เคยไหม ที่ดูหนังบางเรื่องแล้วรู้สึกร่วมเหมือนกับหนังกำลังพูดถึงบ้านเมืองตัวเอง ทั้งที่หนังก็เล่าเรื่องบ้านเมืองของเขา ใช่แหละ วันนี้ นายแพทก็ได้ไปเจอเข้ากับหนังอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้รู้สึกอย่างนั้น นั่นคือ ‘The Mauritanian’ หรือชื่อไทย ‘มอริทาเนียน พลิกคดี จองจำอำมหิต’ เรื่องราวของนักโทษในคดี 9/11 ที่ถูกจองจำอยู่ในคุกแถวคิวบาทั้งที่ไม่มีการตั้งข้อหาใดๆ จะว่าไป ก็คุ้นๆ เหมือนจะมีเหตุเช่นนี้เกิดขึ้นในบ้านเมืองเราเหมือนกันนะ!
ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างขึ้นมาจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับนักโทษชาวมอริทาเนียน กับทนายหญิงผู้สวนกระแสแต่เลือกทางที่ถูกต้อง ผลงานการกำกับของ Kevin Macdonald เจ้าของผลงานอย่าง ‘The Last King of Scotland’, ‘Black Sea’ และ ‘State of Play’ งานนี้มีนักแสดงชื่อดังมาร่วมงาน ไม่พอยังประกาศศักดาขึ้นไปคว้า 1 รางวัลลูกโลกทองคำจากสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม และมีชื่อเข้าชิงอีก 1 สาขา นักแสดงชายยอดเยี่ยมอีกด้วย
เท่านี้ก็นับได้ว่า เรียกร้องความอยากชมจากผมได้มากมายแล้ว!
เรื่องย่อหนัง ‘The Mauritanian’
แนนซี ฮอลลันเดอร์ (Jodie Foster/โจดี้ ฟอสเตอร์ จากหนังเรื่อง ‘Elysium’, ‘Flightplan’ และ ‘Panic Room’) เธอเป็นทนายด้านสิทธิมนุษยชน ที่วันหนึ่ง เธอเลือกจะเป็นทนายจำเลยให้กับ โมฮัมมาดู โอ ซาลาฮี (Tahar Rahim/ทาฮาร์ ราฮิม) ผู้ที่ถูกรัฐบาลสหรัฐฯ ตราหน้าว่าเป็นวายร้ายระดับโลก ผู้จัดหาทีมก่อการร้าย 9/11 ชายผู้ถูกจองจำ 14 ปี โดยไม่ถูกตั้งข้อหา ในคุกบนเกาะกวนตานาโม ประเทศคิวบา
เธอหวังเรียกร้องความชอบธรรมให้กับเขา
โดยเธอมี เทอรี่ ดันแคน (Shailene Woodley จากหนังเรื่อง ‘Endings, Beginnings’, ‘Adrift’ และ ‘Divergent’) ที่ชักชวนมาหมายให้ช่วยเป็นล่ามแปลภาษา แต่ไปๆ มาๆ ก็กลับกลายเป็นหนึ่งในสองทนายหญิงที่ร่วมกันต่อสู้ ไม่ใช่เพื่อ
แต่อีกด้าน อัยการทหาร หรือมีตำแหน่งใหญ่โตที่เรียกว่า ที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม อย่าง สจ๊วร์ต เคาท์ (Benedict Cumberbatch/เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบทช์ จากหนังเรื่อง ‘1917’, ‘Doctor Strange’ และ ‘The Imitation Game’) ก็มีความหลังฝังใจเพราะเพื่อนสนิทของเขาก็เสียชีวิตไปในเหตุครั้งนี้ ที่สุด เขาก็ต้องหาทางสู้คดีเพื่อเอาผิดคนพวกนี้ ซึ่งทำให้ เขาต้องมาอยู่คนละฝั่งกับแนนซี
ผลของมันครั้งนี้ อาจมีคนหนึ่งได้รับเกียรติยศ และอีกคนต้องสูญเสียหมดหน้าตักก็เป็นได้
รีวิวหนัง ‘มอริทาเนียน พลิกคดี จองจำอำมหิต’
หนังขึ้นต้นด้วยการบอกว่า ‘This is a real story’ ราวกับจะบอกกับคนดูไว้ก่อนเลยว่า สิ่งที่คุณกำลังจะได้เห็นนั้นเป็นเรื่องจริง เหตุการณ์ทั้งหมดหยิบมาจากชีวิตของคนที่มีอยู่จริง หลังเหตุการณ์สั่นสะเทือนขวัญของผู้คนทั่วโลก โดยเฉพาะคนสหรัฐ เมื่อเครื่องบินโดยสารสองลำถูกจี้และพุ่งเข้าชนตึกแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ มีผู้เสียชีวิตนับพัน สหรัฐนำคนที่เขาคิดว่าเกี่ยวโยงน่าสงสัยมาขังคุกกวนตานาโม แต่คนพวกนั้น มีความผิดจริงๆ ทุกคนหรือไม่?
ชีวิตในคุกของนักโทษจองจำ ผู้ดิ้นรนค้นหาอิสรภาพ
หนังใช้กลวิธีในการเล่าได้น่าสนใจ เริ่มต้น เขาพาให้เราได้รู้จักกับซาลาฮีเพียงผิวเผินและเหมือนจะเป็นคนร้าย วันที่สองทนายหญิงเดินไปถึงหน้าคุก พวกเธอได้รับการบอกเล่าถึงความเลวร้ายที่อาจได้รับจากเหล่านักโทษ ชวนสงสัยว่า หรือจะเป็นเขาจริงๆ ที่จัดหาคนเข้าร่วมทีมก่อการร้าย 9/11 ก่อนที่สองทนายจะเข้าไปพูดคุย
จากนั้นคนดูเริ่มได้ทำความรู้จักเขา ได้รับรู้ว่าเขาเผชิญสิ่งใดมาบ้าง ช่วงนั้น ความคิดของคนดูก็จะเริ่มเปลี่ยน เราจะเข้าใจเขามากขึ้น และได้รู้ว่า คนอย่างเขาไม่ควรต้องมาเจออะไรแบบนี้ เราจะเข้าข้างทั้งทนายหญิงและตัวนักโทษไปโดยปริยายด้วยกลวิธีการเล่าของผู้กำกับนั่นแล
ผู้กำกับเลือกใช้ขนาดจอปกติ ในช่วงเวลาของทนายและที่ปรึกษากระทรวงกลาโหมปรากฏในจอ แต่พอถึงช่วงเวลาที่นักโทษซาลาฮีบอกเล่าเรื่องราวในคุก ช่วงนั้น ภาพจะกลายเป็นขนาด 4:3 ซึ่งทำงานได้ดียิ่งกับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เขาได้รับมัน เราจะรู้สึกได้ว่า สมควรแล้วหรือที่มนุษย์คนนึงจะได้รับสิ่งเหล่านี้ ไม่ว่าเขาจะกระทำผิดจริงหรือไม่ก็ตาม พร้อมทั้งตั้งคำถามในใจว่า
เหตุใดรัฐบาลอเมริกาจึงเลือกจะทำแบบนี้?
เพียงรู้สึกสงสัยแต่ไร้ซึ่งหลักฐาน แล้วจับเขาไปขังไว้ที่กวนตานาโม คุกบนเกาะที่ได้ชื่อว่าโหดร้ายทารุณที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ที่ที่กฎหมายใดก็ไม่อาจมีผล พวกเขาเหมือนจะมีกฎของตนเอง ข้อมูลทุกอย่างถูกเซ็นเซอร์ไว้ทั้งหมด ความจริงที่เล็ดรอดออกไปจะถูกขีดทับ
รู้สึกได้เลยว่า ทาฮาร์ ราฮิม คนนี้ เขาสวมบทบาทของนักโทษผู้ถูกคุมขังเอาไว้ได้ดีเยี่ยม ทำให้เรามองเห็นและเข้าใจความรู้สึกของผู้ถูกกระทำได้ดี แถมยังแอบเล่นมุกชวนฮาพาให้ขำได้ด้วย
ทนาย นักกฎหมาย ที่ต่อสู้เพื่อความถูกต้อง
งานนี้ มีมือกฎหมายสองฝ่ายที่ชะตากำหนดให้มาปะทะกัน หนึ่งเป็นสองทนาย แนนซี และ เทอรี ผู้ที่มองเห็นความไม่ชอบมาพากลและความฉ้อฉลที่รัฐกระทำกับนักโทษ พวกเธอได้คุยกับนักโทษคนหนึ่ง ที่ยอมเปิดโปงเหตุการณ์จริงๆ ที่เขาได้พบหลังถูกบีบบังคับให้จากครอบครัวจนมาอยู่ที่นี่
หนังทำให้เห็นทุกอย่างว่า การคุมขังครั้งนี้มีความระยำเลวร้ายแค่ไหนในเบื้องหลัง ข้อมูลถูกปกปิดขีดฆ่า ข้อกล่าวหาไม่มี ได้แต่สงสัยในความเชื่อมโยง ซึ่งหลายครั้งก็เกิดจากการมโนและอคติที่มีต่อนักโทษ ไม่พอ ยังมีเรื่องความรุนแรงในคุกอีก นี่มันคือหนังที่สั่นสะเทือนความอยุติธรรม!
โจดี ฟอสเตอร์ ในบททนายแกร่งที่เลือกเส้นทางที่สวนกับผู้คนทั่วไป เธอจึงเป็นคนที่มีเพื่อนน้อยแต่จิตใจของเธอเปี่ยมไปด้วยความยุติธรรม เหตุการณ์ครั้งนี้ เธอทำไปเพื่อรักษาความยุติธรรมให้ยังอยู่กับกฎหมาย และเธอเลือกให้ผู้ช่วยที่แสดงโดย ไชลีน วูดลีย์ ที่ทำให้เราได้เห็นอีกบทบาทหนึ่ง เธอได้เล่นอะไรมากกว่าที่เคย แสดงอารมณ์รับส่งได้ยอดเยี่ยม
ในอีกด้านหนึ่ง สจ๊วร์ต คนในกระทรวงกลาโหม ผู้ที่สูญเสียเพื่อนไปในเหตุก่อการร้ายครั้งนี้ ความเจ็บแค้นส่วนตัว บวกกับความรู้สึกเจ็บแค้นของผู้คนอเมริกันมากมายที่กดดันอยากให้จับคนพวกนี้มาลงทัณฑ์ เริ่มต้นเขาก็จะคิดว่า ผู้ชายคนนี้ ปล่อยให้รอดไปไม่ได้ เขาพยายามจะเอาผิดจนได้รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น
เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบทช์ ในบทบาทนี้ ทรงผม/หน้าตาของเขาดูคล้ายกับคนในคราบทหารจริงๆ ดูร้ายในตอนแรกเห็น เป็นคนที่เล่นบทไหนก็ดีไปหมดเลย
รัฐที่ฉ้อฉล ปิดบังอำพราง และจับคนไร้ข้อหามาขังคุก
ดูหนังเรื่องนี้ชวนตะหงิดติดใจนึกไปถึงเหตุการณ์ใกล้ตัว รัฐที่ใช้อำนาจเกินเหตุ จับคนเข้าไปขังในคุกโดยไม่อาจระบุข้อหา คล้ายๆ กับในเรื่องที่ซาลาฮีและนักโทษอีกหลายคนที่ถูกจับตัว/ขนย้าย/นำมาขังไว้ที่กวนตานาโม เขาเป็นแค่คนที่ทางการสงสัยว่าเกี่ยวข้อง แต่หาหลักฐานไม่ได้ แต่ปกปิดทุกอย่างที่คุกกระทำกับเขา และทุกอย่างกำลังถูกเปิดโปงเพราะหนังเรื่องนี้
ต้องยอมรับว่า มีเสียน้ำตาอยู่บ้างกับสิ่งที่เกิดขึ้นในหนัง เศร้าใจกับโชคชะตาของคน บางคน แทนที่จะได้อยู่กับครอบครัวกลับต้องมาถูกทรมานทรกรรมในคุกบนเกาะกลางทะเล ได้ฟังเสียงทะเลแล้วนึกถึงบ้านตัวเอง มันเศร้าแค่ไหนล่ะ ตัวละครบางตัว ความคับแค้นในใจผลักดันให้เขาเลือกทำเพื่อสิ่งที่คิดว่าถูกต้อง จนวันที่ล่วงรู้ความจริง จึงพบว่าสิ่งที่ถูกต้องนั้นเป็นอีกอย่าง การตัดสินใจนั้นกลับได้มาเพียงคำว่า ‘คนทรยศ’
…มันน่าเศร้าดีไม่หยอกเลยล่ะ
ชื่อภาพยนตร์: The Mauritanian / มอริทาเนียน พลิกคดี จองจำอำมหิต
ผู้กำกับภาพยนตร์: Kevin Macdonald
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Michael Bronner (M.B. Traven), Rory Haines, Sohrab Noshirvani
นักแสดง: Tahar Rahim/ทาฮาร์ ราฮิม, Benedict Cumberbatch/เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบทช์, Nouhe Hamady Bari, Saadna Hamoud, Jodie Foster/โจดี้ ฟอสเตอร์, Shailene Woodley/ไชลีน วู้ดลีย์, Clayton Boyd, Denis Ménochet
ดนตรีประกอบ: Tom Hodge
แนว/ประเภท: Drama, Thriller
ความยาว: 129 นาที
ปี: 2021
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
อัตราส่วนภาพ: 1.33 : 1
เรท: ไทย/ , USA/R
วันเข้าฉายในประเทศไทย: 1 เมษายน 2021
ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย/สตูดิโอ: Wonder Street, 30WEST, BBC Films, Mono Films
มอริทาเนียน พลิกคดี จองจำอำมหิต
พล็อตและบท - 9
การแสดง - 9
การดำเนินเรื่อง - 9.3
งานภาพ/เทคนิคด้านภาพ - 9
เพลง/ดนตรีประกอบ - 8.5
9
The Mauritanian
ภาพยนตร์ที่ตีแผ่ความจริงที่เกิดขึ้นในคุกกวนตานาโม ความจริงเบื้องหลังการจับกุมบุคคลที่ทางการสหรัฐสงสัยว่าจะมีส่วนเกี่ยวกับกับเหตุก่อการร้าย 9/11 แต่พวกเขากระทำความผิดจริง หรือถูกป้ายความผิดให้กันแน่ อีกหนึ่งบทบาทที่ยอดเยี่ยม ทั้งจาก โจดี ฟอสเตอร์, ไชลีน วูดลีย์, เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบทช์ และขอแนะนำ .... ทาฮาร์ ราฮิม