดศึกสองพิภพ
Warcraft: The Beginning - 5.7
5.7
Warcraft: The Beginning
การเล่าเริ่มเรื่องที่ไม่ครอบคลุมพอ จนคนที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางมาก่อนเป็นงงว่าตกลงเรื่องราวมันเป็นมายังไง ทั้งหนังยังมีปัญหาด้านการตัดต่ออยู่บ้าง ความสวยงามด้านภาพนับเป็นจุดเด่นของหนัง และเรื่องราวน่าจะตอบโจทย์เฉพาะคอเกมที่รู้จักพวกเขาอยู่ก่อนแล้วเท่านั้น