รีวิวหนัง The Ice Road เหยียบระห่ำ ฝ่านรกเยือกแข็ง | ลุ้นจนเหนื่อย

ถ้าจะพูดถึงหนังที่มี เลียม นีสัน นำแสดง คงร่ายได้ชื่อมายาวเป็นหางว่าว แต่ละเรื่องล้วนเข้าฉายในไทย ส่วนใหญ่เป็นหนังแนวแอคชันที่แทบจะเรียกได้ว่า ตรงใจกับคอดูหนังชาวสยาม หนังสไตล์ที่เหมาะกับชายคนนี้ มีทั้งความดุดัน ขึงขัง และมีความเท่อยู่ในบุคลิก คราวนี้ก็เช่นกัน ลุงเลียมมาในมาดคนขับรถบรรทุกที่ได้รับงานขับผ่านทะเลน้ำแข็ง ในหนังเรื่อง ‘The Ice Road เหยียบระห่ำ ฝ่านรกเยือกแข็ง’ ครับ

เป็นแอคชันที่ทั้งเขียนบทและทั้งกำกับโดย Jonathan Hensleigh คนที่เคยเขียนบทและกำกับ ‘The Punisher’ เคยเขียนบท ‘Die Hard: With a Vengeance’, ‘Next’, ‘Jumanji (1995)’ และเคยเขียนโครงเรื่องของ ‘The Saint’ และ ‘Armageddon’ ก็เรียกได้ว่ามีผลงานมากพอสมควรเลย

งานนี้มี ลอเรนซ์ ฟิชเบิร์น ร่วมเล่นด้วย ต้องไปดูซะหน่อยแล้ว

เรื่องย่อหนัง ‘The Ice Road’

เมื่อเหมืองแห่งหนึ่งแถวแคนาดาตอนเหนือเกิดเหตุถล่ม และมีคนงานที่ติดอยู่ในนั้น พวกเขาจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือโดยด่วน ก่อนอากาศจะหมดและเสียชีวิต หนทางที่จะช่วยพวกเขาได้คือ ต้องใช้หัวหลุมมาช่วยขุดเปิดช่องทางให้พวกเขาออกมาได้ทันการณ์ และเหลืออยู่เพียงทางเดียว

นั่นคือ การขับรถบรรทุกขนข้ามเส้นทางเยือกแข็งที่ถูกเรียกว่า ‘Ice Roads’

ภารกิจกู้ภัยครั้งนี้ถูกจัดตั้งขึ้นเร่งด่วน โดยมี จิม โกลเด้นร็อด (Laurence Fishburne จากหนังเรื่อง ‘John Wick 3’, ‘The Matrix’ และ ‘The Mule’) เป็นผู้รวมทีม ในที่สุด เขาก็ได้สองพี่น้องที่เพิ่งถูกไล่ออกจากงาน คนพี่คือ ไมค์ แมคแคน (Liam Neeson จากหนังเรื่อง ‘The Marksman’, ‘Honest Thief’ และ ‘Cold Pursuit’) ที่มีน้องชาย เกอร์ตี้ แมคแคน (Marcus Thomas จากหนังเรื่อง Kill the Irishman) ที่เชี่ยวชาญงานช่าง แต่มีปัญหาด้านการพูดจาหลังผ่านการรบในสงครามอิรักมา

นอกจากสองพี่น้อง จิมก็ยังเลือกหญิงสาวมาดแกร่งอย่าง แทนทู (Amber Midthunder จากหนังเรื่อง ‘Hell or High Water’ และซีรีส์เรื่อง Legion) มาร่วมภารกิจ กลายเป็นสามคันที่ต้องขับตามกันบนเส้นทางน้ำแข็งเดือนเมษายนที่เขาว่าบางที่สุด ที่ต้องไปกันตั้ง 3 คัน ก็เพื่อเป็นการเผื่อไว้เพราะอาจมีคนไม่รอด แถมครั้งนี้มี ทอม วาร์เนย์ (Benjamin Walker จากหนังเรื่อง ‘In the Heart of the Sea’, ‘Abraham Lincoln: Vampire Hunter’และซีรีส์เรื่อง ‘Jessica Jones’) คนของต้นสังกัดเหมืองเข้าร่วมเดินทางไปด้วย

เส้นทางข้างหน้าช่างดูท้าทายยิ่งนัก

รีวิวหนัง ‘เหยียบระห่ำ ฝ่านรกเยือกแข็ง’

ถือเป็นหนังแอคชันผจญภัยที่ใช้เวลาประมาณ 109 นาทีเพื่อเล่าพล็อตที่อาจดูเชย (ในสายตาใครบางคน) แต่เล่าเรื่องได้ชวนลุ้นตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ

หนังมาพร้อมเงื่อนไขของปฏิบัติการที่จำกัดด้วยเวลา หลังเกิดเหตุเหมืองถล่ม มีคนติดอยู่ภายใต้ชั้นหิน 26 คน พวกเขามีเวลาเพียง 30 ชั่วโมงก่อนอากาศจะหมด จำเป็นต้องเปิดช่องทางเข้าไปช่วยเหลือออกมาได้ทัน หากทำไม่สำเร็จย่อมหมายความตายของพวกเขา เครื่องมือที่ชื่อว่า ‘หัวหลุม’ ในเหมืองไม่มี ต้องขนมาจากอีกแห่ง แถมยังมีน้ำหนักมากจนไม่อาจขนทางเครื่องบินได้ เหลือเพียงหนทางสุดท้าย นั่นคือ การขนทางรถบรรทุก แต่ด้วยสภาพพื้นที่ ทำให้ต้องขับข้ามทะเลเยือกแข็ง

การขนผ่านเส้นทางก็นับว่าอันตรายมากพออยู่แล้ว แถมมันยังเป็นช่วงเดือนเมษายนที่แผ่นน้ำแข็งจะบางที่สุด

ทีมขนส่งใช้รถบรรทุกสามคันบรรจุหัวหลุมและท่อสามชุด เส้นทางที่อันตรายและการมุ่งหวังผลสำเร็จทำให้ต้องเผื่อเอาไว้ บทมาพร้อมด้วยความไม่น่าไว้วางใจ ที่จู่ๆ ก็มีบุคคลนอกกลุ่มร่วมเดินทางไปด้วย ใครๆ ก็เดาได้ว่าเขาจะเป็นตัวแปรที่พลิกผันสถานการณ์ให้ชวนลุ้นระทึกมากขึ้นไปอีก

แต่แค่บอกกันตรงนี้ก็ไม่ได้หมายความจะสปอยล์เรื่องราวทั้งหมดหรอกนะ

หนังเดินเรื่องด้วยตัวละครหลักเพียงไม่กี่คน ที่ต้องขับรถบรรทุกคันใหญ่ข้ามเส้นทางแผ่นน้ำแข็งบางๆ ที่พร้อมจะแตกได้ทุกเมื่อ สลับกับเหตุการณ์ในอุโมงค์เหมืองที่ถล่มไร้ทางออก เพื่อจะบอกคนดูว่า ภารกิจของรถบรรทุกทั้งสามคันโคตรจะบีบคั้นด้วยเส้นเวลาและความเป็นความตาย

การเดินทางของรถบรรทุกทั้งสามคัน เต็มไปด้วยอันตรายทั้งที่มาจากธรรมชาติและคน นอกจากจะชวนให้ดูรู้สึกหนาวด้วยภาพของทะเลที่เป็นน้ำแข็งและหิมะขาวโพลนแล้ว คนดูยังต้องลุ้นกันอีกว่า คนไหนจะรอดออกไปจากขุมนรกเยือกแข็งนี้บ้าง พวกเขาจะขนหัวหลุมใหญ่ยักษ์นี้ไปถึงเหมืองได้หรือเปล่า และคนงานเหมืองจะรอดตายหรือไม่

ระหว่างทาง ลุงเลียมต้องแก้ปัญหาเยอะสุดๆ แก้ไปได้เปลาะหนึ่งก็ยังต้องเจอเปลาะที่สองที่สามไม่หยุดหย่อน คนดูต้องลุ้นเอาใจช่วยจนเหนื่อยหอบ

แถมบทยังเล่นกับอารมณ์คนดูด้วยการใส่ซับพล็อตที่ว่าด้วยเรื่องพี่น้อง ไมค์กับเกอร์ตี้ก็เป็นพี่น้องกัน ที่คนหนึ่งต้องคอยดูแลอีกคนหนึ่ง ส่วนแทนทู หญิงสาวที่จิมต้องไปประกันตัวมา เธอรับภารกิจอันตรายนี้เพราะรู้ว่ามีพี่น้องที่ติดอยู่ใต้เหมือง ยิ่งเพิ่มความรู้สึกลุ้นเอาใจช่วยมากขึ้นไปอีก

ใครจะไปคาดคิดว่า แค่ขับรถขนของข้ามทะเลน้ำแข็ง มันจะมีเรื่องให้ต้องลุ้นมากขนาดนี้

ยิ่งได้เห็นเบื้องหลังการถ่ายทำหนังเรื่องนี้ ส่วนใหญ่ถ่ายทำในสถานการณ์จริง พวกเขาเลือกจะไม่ใช่ CG เพื่อให้เกิดความสมจริงสูงสุด เช่นลุงเลียมถึงขนาดลงไปในหลุมน้ำแข็งที่อุณหภูมิต่ำเกือบถึงจุดเยือกแข็งด้วยตัวเอง ได้เห็นลุงต่อยกับตัวร้ายแบบตัวต่อตัว มากกว่านั้นก็คือได้เห็นฉากดราม่าชวนสะเทือนใจแถมมาให้ด้วย ลุงเลียมทำได้ทุกอย่างจริงๆ

ใครอยากลุ้นมันๆ ไม่ต้องใช้สมองมากนัก ขอเชิญมาดูหนังเรื่องนี้

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง