เหมือนว่าหนังแนวผจญภัยค้นหาขุมสมบัติจะไม่เคยจางหายไปจากวงการหนังฮอลลีวู้ด แม้พักหลังๆ จะแผ่วไปบ้างก็ตามที ครั้งนี้ก็กลับมาใหม่ ยำใหญ่ใส่ทั้งความเป็นหนังผจญภัยล่าสมบัติ บวกกับความโรแมนติก บวกเข้ากับความป่วนฮาพาอารมณ์ดี ‘The Lost City’ หรือชื่อไทย ‘ผจญภัยนครสาบสูญ’
หนังเรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับร่วมกันของ Aaron Nee และ Adam Nee หรือที่บางทีก็จะใช้ชื่อ the Nee brothers ผลงานก่อนหน้าของเขาทั้งสองก็เช่น ‘Band of Robbers’ และ ‘The Last Romantic’ ครั้งนี้ พวกเขาใช้โครงสร้างเรื่องที่เขียนโดย Seth Gordon มาพัฒนาเป็นบทหนังร่วมกับ Oren Uziel และ Dana Fox จนกลายมาเป็นหนังลูกผสมที่จัดว่าชวนหัวได้เป็นอย่างดี
ว่าแล้วก็มาเริ่มกันที่เรื่องย่อของหนังกันเลยดีกว่า
เรื่องย่อหนัง ‘The Lost City’
นางเอกของเรา ลอเร็ตตา เสจ (Sandra Bullock/แซนดรา บุลล็อก จากหนังเรื่อง ‘Speed’, ‘Bird Box’ และ ‘Gravity’) เธอเป็นนักเขียนชื่อดังเจ้าของผลงานการผจญภัยล่าขุมทรัพย์ที่โด่งดังต่อเนื่อง แต่รักจากสามีของเธอตายจากไป งานล่าสุดของเธอก็เหมือนจะเหี่ยวเฉาลง สำนักพิมพ์ที่เร่งเธอยิกๆ ก็จัดการทัวร์โปรโมตหนังสือให้ แต่ดันจัดให้เธอต้องเจอชายหนุ่มที่ไม่อยากร่วมงานด้วยเท่าไหร่
อลัน (Channing Tatum/แชนนิง เททัม จากหนังเรื่อง ‘Kingsman: The Golden Circle’, ‘Logan Lucky’ และ ‘Magic Mike XXL’) เขาคือหนุ่มสุดหล่อล่ำที่เป็นนายแบบบนหน้าปกนิยายของเธอ เขามักวางท่าเป็น ‘แดช’ ตัวละครเอกในนิยายของเธอจนรู้สึกหมั่นไส้ แต่ในที่สุด ทั้งสองกลับมาผจญภัยด้วยกัน
อาบิเกล แฟร์แฟกซ์ (Daniel Radcliffe/แดเนียล แรดคลิฟฟ์ จากหนังเรื่อง ‘Harry Potter and the Deathly Hallows: Part 2’ , ‘Swiss Army Man’ และ ‘Guns Akimbo’) มหาเศรษฐีหนุ่มที่คลั่งไคล้ไหลหลงอยากจะเป็นเจ้าของมงกุฏแห่งอัคคีในเมืองที่หายสาบสูญในหนังสือนิยายของเธอ เมื่อจู่ๆ เขาก็ลักพาตัวลอเร็ตตาไปยังเกาะลึกลับกลางมหาสมุทรแอตแลนติกที่ดันมีอยู่จริงๆ แล้วก็เป็นแดช เอ้ย อลัน ที่พยายามตามไปช่วยเธอ
แต่เขาก็ไม่ได้ไปคนเดียวหรอก เขาตามตัว แจ็ค เทรนเนอร์ (Brad Pitt/แบรด พิตต์ จากหนังเรื่อง ‘Ad Astra’, ‘Once Upon a Time in… Hollywood’ และ ‘Fury’) ให้ตามไปช่วยด้วย ทั้งหมดพบเจอกันบนเกาะลึกลับแห่งนั้น ทั้งหมดต้องผจญภัยร่วมกันกลางภูมิประเทศที่เป็นป่าและเขา เอาตัวรอดจากสถานการณ์ต่างๆ พร้อมทั้งค้นหาสมบัติโบราณที่เขาว่ามีอยู่จริง …ก่อนที่มันอาจจะสูญหายไปตลอดกาล
รีวิวหนัง ‘ผจญภัยนครสาบสูญ’
จากพล็อตที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร ใส่จินตนาการความบ้าบวมเข้าไปนิดก็กลายเป็นหนังเรื่องหนึ่งได้ แต่ถ้าดูดีๆ มันก็มีแง่มุมอะไรอยู่ในนั้นเหมือนกันนะ หนังเรื่องนี้เจ้แซนดร้าแกอำนวยการผลิตเอง เล่นเอง สวมบทบาทเป็นนักเขียนหญิงผู้มีผลงานนิยายแนวผจญภัยรักหวานที่เพิ่งสูญเสียสามีสุดที่รักไปได้ไม่กี่ปี ทั้งงานเก่าๆ ที่มันออกมาดีได้ ส่วนหนึ่งก็เพราะสามีเนี่ยแหละ จิตใจที่ยังคงเป๋ๆ อยู่เลยแทบจะไม่มีแรงบันดาลใจในการจะเขียนให้จบ พูดง่ายๆ จิตใจของนางยังคงติดอยู่กับอดีตนั่นเอง
เมื่อนักเขียนลอเร็ตตาผู้ไม่ยอมมูฟออนได้มาร่วมงานกับนายแบบปกหนังสือของตนเอง ก็เลยได้ร่วมผจญภัยใกล้ชิดกับชายผู้หล่อล่ำที่พยายามจะพิสูจน์ว่า เขาสามารถเป็นฮีโร่ได้ในชีวิตจริง ไม่ใช่แค่ในหนังสือ
แต่ก็ดันมีมหาเศรษฐีสุดประหลาดคนหนึ่งที่ติดใจเรื่องราวในนิยายของเธอ แถมยังค้นพบนครของจริงที่ตรงกับสิ่งที่เธอเขียนไว้ ด้วยความละโมบอยากจะได้มงกุฏแห่งอัคคีมาครอบครอง จึงได้ลักพาตัวนักเขียนมาเพื่อเป็นกุญแจสำคัญในการค้นหา ทั้งเกาะแห่งนั้น ยังมีลักษณะตรงตามตำราของหนังแนวผจญภัยล่าขุมทรัพย์
เพราะมันมีภูเขาไฟกำลังปะทุอยู่กลางเกาะนี่แหละ
จากนั้นความกาว ความบ้าบอ ก็เพิ่มเติมขึ้นไปอีก เมื่ออลันดันชักชวนเทรนเนอร์ที่หน้าตาเหมือน แบรด พิตต์ ให้ไปตามหาและช่วยเหลือนักเขียนสาว ที่สำคัญคือ เคมีและความโบ๊ะบ๊ะระหว่าง แซนดรา บุลล็อก และ แชนนิง เททัม นั้นโดดเด่นมาก ต่างคนต่างใช้ลีลาส่วนตัวปะทะกันจนกลายเป็นความฮาครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นอะไรที่เกินคาดไปพอสมควร
แต่ขณะเดียวกัน ก็กลับกลายเป็นว่า แดเนียล แรดคลิฟฟ์ ที่ครั้งนี้กลายเป็นตัวร้าย ไม่มีบทที่จะเล่นมุกชวนฮา แถมเขาไม่ค่อยฉายแววความร้าย ความโดดเด่นของเขาจึงค่อนข้างดร็อปไปหน่อยนึง แต่กลายเป็น แบรด พิตต์ ที่เข้ามาแย่งซีนไปแม้จะไม่ได้ปรากฏตัวอยู่ในหนังมากมายนักก็เหอะ
โดยรวมมันคือหนังผจญภัยที่ทำได้สนุกทีเดียวแหละ พระนางจะต้องร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรคนานาเพื่อจะหลบให้พ้นเงื้อมมือของมหาเศรษฐีหนุ่มหนวดผู้คลั่งสมบัติ แต่ขณะเดียวกัน ก็อึ้งไปกับความมีอยู่จริงของนครโบราณแห่งนี้ ความเสียดายว่าภูเขาไฟที่ปะทุอยู่อาจทำให้ร่องรอยของมันนั้นหายไปตลอดกาล ทำให้พวกเขายังอยู่บนเส้นทางของการค้นหามงกุฏแห่งอัคคีชิ้นนั้น
แม้หนังจะมีความป่วนฮาและชวนอึ้งไม่หยุด แต่บางส่วนในบทสนทนาก็ยังให้แง่มุมบางอย่าง อย่างเช่นการตัดสินคนอื่นจากสิ่งที่เห็นเพียงภายนอก ไม่ต่างกับการตัดสินหนังสือที่ปก อะไรประมาณนั้น
แม้หนังจะปิดท้ายด้วยฉากที่มีใช้ซีจีที่ค่อนข้างไม่เนียนตา แต่ว่าความที่หนังพาอารมณ์ดีมาตั้งแต่ต้น ทำให้หนังสอบผ่านได้ในแง่การให้ความบันเทิง เคมีและความโบ๊ะบ๊ะของสองพระนาง บวกความแย่งซีนของแบรด พิตต์ สุดหล่อ ก็พอจะทำให้พอใจกับหนังได้ในระดับหนึ่ง แต่เดี๋ยวก่อน เห็นตัวอักษรขึ้นมาไม่ต้องรีบลุก
ยังมีฉากแถมตรงกลางเครดิตนั้นให้เซอร์ไพรส์กันต่อ
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | The Lost City / ผจญภัยนครสาบสูญ |
กำกับ | Aaron Nee, Adam Nee |
เขียนบท | Oren Uziel, Dana Fox, Adam Nee, Aaron Nee |
แสดงนำ | Sandra Bullock, Channing Tatum, Daniel Radcliffe, Da’Vine Joy Randolph, Brad Pitt |
แนว/ประเภท | Action, Adventure, Comedy, Romance |
เรท | PG-13 |
ความยาว | 112 นาที |
ปี | 2022 |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
เข้าฉายในไทย | 21 เมษายน 2022 |
ผลิต/จัดจำหน่าย | Paramount Pictures, 3dot productions, Exhibit A, Fortis Films |
ผจญภัยนครสาบสูญ
พล็อตและบท - 6.8
การดำเนินเรื่อง - 7
การแสดง - 7.9
ดนตรีประกอบ - 7.3
งานภาพและเทคนิคพิเศษ - 6.6
7.1
The Lost City
หนังแนวเกาะมหาสมบัติที่พ่วงความป่วนฮาเข้าไป เรื่องของนักเขียนสาวผู้ช้ำรักที่ถูกลักพาตัวไปยังเกาะลึกลับกลางสมุทร และเป็นพระเอกนายแบบปกหนังสือของเธอที่ต้องเข้าไปช่วย หนังชวนคนดูผจญภัยตามแนวทางของหนังสไตล์นี้ ขณะที่มุกโบ๊ะบ๊ะระหว่างแซนดรา บุลล็อค และแชนนิง เททัม ก็ยังทำงานได้ไม่หยุด โดยมีตัวสอดแทรกขโมยซีนอย่างแบรด พิตต์ เข้ามาเสริมทัพ คนดูจึงได้ฮาอารมณ์ดี มีฉากแถมก่อนกลับบ้านด้วย