หลายครั้งหลายหนที่ความเป็นแม่ถูกหยิบมาใช้เพื่อสร้างพล็อตให้กับหนังสักเรื่อง แม่แต่ละคนในหนังเหล่านั้น ต่างก็มีเงื่อนไขของความขัดแย้งที่ต้องแก้ไขที่แตกต่างกันไป ไม่ต่างกับหนังเรื่องนี้ ‘The Mother’ หนังใน Netflix ที่ไม่ตั้งชื่อไทย อาจเพราะไม่รู้จะหาชื่อไหนที่เหมาะกว่านี้ เรื่องราวของแม่นักฆ่าที่จำเป็นต้องยอมให้ลูกเกลียดเพื่อให้ลูกอยู่รอดปลอดภัย
อาจไม่ใช่ผลงานหนังที่ดูน่าสนใจตั้งแต่แรก แต่เมื่อเห็นเน็ตฟลิกซ์แนะนำขึ้นมา พร้อมกับชื่อของนักแสดงนำอย่าง Jennifer Lopez ก็ชวนให้เกิดความสนใจได้ประมาณหนึ่ง ก่อนจะลองเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เข้าไปพบเจอกับหนังแอ็คชันทริลเลอร์ที่มี Niki Caro เป็นผู้กำกับ ด้วยเพราะผลงานของเธอที่เคยผ่านตาก็มีอยู่ไม่น้อย ทั้ง ‘The Zookeeper’s Wife’, ‘North Country’, ‘Whale Rider’ ไม่เว้นแม้แต่ ‘Mulan’
ช่วงนี้ เหมือนจะไม่ค่อยมีรีวิวหนังมาฝากกันสักเท่าไหร่ ขอหยิบมาเขียนถึงหน่อยแล้วกัน
เรื่องย่อหนัง ‘The Mother’
หนังเล่าถึง (Jennifer Lopez จากหนังเรื่อง ‘Shotgun Wedding’, ‘Marry Me’ และ ‘Out of Sight’) สาวอดีตพลแม่นปืนที่เคยประจำการ ก่อนที่ถูกปลดออกมาทำมาหากินกับสองพ่อค้าอาวุธ เอเดรียน โลเวลล์ (Joseph Fiennes) และ เฮคเตอร์ อัลวาเรซ (Gael García Bernal) และลงเอยด้วยการตั้งท้อง เธอถูกตามล่าจากพวกมัน แต่ระหว่างถูกเอฟบีไอสอบสวน เหตุการณ์กลับกลายเป็นว่าพวกมันฆ่าเจ้าหน้าที่ตายหมด เหลือแค่เพียง ครูซ (Omari Hardwick จากหนังเรื่อง ‘Army of the Dead’ และซีรีส์เรื่อง ‘Power’) ที่เธอช่วยเอาไว้ได้
เมื่อคลอดลูกสาวได้สำเร็จ เธอมองเห็นหนทางข้างหน้าว่าคงจะพบแต่การตามล่าของคู่อริเก่า จำเป็นต้องเสียสิทธิในการเลี้ยงดูและมองเห็นเขาเติบโต จำใจต้องปล่อยลูกสาวให้คนอื่นเลี้ยง ส่วนเธอก็ต้องหายตัวไป และยอมให้เจ้าหน้าที่ครูซติดตามดูแลความปลอดภัยแทน
เวลาผ่านไป 12 ปี ลูกสาวของเธอกลายเป็นโซอี้ (Lucy Paez) เด็กสาววัย 12 ขวบ เธอได้กลับมาเจอหน้าอีกครั้งแต่ไม่อาจแสดงตนเป็นแม่ได้ เธอพยายามปกป้องอันตรายและช่วยชีวิตลูกสาวจากพวกมันอย่างเต็มที่ ยอมแลกด้วยชีวิตขอเพียงลูกสาวของเธอปลอดภัยเท่านั้น
รีวิวหนัง ‘The Mother’
เอาเข้าจริง ด้วยพล็อตแล้วมันไม่ได้มีอะไรที่ใหม่เลยสักนิดเดียว ที่เลือกดูเพราะชื่อนักแสดง กับพล็อตที่ว่าด้วยเรื่องราวความเป็นแม่ที่ต้องกาารปกป้องลูกเท่านั้น อาจจะบวกกับทัศนียภาพในหนังที่เน้นฉากหิมะขาวโพลน กับคอสตูมชุดขนสัตว์ เลยทำให้ลองเปิดใจเข้าไปดูเสียหน่อย ถือเป็นการคั่นเวลาระหว่างที่ไม่รู้จะดูอะไร
แต่เมื่อเขาจริงๆ ก็กลับพบว่า เออแฮะ หนังมันก็เพลินดีเหมือนกันนะ เพิ่มเติมความน่าสนใจมาอีกอย่าง ตรงที่เขาเลือกให้สาวน้อยหน้าใสอย่าง Lucy Paez มาเล่นเป็นโซอี้วัย 12 ขวบนี่แหละ ผลงานของเธอยังมีไม่มาก และก็ยังไม่มีงานที่เข้าตาผู้คนเลย
แต่ไปๆ มาๆ กลับเป็นบทหนังเองที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ พาตะขิดตะขวงใจในบางจุด เรื่องราวก็เดินไปตามสูตรหนังแนวนี้ ไม่มีอะไรให้เซอร์ไพรส์ หรือคาดเดายาก เปิดมาแต่ละซีนก็แทบจะเดาได้หมดแล้วว่า เดี๋ยวมันต้องเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้แน่เลย ซึ่งก็พบว่ามันก็เป็นไปตามนั้นจริงๆ
อีกอย่างคือ ตัวอย่างหนังก็แทบจะเล่าไว้หมดทุกอย่างแล้ว แทบจะไม่เจออะไรใหม่ที่เหนือการคาดเดาเลยสักนิด แต่ถ้าไม่เคยรู้อะไรมาก่อน แล้วเปิดมาดู ก็อาจจะพบว่า มันสนุกแบบเพลินๆ ถ้าไม่คิดอะไรมากอะนะ
ความไม่น่าเชื่อของหนังมีตั้งแต่ต้นยันจบเรื่อง ถ้าจะดูแบบจับผิดก็คงได้เป็นกระบุง ไม่ว่าจะเป็นความตะหงิดใจที่อดีตทหารหญิงแม่นปืนที่ผันตัวมาเป็นคนค้าอาวุธคนนี้ หยิบฉวยรถชาวบ้านชาวช่องได้อย่างหน้าตาเฉย หรือการที่มีเวลามากพอในการรักษาแผลถูกยิงของเจ้าหน้าที่ครูซบวกกับเตรียมอาวุธรับมือขณะที่ถูกคู่อริบุกเซฟเฮาส์ เป็นต้น อาจมีการกระทำของนางเอกบางส่วนที่ชวนรู้สึกขัดใจ ไม่ตรงกับความคิดของเรา แต่ทั้งหมดทั้งมวล ถ้าไม่คิดอะไรก็เพลินๆ ดี
หนังใช้โลเกชั่นแบบแคนาดาที่สมมติว่ามันคืออะแลสก้า หิมะขาวโพลนเป็นอะไรที่คนเมืองร้อนค่อนข้างชอบดู นั่นอาจเป็นอีกสิ่งที่ดีๆ จากหนังเรื่องนี้ก็ว่าได้
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | The Mother |
กำกับ | Niki Caro |
เขียนบท | Misha Green, Andrea Berloff, Peter Craig |
แสดงนำ | Jennifer Lopez, Lucy Paez, Omari Hardwick, Joseph Fiennes, Gael García Bernal |
แนว/ประเภท | แอ็คชัน, ระทึกขวัญ |
เรท | R |
ความยาว | 115 นาที |
ปี | 2023 |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
เข้าฉายในไทย | 12 พฤษภาคม 2023 ทาง Netflix |
ผลิต/จัดจำหน่าย | Nuyorican Productions, Vertigo Entertainment |
The Mother
พล็อตและบท - 4.5
การแสดง - 5.5
การดำเนินเรื่อง - 6
เพลงและดนตรีประกอบ - 5
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชัน - 6.5
5.5
The Mother
หนังที่ว่าด้วยเรื่องของคุณแม่นักแม่นปืนที่มีลูกและกำลังถูกตามล่าจากคนรักที่กลายเป็นคู่อริ จำต้องปล่อยให้คนอื่นเลี้ยง แต่พอน้องโต 12 ขวบ เธอก็กลับมาเพื่อปกป้องลูกทุกวิถีทาง ความไม่น่าเชื่อของหนังมีตั้งแต่ต้นยันจบเรื่อง พล็อตที่ดูไม่มีอะไร ทุกอย่างเป็นตามสูตร หนังที่คาดเดาได้ตลอดเรื่อง แต่ถ้าไม่คิดอะไร อยากฆ่าเวลา ก็ถือว่า ดูได้เพลินๆ