
ต้องบอกว่ามันเป็นหนังอีกเรื่องที่นายแพทตั้งตารอดู ส่วนหนึ่งมันเป็นผลงานล่าสุดของ โจนาธาน เกลเซอร์ ที่มีชื่อเข้าชิงออสการ์ถึง 5 สาขา รวมทั้งภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปี เรื่องราวของคฤหาสน์หลังหนึ่งที่อยู่ข้างๆ ค่ายทหารของนาซี นั่นแหละ ผมกำลังหมายถึงหนังเรื่อง ‘The Zone of Interest’ ชื่อไทย ‘วิมานนาซี’ ซึ่งเพิ่งได้ไปดูมา และจะขอเล่าความรู้สึกให้อ่านกันในบทความนี้ครับ
ความเห็นส่วนตัวของนายแพท
ไม่ใช่แค่ทหารนาซีที่ก่อความน่าสยดสยองให้เกิดขึ้นเท่านั้น แต่หนังเรื่องนี้ส่องสะท้อนถึงความคิดจิตใจของคนธรรมดาที่เพิกเฉยต่อความเลวร้ายของชนชาติตนเอง พวกเขาก็เลือดเย็นเช่นกัน มีชีวิตที่ผาสุกในสรวงสวรรค์ที่อยู่ข้างๆ นรกและห่างกันเพียงรั้วกั้น หนังเดินเรื่องอย่างเรียบๆ แต่เฉียบคมด้วยการปล่อยให้คนดูซึมซับความชั่วช้าผ่านงานภาพที่เหมือนพาคนดูแอบมองทุกการกระทำ แอบฟังเสียงพวกเขาสนทนา ขณะเดียวกันก็สังเกตเห็นบางสิ่งนอกรั้ว หนังที่อาจกระทบใจจนออกมานั่งซึมนอกโรง
ประสบการณ์ความหดหู่ที่ถูกถ่ายทอดให้คนดูสัมผัสได้ในโรงหนัง!
เรื่องย่อหนัง ‘The Zone of Interest’
ย้อนกลับไปยังโลกในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 สัมผัสช่วงเวลาอันแสนสุขในคฤหาสน์ของตระกูลเฮิส มีสวนสวยที่ปลูกไม้ดอกหลายชนิด มีสระว่ายพร้อมกระดานลื่น ที่แห่งนี้ถือว่าเกินฝันมากแล้ว สำหรับ เฮ็ดวิก เฮิส (Sandra Hüller จากหนังเรื่อง ‘Anatomy of a Fall’) และลูกๆ ของเธอ
แต่ถัดออกไปไม่กี่เอเคอร์ ที่นี่คือกำแพงสังหารของค่ายล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวที่ รูดอล์ฟ เฮิส (Christian Friedel จากซีรีส์ ‘Perfume’ ) เป็นผู้บัญชาการอยู่ คงไม่ผิดอะไรนัก ถ้าจะบอกว่าบ้านหลังสวยหลังใหญ่แห่งนี้คือสรวงสวรรค์ท่ามกลางนรก
รีวิวหนัง ‘วิมานนาซี’
เมื่อพูดถึงชื่อผู้กำกับ Jonathan Glazer คนที่เคยกำกับหนังสุดแปลกอย่าง ‘Under the Skin’ เราคงคุ้นชื่อเขาอยู่ แต่ผมกลับไม่ได้ดูหนังของเขาเท่าไหร่นัก เป็นผู้กำกับที่มีวิสัยทัศน์แหวกแนว แถมยังชอบรับงานกำกับมิวสิควิดีโอ การได้มาดูหนังเรื่องในโรงหนังถือเป็นเรื่องที่ดี ต้องขอขอบคุณ BrandThink Cinema ที่คว้าเรื่องนี้เข้ามาฉายในไทย
หนังมันเล่าเรื่องของคฤหาสน์หลังหนึ่งที่มีอาณาบริเวณกว้างขวางพอสมควร แบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจน ครึ่งหนึ่งเป็นตัวบ้านหลังใหญ่ ที่มีห้องมากมาย พอให้สามารถรับรองแขกเหรื่อได้ [แถมมีสมุดเยี่ยมชมอีกต่างหาก] อีกส่วนเป็นสวน ปลูกหญ้าเขียว มีสระวายน้ำพร้อมกระดานลื่น แบ่งอีกส่วนไว้ปลูกไม้ดอกนานาชนิด รวมทั้งไม้เลื้อยต่างๆ ด้วย ใครได้อยู่ในบ้านแบบนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นชีวิตที่น่าอิจฉา ก็คิดดูสิว่า เฮ็ดวิก คุณนายบ้านนี้แกยังเรียกตัวเองว่า ราชินิแห่งเอาต์ชวิตช์ เลยเชียวนา
แต่ถ้ามองออกไปนอกรั้วคฤหาสน์ เราจะเห็นโลกความจริงอีกฝั่ง ว่าความเลวร้ายยังคงอยู่ข้างนอกนั่น แต่เหมือนคนในบ้านหลังนี้ไม่ได้สำเหนียกอะไรเช่นนั้นเลย ยังคงใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขโดยที่ไม่มองเห็นคนอีกกลุ่มว่าเป็นมนุษย์เหมือนๆ กัน
การเล่าเรื่องของหนัง เป็นสไตล์ตั้งกล้องถ่ายเก็บชีวิตประจำวันของคนในคฤหาสน์หลังนี้ ตั้งใจให้ดูเหมือนไม่มีบทพูดที่เป็นเรื่องเป็นราว จงใจให้เราเงี่ยหูฟังว่า พวกเขาพูดอะไรกัน ซึ่งบทสนทนาของพวกเขานั้นก็บ่งบอกในสิ่งที่ต้องการนำเสนอได้เป็นอย่างดี นอกรั้วเป็นค่ายทหาร ที่มีเสียงปืนดังรัว ไม่ไกลนัก มีปล่องไฟที่มีควันดำพวยพุ่งตลอดเวลา ต่อให้ไม่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์ก็พอจะรู้ว่า นาซีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว หรือที่เขาเรียกว่า ฮอโลคอสต์ (The Holocaust) และนอกรั้วของคฤหาสน์ก็คือพื้นที่สังหารอันโหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรมเหล่านั้น
มันเป็นวิธีการเล่าเรื่องที่ดูแปลกดี เดินเรื่องแบบเรียบนิ่งแต่ส่งกลิ่นแห่งการเสียดสีให้คละคลุ้งออกมา เลือกพูดอ้อม ไม่พูดอะไรแบบตรงๆ เน้นให้คนเห็นเอาเองโดยไม่ได้ระบุแบบเต็มๆ ผ่านชีวิตของครอบครัวสุขสบายท่ามกลางเรื่องเลวร้ายที่พวกเขากระทำแต่เพิกเฉยและมองไม่เห็นมัน
ทุกช่วงเวลาของหนังแฝงความเลวร้ายที่คนดูจะสัมผัสได้ผ่าน ‘ตา’ ที่สังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆ คฤหาสน์ เสื้อผ้าที่ใส่ ปุ๋ยที่เขาใช้ บ่งบอกความสุขสบายและสวยงามที่ได้มาจากการคร่าชีวิตจำนวนมหาศาล ‘หู’ ที่ได้ยินบทสนทนาเหล่านั้น บางส่วนเป็นเสียงของธรรมชาติ แต่ต่อมาก็กลายเป็นเสียงปืน เครื่องบิน และเสียงกรีดร้องโอดครวญ พร้อมกันนั้น ก็ยังได้ยินเสียงดนตรีประกอบที่บีบอารมณ์และชวนรู้สึกหดหู่
ในเรื่องนี้ เราจะได้เห็นอีกหนึ่งผลงานการแสดงของ Sandra Hüller ที่คราวนี้เปลี่ยนบทบาทเป็นคุณนายเฮ็ดวิกแห่งคฤหาสน์เฮิส ผู้ที่ปรีดาในชีวิตเกินฝัน เพิกเผยต่อสิ่งที่สามีและชนชาติของตนกระทำ ขณะที่ส่วนตัวสนใจในตัวละครแม่ของเฮ็ดวิกที่มาเยี่ยมเยียนบ้าน แต่กลับรู้สึกสะอิดสะเอียนกับสิ่งที่เกิดขึ้น คุณแม่คนนี้อาจเป็นตัวแทนของคนดูก็ได้
หนังส่งออกความเลือดเย็นของคนในวิมานนาซีออกมาให้เห็นเด่นชัดแม้จะไม่มีฉากโหดๆ แบบจะแจ้งให้เห็นเหมือนเช่นหนังเรื่องอื่น แต่ผู้ชมจะนึกภาพต่อได้เองว่า จริงๆ มันเกิดอะไรขึ้นข้างนอกนั่น เป็นลูกเล่นที่ร้ายกาจ บอกได้เลยว่า เป็นหนังที่ดูง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อนยากเกินจะเข้าใจ เพียงแต่วิธีการเล่าแบบนี้ อาจจะไม่แนวที่ทุกคนจะชอบเท่านั้นเอง
รายละเอียดเกี่ยวกับ วิมานนาซี
ชื่อภาพยนตร์ | The Zone of Interest / วิมานนาซี |
กำกับ | Jonathan Glazer |
เขียนบท | Jonathan Glazer (จากบทประพันธ์ของ Martin Amis) |
แสดงนำ | Christian Friedel, Sandra Hüller, Johann Karthaus |
แนว/ประเภท | ดราม่า, ประวัติศาสตร์, สงคราม |
เรท | PG-13 |
ความยาว | 105 นาที |
ปี | 2023 |
สัญชาติ | สหราชอาณาจักร |
เข้าฉายในไทย | 1-3 มีนาคม 2024: ที่เฮาส์ สามย่าน, เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ และเอสเอฟ ซีเนม่า เข้าฉายจริง: 7 มีนาคม 2024 |
ผลิต/จัดจำหน่าย | A24, Access Entertainment, Film4, BrandThink Cinema |
คะแนนรีวิวหนัง วิมานนาซี
พล็อตและบท - 9
การแสดง - 9
การดำเนินเรื่อง/ตัดต่อ - 9
เพลงและดนตรีประกอบ - 9
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษ และโปรดักชั่น - 9
9
The Zone of Interest
ไม่ใช่แค่ทหารนาซีที่ก่อความน่าสยดสยองให้เกิดขึ้นเท่านั้น แต่หนังเรื่องนี้ส่องสะท้อนถึงความคิดจิตใจของคนธรรมดาที่เพิกเฉยต่อความเลวร้ายของชนชาติตนเอง พวกเขาก็เลือดเย็นเช่นกัน มีชีวิตที่ผาสุกในสรวงสวรรค์ที่อยู่ข้างๆ นรกและห่างกันเพียงรั้วกั้น หนังเดินเรื่องอย่างเรียบๆ แต่เฉียบคมด้วยการปล่อยให้คนดูซึมซับความชั่วช้าผ่านงานภาพที่เหมือนพาคนดูแอบมองทุกการกระทำ แอบฟังเสียงพวกเขาสนทนา ขณะเดียวกันก็สังเกตเห็นบางสิ่งนอกรั้ว หนังที่อาจกระทบใจจนออกมานั่งซึมนอกโรง