รีวิวหนัง ซองแดงแต่งผี The Red Envelope | ฮารั่วตลอดเรื่อง

หลังจากเคยได้ชมเวอร์ชันไต้หวันที่สตรีมฉายในเน็ตฟลิกซ์ และพบว่าเป็นหนังน่าประทับใจที่ใส่ความมีอะไรลงไปในหนังคอมเมดี้ของคนที่แต่งกับศพ ก็ได้เวลาที่คนไทยจะสัมผัสกับ ‘ซองแดงแต่งผี’ หรือชื่อฝรั่ง ๆ ว่า ‘The Red Envelope’ กันในโรงหนังบ้านเรากันแล้ว ได้เวลาที่คนไทยจะได้พบหนังที่รีเมกมาและใส่บริบทแบบไทย ๆ เข้าไป ว่าจะสนุกมากมายแตกต่างจากเวอร์ชันเดิมยังไง

คิดเห็นเช่นไรกับหนังไทยเรื่องนี้?

หนังไต้หวันที่รีเมกเป็นเวอร์ชันไทย เล่าเรื่องของชายแท้ที่ได้แต่งงานกับผี LGBTQ+ ได้สนุกสนานและรวมเอาหลายสิ่งมาผสมรวมกันได้อย่างลงตัว ภารกิจพาตีตี๋ไปผุดไปเกิดที่นำไปสู่หลากเรื่องราวชวนบันเทิง จึงเป็นทั้งหนังแฟนตาซีของผีที่แต่งหลอก ๆ กับคนเป็น ทั้งเรื่องรสนิยมทางเพศที่แตกต่าง ทั้งเรื่องอาชญากรรม ยาเสพติด และชีวิตตำรวจ

ส่วนหนึ่งของความสนุกก็คงเป็นการที่นำคู่จิ้นอย่าง พีพี-บิวกิ้น มารับบทร่วมกัน เคมีที่เข้าคู่กันได้ดีจริงๆ

เรื่องย่อหนัง ‘The Red Envelope’

มันเป็นเรื่องราวการจากไปของตี่ตี๋ (พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร จากซีรีส์ ‘รักติดไซเรน’) ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ แต่เพราะบางสิ่งทำให้เขาไม่สามารถไปเกิดได้ ซินแสบอกว่าอาตี่ตี๋จากไปอย่างไม่สงบ ให้คำปรึกษากับอาม่าว่าต้องจัดพิธีแต่งงานกับผี นั่นคืออาม่าต้องหาคู่แต่งงานให้กับอาตีตี๋ อาม่าตัดเล็บและผมใส่ซองแดงไปวางทิ้งไว้ ใครเก็บคนนั้นคือคู่แต่งงานของอาตีตี๋ที่ชะตาฟ้าดินเลือกให้

ซึ่งผลก็ออกมาว่าเป็น เม่น (บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล จากหนัง ‘หลานม่า’) ชายหนุ่มที่เคยเป็นโจรมาก่อน ก่อนจะกลายมาเป็นสายของตำรวจ แต่เขาก็มักทำงานพังเสมอ

การต้องมาแต่งกับผีแบบไม่เต็มใจอย่างนี้ ทำให้เม่นต้องหาทางให้ตี่ตี๋ได้ผุดไปเกิดโดยไว ภารกิจค้นหาสาเหตุของการไปเกิดไม่ได้จึงเริ่มต้นขึ้น ขั้นตอนแรกคือ การลบคลิปเด็ด ๆ ที่เก็บไว้ในมือถือ แต่นั่นก็ไม่ใช่ หรือว่าจะเป็นการหาทางเอาคนที่ขับรถชนตี่ตี๋เข้าคุก ทำให้เม่นต้องกลับไปเป็นสายให้ตำรวจอีกครั้ง แต่มันจะยังใช่อยู่หรือเปล่าน้าา

รีวิวหนัง ‘ซองแดงแต่งผี’

ก่อนหน้านี้ มันมีหนังไต้หวันเรื่องหนึ่งชื่อ ‘Marry My Dead Body’ ที่ถูกสร้างออกฉายในปี 2022 ก่อนจะกลายเป็นหนังตัวแทนประเทศเข้าชิงออสการ์สาขา ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม และเมื่อหลาย genre เรื่องนี้ เข้าฉายในสตรีมมิ่งชื่อดังอย่างเน็ตฟลิกซ์ ก็มีคนเปิดดู พูดถึงและบอกต่อกันอย่างมากมาย และในระหว่าง เราก็ได้รับรู้ว่า มันกำลังถูกสร้างเป็นเวอร์ชันไทย รอกันได้ไม่ทันไร มันก็เตรียมเข้าฉายในโรงหนังบ้านเกิดให้คนไทยได้สนุกสนานกับเรื่องราวการแต่งงานของคนกับผีในบริบทแบบไทย

คราวนี้ บิวกิ้นได้เจออาม่าอีกคน แต่หนนี้ เป็นอาม่าของอาตี่ตี๋ผู้วายชนม์ที่หาทางให้หลานสมหวังเพื่อจะได้ไปผุดไปเกิด ซองแดงที่ถูกวางทิ้งไว้ ดันเป็นเม่นที่เล่นโดยบิวกิ้นหยิบขึ้น อาม่าได้ทีจับเม่นแต่งงานกับหลานตัวเองซะเลย แต่ทว่า การแต่งงานที่ดูไม่จริงครั้งนี้ก็สร้างเรื่องอะไรได้มากมายหลายอย่างเลยล่ะ

เพราะเม่นไม่รู้แน่ชัดว่าทำไมวิญญาณของอาตี่ตี๋จึงไปเกิดไม่ได้ เขาเลยต้องลองผิดลองถูกไปเรื่อย อีกส่วนก็เพราะไม่อยากจะเป็นสามีของผีที่เพศสภาพเดียวกับตัวเองไปนาน ๆ แต่นั่นก็เป็นแค่ช่วงแรกเท่านั้น เพราะยิ่งเขาอยู่กับภารกิจพาอาตี่ตี๋ไปเกิดนานเท่าไหร่ เขาก็คงเข้าอกเข้าใจอาตี่ตี๋มากขึ้นเรื่อย ๆ

หนังพาตัวเองเข้าสู่การเป็นหนังหลาย genre ที่สร้างความบันเทิงด้านเสียงหัวเราะให้กับผู้ชม ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุที่อาตีตี๋ต้องเจอะเจอ เรื่องแฟนตาซีวิญญาณ การเข้าสิงและซินแส เรื่องยาเสพติดที่ตำรวจต้องแฝงตัวเข้าสืบสวนและจับกุม พัวพันไปถึงธุรกิจสนามมวย ไหลรวมไปถึงเรื่องฆาตกรรม ความแตกต่างและการยอมรับในรสนิยมทางเพศของคนอื่น แต่สิ่งที่หนังไม่ลืมจะเล่า นั่นก็คือ เรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัว

นอกจากนี้ หนังก็ยังสร้างปมความขัดแย้งให้กับตัวนำอย่างเม่น เมื่อเขาเองก็มีใจให้กับก๊อย (ก้อย อรัชพร โภคินภากร จากหนัง ‘แอน’) ตำรวจหญิงรุ่นพี่ แต่เขาคือตัวละครชายแท้ที่ต้องมาแต่งงานกับผู้ชายด้วยกัน เขาจึงต้องตกอยู่ท่ามกลางความหลากหลายทางเพศ และประสบการณ์ทั้งหมดจะแปรเปลี่ยนความคิดความรู้สึกให้แตกต่างออกไป ไม่เท่านั้น มันยังบอกเล่าถึงชีวิตตำรวจหญิงที่ไม่ได้รับโอกาสในการทำงานและเจริญก้าวหน้าเทียบเท่ากับตำรวจชายอีกด้วย

ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า บิวกิ้นผู้เล่นเป็นตัวนำของเรื่อง คือคนที่เล่นได้โดดเด่นสุด นำพาเสน่ห์ของการแสดงที่ชวนฮาและเป็นธรรมชาติ ด้วยบทและลีลาทำให้หลายช็อตสร้างเสียงฮาได้อย่างเต็มปากเต็มคำ อีกทั้งเคมีที่เข้ากันได้ดีกับพีพี มีทีมซัพพอร์ตความฮาครบครัน ทั้ง จาตุรงค์ พลบูรณ์, รัศมีแข, เอ็ดดี้ 7 วิ และ แอนนา ชวนชื่น

บวกกับบทที่รวมทุกอย่างไว้ด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมขยี้ตามแบบฉบับของผู้กำกับ หมู ชยนพ และโปรดิวเซอร์มือทองอย่าง โต๊ง บรรจง ทำให้หนังเวอร์ชันนี้ออกมาครบรส ทั้งฮาแต่ไม่ไร้สาระ แถมยังได้ดราม่าน้ำตาซึมกับเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวอีกต่างหาก จึงไม่แปลกอะไรที่จะได้ยินข่าวว่า หนังได้เสียงตอบรับดีมากในรอบสื่อและรอบพิเศษ มียอดจองตั๋วเข้าชมมากมาย จนอาจเป็นการกลับสู่ฟอร์มอีกครั้งของหนังจาก GDH

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง