ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นตัวแทนจากประเทศอังกฤษในการเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศในปีนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำในกรุงอัมมาน จอร์แดน และสมมติให้เป็นจุดใดจุดหนึ่งในกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน เป็นการก้าวขึ้นกำกับหนังยาวครั้งแรกของ บาบัก อันวารี (Babak Anvari) ปัจจุบัน เขาอยู่ในอังกฤษ แต่เขาเกิดและเติบโตในกรุงเตหะรานมา 19 ปี ใช้ประสบการณ์ส่วนตัวมาสร้างเป็นหนังอย่าง ‘Under The Shadow’
หนังเรื่องนี้จึงเป็นการหยิบเอาส่วนเสี้ยววัยเด็กมาบอกเล่าในสไตล์สยองขวัญ-ระทึกขวัญ เป็นการเล่าเหตุการณ์บ้านเมืองของอิหร่านในยุคสมัยที่ยังรบอยู่กับอิรัก และมุ่งเน้นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครอบครัวเล็กๆ ที่ต้องประสบชะตากรรมภายใต้สงครามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นี่คือหนังสยองขวัญที่อยู่ภายใต้บริบทที่แปลกใหม่สำหรับผม
เรื่องย่อหนัง ‘Under The Shadow’
ครอบครัวเล็กๆ ของชิเดห์ (Narges Rashidi) ผู้เป็นและลูกสาว ดอร์ซ่า (Avin Manshadi) ที่ต้องอยู่กันเพียงลำพังในวันที่พ่อต้องจากไปเป็นหมอในพื้นที่สงคราม ด้วยความหัวสมัยใหม่ของชิเดห์ เธอเลือกจะอยู่ที่เดิมแม้จะเริ่มเห็นคนข้างบ้านทะยอยพากันย้ายไปเมืองอื่นทีละราย
โดยไม่รู้เลยว่า กำลังมีภัยบางอย่างที่กำลังเกิดขึ้นกับทั้งสองคน
ในห้วงเวลาของสงคราม ภัยที่มาเยือนนอกเหนือไปจะต้องระวังระเบิดที่จะลงมาทำลายที่อยู่อาศัยและชีวิตของพวกเขาแล้ว ภัยอีกด้านที่มาเยือนโดยไม่รู้ตัว ก็คือภัยมืดที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร หรือไม่มีใครจะหนีรอดจากมันได้ เพราะมันเป็นเหมือนสายลมที่สามารถจะพัดไปทุกที่ และชิเดห์ก็เช่นกัน เธอเชื่อมั่นว่าเธอสามารถอยู่ที่นี่ได้ แต่ยิ่งหลายวันเข้า เธอยิ่งพบว่า…
บางสิ่งที่น่ากลัวกำลังคืบคลานเข้ามาและมันจะไม่ยอมให้เธอจากไหน
รีวิวหนัง ‘Under The Shadow’
หนังเริ่มต้นเรื่องด้วยการปู เป็นปกติของหนังทุกเรื่อง แต่หนังใช้ช่วงเวลาเหล่านี้ได้คุ้มค่า เขาปูทางให้เรารู้จักกับตัวชิเดห์พร้อมๆ กันไปกับรู้จักเมืองๆ นี้ รู้จักวัฒนธรรม ความคิด ที่หลอมรวมให้เรื่องราวหลังจากนั้นดูทรงพลังมากขึ้น แม้ว่านี่จะเป็นหนังสยองขวัญเรื่องหนึ่งก็ตาม
อิหร่านในยุคนั้นมีแต่สงครามที่รบกันยืดเยื้อยาวนานกับอิรัก ขณะเดียวกันก็เป็นประเทศอิสลามที่เคร่งครัดในศาสนา สิทธิสตรีดูด้อยค่าไร้ความสำคัญถูกจัดระเบียบไปเสียหมดแม้กระทั่งการแต่งตัวออกนอกบ้าน ทุกอย่างดูบีบคั้นให้ผู้หญิงในประเทศนั้นเครียดมากกว่าผู้ชาย
เธออยากจะกลับไปเรียนอีกครั้งแต่สถาบันก็ไม่ยอมรับเธอ สามีที่เป็นหมอก็ต้องเดินทางไปทำงานในที่ที่อันตราย เธอมีเพียงดอร์ซ่า ลูกสาวตัวจ้อยแสนเจื้อยแจ้วที่เอาแต่ติดเจ้าตุ๊กตาคู่ใจนั่นเสียเหลือเกิน
ในวันที่ตุ๊กตาเกิดหายไป ลูกสาวเธอก็ได้แต่ตามหาอย่างเอาเป็นเอาตาย และเธอก็เริ่มพบความผิดปกติในตัวดอร์ซ่ามากขึ้นเรื่อยๆ
ถือได้ว่าหนังใช้บริบทของเมือง ความเชื่อ ศาสนา และลักษณะของตัวละครมาสร้างให้เป็นสถานการณ์ชวนสะดุ้งสยองได้เป็นอย่างดี ผู้ชมจะเริ่มได้รับรู้มากขึ้นเรื่อยๆ และจะค่อยๆ เพิ่มความสงสัยที่พัฒนาจากความไม่เชื่อเลย กลายเป็นความเคลือบแคลงสงสัย
และสุดท้าย คนดูจะมีความคิดเดียวกับชิเดห์ในที่สุด
หนังไม่ใช้จังหวะการหลอกพร่ำเพรื่อนัก จนเรียกได้ว่า “ทำน้อยแต่ได้มาก” คือมาทีไรเล่นเอาสะดุ้งสุดตัว เพราะไม่คาดคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นในตอนนั้น หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ขณะดู เราไม่รู้เลยว่านี่เรากำลังเจอกับเหตุการณ์ใดอยู่ คาดเดาไม่ถูกว่าจะได้เจอกับอะไร บางหนเราเฝ้ามองเพราะเชื่อว่าจะต้องเจอ แต่กลับกลายเป็นว่าเราถูกหลอกให้เดา
ต้องชื่นชมการเล่นกับจังหวะที่ทำได้อยู่หมัดจริงๆ
ช่วงไคล์แมกซ์ของหนังเหมือนจะเป็นการเร่งทุกอย่างให้ต้องลุ้นกันสุดตัว ก่อนที่หนังจะจบลงอย่างปัจจุบันทันด่วนและไม่เฉลยเสียทั้งหมด
บทสรุปมันจึงอาจจะเป็นในทางไหนก็ได้ และอาจมีปมบางอย่างที่หนังต้องการจะบอกแต่เราต้องขบคิดกันเพิ่มเติม เหมือนหนังจะทิ้งปริศนาให้อยู่แต่ในใจของผู้ชม
ทำให้หนังจบแต่คนไม่จบ …หลอนต่อออกมานอกโรง
ชื่อภาพยนตร์: Under The Show / อันเดอร์ เดอะ ชาโดว์ / ผีทะลุบ้าน ภาพยนตร์ในโครงการ The Little Big Films Project 11
ผู้กำกับภาพยนตร์: Babak Anvari
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Babak Anvari
นักแสดงนำ: Narges Rashidi, Avin Manshadi, Bobby Naderi, Ray Haratian, Arash Marandi
แนว/ประเภท: Horror, Thriller
ความยาว: 84 นาที
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
เรท: ไทย/ , USA/PG-13
วันเข้าฉายในประเทศไทย: 13 ตุลาคม 2559
ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย/สตูดิโอ: Wigwam Films
ผีทะลุบ้าน
Under The Show - 8.1
8.1
Under The Show
หนังไม่ใช้จังหวะการหลอกพร่ำเพรื่อนัก จนเรียกได้ว่า "ทำน้อยแต่ได้มาก" คือมาทีไรเล่นเอาสะดุ้งสุดตัว เพราะไม่คาดคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นในตอนนั้น หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ขณะดู เราไม่รู้เลยว่านี่เรากำลังเจอกับเหตุการณ์ใดอยู่ คาดเดาไม่ถูกว่าจะได้เจอกับอะไร บางหนเราเฝ้ามองเพราะเชื่อว่าจะต้องเจอ แต่กลับกลายเป็นว่าเราถูกหลอกให้เดา
1 คอมเมนต์