นักแสดงฮอลลีวูดบางเรื่องเกิดมาเพื่อแสดงหนังบางแนวที่เป็นแบบของเขาจริงๆ จนมันกลายเป็นเครื่องหมายการค้า กลายเป็นดราที่แปะหน้าที่คนจะมองภาพออกทันทีว่าจะได้เจอหนังแบบไหน และ ‘The Commuter’ ก็เป็นไปในแบบนั้น
ผู้คนเห็นว่า นักแสดงนำคือ Liam Neeson ผู้คนก็จะนึกถึงหนังแอคชั่นลุ้นเยี่ยวเหนียว กับภารกิจที่พี่เลียมจะต้องทำให้สำเร็จ มิฉะนั้น จะต้องมีคนสำคัญที่ต้องมีอันเป็นไป และต้องมีฉากสำคัญที่ชวนลุ้นระทึก แกมอึ้งไปกับลีลาพะบู๊ของคนรุ่นราวคราวพ่อหรือลุงของบางคน
ที่ดูไปก็ห่วงไปว่าพ่อหรือลุงแกจะไหวรึเปล่า…
เรื่องย่อหนัง ‘The Commuter’
เมื่อพี่เลียมสวมบทเป็นพ่อของลูกชายวัยกำลังเรียนมหา’ลัย ผู้มีภาระทุกด้านรุมเร้า แต่กำลังเจอภาวะถูกเลย์ออฟ ทำงานขายประกันอยู่ดี เขาก็จ้างออกดื้อๆ แต่มีหรือที่พี่เลียมจะบอกคนที่บ้าน ระหว่างทางเขากลับได้พบหญิงสาวนางหนึ่งที่เฝ้ามองอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนจะเข้ามาพูดคุยกับเขา
เธอถามว่า เขาเลือกที่จะเป็นคนแบบไหน
ไมเคิล แม็คคอลีย์ (Liam Neeson) ถูกข้อเสนอจากโจแอนนา (Vera Farmiga) ที่ให้เขาหาบุคคลลึกลับที่มาพร้อมกับกระเป๋าบรรจุของที่ขโมยมา เขามีเวลาเพียงไม่นานก่อนถึงสถานีเป้าหมาย ที่ต้องหาให้พบว่าบุคคลคนนั้นคือใคร หาไม่ เพื่อแลกกับเงินแสนเหรียญที่มาในวันที่เขาเข้าตาจน
ทว่า ถ้าเขาไม่ทำหรือทำมันไม่สำเร็จ ชะตากรรมของครอบครัวคงต้องตกอยู่ในอันตรายทันที
รีวิวหนัง ‘นรกใช้มาเกิด’
นี่คือผลงานจากผู้กำกับ Jaume Collet-Serra คนที่มีเครดิตกำกับมาทั้ง ‘Unknown’ (2011), ‘Non-Stop’ (2014) และ ‘Run All Night’ (2015) เรียกได้ว่าเขามีประสบการณ์ในการสร้างหนังที่เหมาะกับภาพลักษณ์ของพี่เลียมเป็นอันมาก
เป็นอีกครั้งของความพยายามให้พี่เลียมเสี่ยงตายกับยานพาหนะ ทว่าคราวนี้เล่นกับรถที่วิ่งอย่างเร็วไปบนราง หนังเริ่มต้นด้วยเรื่องราวภูมิหลังของตัวละครพระเอกอย่าง ไมเคิล ที่มีชีวิตอยู่กับครอบครัว และผละจากอาชีพตำรวจมาหากินด้านการขายประกัน ก่อนจะประสบชะตากรรมถูกเลย์ออฟ บ้านก็ยังต้องผ่อน ลูกก็ยังเรียนอยู่
ชีวิตช่างบัดซบยิ่งนัก
หนังใส่เรื่องราวในลักษณะชวนอยากรู้เข้ามา เริ่มด้วยการที่มีหญิงสาวมาทักทายเขาบนรถไฟ แถมยังเสนอภารกิจและเงินตอบแทนในวันที่พระเอกตกงานอีก แถมงานที่เธอเสนอยังให้ข้อมูลน้อยมาก และให้พระเอกเป็นฝ่ายค้นหาเอาเองอีกต่างหาก
ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อหนังเล่าในมุมมองของพระเอก เราก็จะไม่มีทางรู้ไปมากกว่าพระเอก เราจะยิ่งอยากรู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นบุคคลที่ต้องตามหา และจะใช้วิธีไหนในการค้นหาจากคนบนรถไฟทั้งขบวน เรียกได้ว่าหนังใช้ความอยากรู้ของคนดูช่วยความสนใจในการติดตามเรื่องราว
ครึ่งแรกเป็นหนังสืบสวน สร้างความฉงนสงสัยใคร่รู้ให้กับคนดูผ่านการสืบหาคนเป้าหมายด้วยวิธีการอันแยบยลและชาญฉลาด ขณะที่ครึ่งหลัง หนังแปรเปลี่ยนไปเป็นแอคชั่นระทึกขวัญบนรถไฟด่วนแทน และฝ่ายพระเอกที่ต้องออกแรงมากขึ้นเพื่อควบคุมสถานการณ์และเอาตัวรอด ทำให้คนที่เดินทางไปกับตัวหนังรู้สึกได้ถึงความสนุกในการค้นหา….
และลุ้นให้ตัวละครหลักรอดพ้นอุปสรรคผ่านมันไปด้วยดี
ถ้าชอบหนังที่ทำให้คุณลุ้นสนุกไปกับมันได้ หนังเรื่องนี้ก็น่าจะทำให้คุณรู้สึกในแบบนั้น แต่ถ้าเป็นคนที่พยายามจะรู้เท่าทันหนัง ก็อาจจะพบความไม่สมเหตุสมผลอยู่บ้างในพล็อตของหนัง ซึ่งประเด็นนี้อาจบั่นทอนความประทับใจในหนังอยู่พอสมควร ทำให้การแนะนำชมภาพยนตร์เรื่องนี้ “นรกใช้มาเกิด” มักจะบอกกันว่า ดูไปเถอะ ไม่ต้องสนใจเนื้อเรื่อง หนังจะสนุกก็เราเดินตามเรื่อง ไม่เดินนำล่วงหน้า ไปเดินออกนอกเส้นทาง
เท่านั้นแหละครับ ที่จะทำให้เราสนุกและบันเทิงกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์: The Commuter / นรกใช้มาเกิด
ผู้กำกับภาพยนตร์: Jaume Collet-Serra
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Byron Willinger (story by), Philip de Blasi (story by)
นักแสดงนำ: Liam Neeson, Vera Farmiga, Patrick Wilson, Jonathan Banks
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
ความยาว: 104 นาที
แนว/ประเภท: Action, Crime, Drama, Mystery, Thriller
อัตราส่วนภาพ:
ปี: 2018
เรท: ไทย/, MPAA/PG-13
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 11 มกราคม 2561
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Ombra Films, StudioCanal, The Picture Company
นรกใช้มาเกิด
The Commuter - 7
7
The Commuter
หากดูหนังในแบบเดินทางไปพร้อมกับเรื่องราว The Commuter คือหนังที่คนดูจะสนุกกับการสืบสวนในครึ่งแรก ก็จะมาลุ้นระทึกในครึ่งหลัง ด้วยตัวนักแสดงอย่าง Liam Neeson ที่อายุมากแล้วแต่ก็ยังเล่นหนังแอคชั่นได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ถ้าหากสนใจความสมเหตุสมผลของพล็อตมากนัก ก็อาจพาลไม่สนุกเท่าที่ควรขึ้นมาได้