รีวิวหนัง The Reef: Stalked ครีบพิฆาต | ฉลามระทึกแบบเอื่อยเฉื่อย

หนังที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับฉลามที่ออกอาละวาดไล่ว่ายกัดทำร้ายคนคงยังถูกสร้างอย่างต่อเนื่อง สร้างภาพจำเกี่ยวกับความโหดร้ายของสัตว์นักล่าในทะเลที่น้อยนักจะมีข่าวทำร้ายผู้คน แต่มันก็ยังเป็นหนังที่คนดูจำนวนหนึ่งชื่นชอบ และเสพติดความระทึกกับหนังสไตล์นี้เสมอมา หนังบางเรื่องถึงขั้นสร้างภาคต่อหลังประสบความสำเร็จจากภาคแรก และเรื่องนี้ก็เช่นกัน ‘The Reef: Stalked ครีบพิฆาต’

หนังภาคแรกอย่าง ‘The Reef’ กำกับโดย Andrew Traucki เข้าฉายในโรงเมื่อปี 2010 ครั้งนั้นเขาเล่าเรื่องของเพื่อนทั้งห้าที่แล่นเรือจากซิดนีย์ไปอินโดนีเซียก่อนจะเรือจะชนปะการังและพวกเขาต้องว่ายหนีตายจากภัยฉลามขาวที่หิวกระหาย มาครั้งนี้ ปี 2022 เป็นผู้กำกับคนเดิมที่กลับมาอีกครั้ง แต่หันไปเล่าเรื่องราวของผู้เคราะห์ร้ายที่เป็นหญิงล้วน แต่ยังคงเป็นทะเลแถบออสเตรเลียเหมือนเดิม

ได้เวลาไปสัมผัสว่า ภาคต่อหนังฉลามเรื่องนี้จะออกมาปังหรือไม่อย่างไรกันแล้วล่ะครับ

เรื่องย่อหนัง ‘The Reef: Stalked’

เรื่องราวของสี่สาวที่เดินทางไปเที่ยวทะเลด้วยกันในทริปเยียวยาจิตใจ ทุกอย่างมันเริ่มต้นขึ้นจากวันที่ นิค (Teressa Liane) ได้รับรู้ว่าแคที่ (Bridget Burt) น้องสาวคนสนิทถูกแฟนหนุ่มของเธอทำร้ายจนเสียชีวิตในอ่างอาบน้ำ ภาพเหล่านั้นยังคงหลอนใจเธอเรื่อยมา แต่แล้ว เพื่อนๆ ก็นัดหมายร่วมกันจัดทริปครั้งนี้ขึ้น

นิค ได้กลับมาเจอกับกลุ่มเพื่อนสาวพร้อมหน้าอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น โจดี้ (Ann Truong) และ ลิซ่า (Kate Lister) แถมยังมีเซอร์ไพรส์ เมื่อ แอนนี่ (Saskia Archer) น้องสาวที่ไม่ได้ชอบกิจกรรมทางทะเลเท่าไหร่นักแถมยังห่างเหินกันไปในช่วงหลัง กลายเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับนิค ก่อนที่จะรู้ตัวว่าทริปฮีลใจครั้งนี้ไม่ได้ฮีลจริงอย่างที่เพื่อนๆ คิด

ทริปครั้งนี้ เป็นการพายเรือคายัคและดำน้ำ ทุกอย่างดูเหมือนจะเริ่มได้ด้วยดี นิคที่ยังคงมีแผลใจกับภาพหลอนของวันที่แคที่ถูกฆาตกรรมก็กลับได้พบเจอเหตุน่าสะพรึงกลัว เมื่อพบว่ามีฉลามตัวหนึ่งว่ายวนอยู่รอบๆ กลุ่มของเธอ พร้อมจะเข้ากัดทำร้ายได้ทุกเมื่อ และเธอต้องหาทางเอาตัวรอดจากภัยร้ายกลางทะเลนี้ไปให้ได้

รีวิวหนัง ‘ครีบพิฆาต’

อาจดูไม่แตกต่างกับหนังฉลามเรื่องอื่นๆ เท่าไหร่นัก หนังมักเขียนให้ตัวละครสักตัวมีปัญหาทางจิตใจ ไม่ก็มีปัญหาทะเลาะหรือผิดใจกับอีกตัวละคร แต่ในระหว่างทริปก็ต้องพบเจอกับภัยร้ายจากฉลาม และต่างก็ต้องทั้งช่วยกัน ทะเลาะกันและเคลียร์ใจกัน เพื่อจะฟันฝ่าภารกิจเอาชีวิตรอดครั้งนี้ไปให้ได้ หนังเรื่องนี้ก็ไม่ต่างกัน

หนึ่งในตัวละครทั้งสี่ คือ นิค เผชิญกับเหตุ trauma ที่หลอนหัวเธอไม่เว้นวาย ภาพความเลวร้ายของน้องสาวที่ถูกแฟนหนุ่มพลั้งมือฆ่ายังคงติดตาไม่หาย (แม้ว่ามันจะเป็นภาพที่เธอมโนเอาเองก็ตาม) จนไม่อาจแม้แต่จะลงเล่นน้ำและเลิกงานสอนดำน้ำไปโดยปริยาย แต่เมื่อเพื่อนสนิทจัดทริปเยียวยาจิตใจ เธอก็ยินยอมมาร่วมด้วย ทั้งยังได้พบกับแอนนี่น้องสาวอีกคนที่ระยะหลังค่อนข้างห่างไป ทริปนี้คงเป็นโอกาสที่จะได้สานความสัมพันธ์กันใหม่

ทริปนี้ มีทั้งเดินป่า พายเรือคายัค และดำน้ำพร้อมฉมวกแทงปลาที่จะเอามาทำอาหารกัน ผู้ชมอย่างเราๆ ได้เห็นแนวระบบนิเวศน์ใต้ท้องทะเลของออสเตรเลียพอประมาณในช่วงต้นเรื่อง ก่อนที่เปลี่ยนไปเป็นช่วงเวลาของการเผชิญหน้ากับฉลามตัวร้ายที่โผล่มาอย่างไม่ทันตั้งตัว ทริปนี้เปลี่ยนไปจากฮีลใจ กลายเป็นทริปเอาตัวรอด

แม้หนังที่จะตัดต่อแบบไม่โปร แต่ในช่วงต้น หนังก็ทำได้ดีในจังหวะลุ้นระทึก ชวนสะดุ้งและผวายามที่พวกเธอต้องรับมือกับฉลาม ทว่า หลังจากนั้น สิ่งที่รู้สึกตอนแรกกลับเปลี่ยนไปเป็นอีกด้าน

หนังพาไปพบกับภารกิจใหม่ นอกจากต้องช่วยเหลือตัวเองแล้ว พวกเธอยังต้องช่วยตัวละครกลุ่มอื่นด้วย เรียกว่า หาเรื่องให้ตัวเองโดยแท้ สร้างภารกิจใหม่ให้ตัวเองไม่พอ ยังหาเรื่องทะเลาะและเคลียร์ใจกันตามสูตร สลับกันไปกับอุปสรรคที่เข้ามาไม่ขาด ฉลามตัวร้ายก็ยังคงแสดงอาการโรคจิตคอยติดตามราวกับเป็นสตอล์กเกอร์ เหตุการณ์น่าขัดใจนั้นอาจไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับหนังแนวนี้ แต่น่าเสียดายนี่ หนังเดินเรื่องอย่างค่อนข้างเอื่อยเฉื่อย ทำให้จังหวะที่ควรจะลุ้นกลายเป็นความอึดอัด และเกิดคำถามในใจคนดูว่า เมื่อไหร่จะถึงจังหวะนั้นเสียที

น่าชื่นชมอยู่พอสมควรในการตัดต่อฉากของฉลามกับคน ภาพฟุตเทจที่ใส่มานั้น ฉลามดูจริงและทำให้น่ากลัวจนต้องลุ้นเกร็งอยู่หลายจังหวะ แต่บางช็อต ใช้ซีจีเข้าช่วยชนิดที่โคตรไม่เนียนจนเห็นได้ชัด ส่วนช่วงเวลาสุดท้ายที่หนังกำลังจะสร้างบทลงเอย ดูเหมือนตัวละครจะค่อนข้างฉลาดพอสมควร และคิดแผนการรับมือขึ้นมาได้ แต่ทุกอย่างก็ดูไม่แนบเนียนเกินไป แถมคล้ายจะเล่นง่ายเกิน จนบทลงเอยมันไม่น่าประทับใจเท่าที่ควรจากนั้นก็ตัดจบเลย

สุดท้าย เลยกลายเป็นหนังฉลามที่ไม่ชวนตื่นเต้นและตกใจกลัวอย่างที่ควรจะเป็น

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง

ขอบคุณภาพประกอบจาก: สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชันแนล