ที่ผ่านมา คนไทยได้ดูและรู้จักกับผลงานของชายหนุ่มคนนี้ผ่านทางซีรีส์หลายๆ เรื่องที่เขาแสดง คิมซอนโฮ หนุ่มหล่อจากเกาหลีใต้ที่เคยเล่นเป็นหัวหน้าฮง ชายหนุ่มที่รับจ้างไปทั่วใน ‘Hometown Cha-Cha-Cha’ และเคยเล่นเป็นฮันจีพยอง ผู้สนับสนุนเงินทุน ในซีรีส์ ‘Start-Up’ แต่หนนี้ เราจะได้พบเขาในบทนักฆ่าหน้ายิ้ม กับงานหนังเรื่องแรก ‘The Childe’ ชื่อไทย ‘เทพบุตร ล่านรก’
ภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตของคิมซอนโฮ เป็นหนังแนวแอ็คชั่นดราม่า ที่มีเขาเป็นพระเอกนักฆ่าหน้าเทพบุตรที่มีความยียวนเป็นเอกลักษณ์ เรื่องราวที่ถูกขีดเขียนขึ้นโดย พัคฮุนจอง (ผู้เขียนบทหนังเรื่อง ‘I Saw the Devil’ และ ‘Night in Paradise’) พร้อมลงมือกำกับเอง โดยดึงดารามือดีอย่าง โกอารา, คังแทจู และ คิมคังอู เข้ามาร่วมงาน แถมหนังเรื่องนี้ มีบางส่วนที่เข้ามาถ่ายทำกันในเมืองไทยด้วย (แต่เซ็ตว่าเป็นฟิลิปปินส์)
มองดูคร่าวๆ ก็เริ่มน่าสนใจแล้ว เช่นนั้น ไปอ่านเรื่องย่อหนังกันก่อนดีกว่าครับ
เรื่องย่อหนัง ‘The Childe’
มาร์โก้ (คังแทจู จากซีรีส์เรื่อง ‘Hello, Me!’ และ ‘Missing: The Other Side’) คือเด็กหนุ่มลูกครึ่งเกาหลี-ฟิลิปปินส์ เติบโตและใช้ชีวิตอยู่ในประเทศฟิลิปปินส์ มีความฝันอยากจะเป็นนักมวยอาชีพ เขาชกมวยและเก็บเงินเก็บทองเพื่อหวังจะให้แม่ที่ป่วยหนักได้รับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน แต่สิ่งที่เขาตามหามาโดยตลอด ก็คือ ต้องการรู้จักพ่อชาวเกาหลีใต้ที่แท้จริงของตนเอง ในที่สุด ความหวังก็เป็นจริง เขาได้รับการติดต่อจากผู้เป็นพ่อ ก่อนจะเดินทางไปยังเกาหลีใต้ โดยไม่รู้เลยว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
เขาได้พบกับชายหนุ่มหน้าหล่อคนหนึ่ง (คิมซอนโฮ จากซีรีส์เรื่อง ‘Start-Up’, ‘Hometown Cha-Cha-Cha’ และ ‘100 Days My Prince’ ) ที่ไม่ยอมบอกชื่อ แต่มักเรียกตนว่าเป็นเพื่อน เขาไม่รู้ว่าชายคนนี้จะมาดีหรือร้ายกันแน่ ที่แน่ๆ เขามีรอยยิ้มที่ดูเลือดเย็น และตามไล่ล่าเขาไปทุกที่ จุดประสงค์ของชายคนนี้คืออะไร แล้วเขาจะรอดพ้นจากเงื้อมมือของนักฆ่าหน้ายิ้มคนนี้ได้อย่างไรกัน
รีวิวหนัง ‘เทพบุตร ล่านรก’
สิ่งหนึ่งที่เราจะเห็นได้จากหนังเรื่องนี้ คือ การมีพระเอกเป็นนักฆ่าหน้าหล่อมาทำท่าทียียวน ทั้งโหด ทั้งเกรียน และมีรอยยิ้มที่แอบโรคจิตหน่อยๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ รวมกันได้ในร่างของผู้ชายอย่าง คิมซอนโฮ เขาสามารถถ่ายทอดบุคลิกที่ดูไม่น่าจะเข้ากันให้ออกมากลมกลืน นับว่าไม่เลวเลย
จากนั้นก็มาดูที่บทหนังบ้างดีกว่า หนังเรื่องนี้ เริ่มต้นด้วยชีวิตของมาร์โก้ นักมวยเชื้อสายเกาหลีคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในฟิลิปปินส์ พูดได้ทั้งอังกฤษและตากาล็อก เติบโตมากับสถานเลี้ยงดูเด็ก และมีแม่ที่ป่วยหนักซึ่งต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน แต่ด้วยเงินจากการต่อยมวยมันอาจไม่ทันการ ในระหว่างนั้น เขาเองก็พยายามสืบหาผู้เป็นพ่อ แล้วเขาก็ได้รับข่าวว่าพ่อชาวเกาหลีก็กำลังตามหาเขาอยู่เช่นกัน
เหตุทั้งก่อน ระหว่างและหลังการเดินทางสู่เกาหลีที่เต็มไปด้วยเงื่อนงำ มาร์โก้ผู้ไม่รู้เลยว่าพ่อของตัวเองเป็นใคร แต่ตอนนี้ รู้แล้วว่ารวยมาก ขนาดออกค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่าง กระทั่งหาพยาบาลมาดูแลแม่ให้ แค่นั้น มันยังไม่พอ ระหว่างเดินทางก็ยังเจอชายแปลกหน้ามาทำทีตีสนิท คนดูเองก็ไม่รู้ว่า เทพบุตรคนนี้เขากระซิบอะไรให้มาร์โก้ฟัง บทหนังสร้างความสงสัยในใจผู้ชมไปตลอดทาง
แล้วหลังจากนั้น ชีวิตของมาร์โก้และชายแปลกหน้าก็เกาะเกี่ยวกันอย่างเหนียวแน่น โดยที่ผู้ชมไม่รู้เลยว่า จุดประสงค์ของนักฆ่าหน้าหยกคนนี้คืออะไร แต่ด้วยท่าที การกระทำและบุคลิกของเขา ดูไม่น่าไว้ใจอย่างยิ่ง
ที่เกาหลี เขาได้พบกับอีกตัวละคร ผอ. ฮัน (รับบทโดย คิมคังอู จากหนังเรื่อง ‘Recalled’) ลูกชายอีกคนของพ่อ คนที่ทำให้เกิดฉากต่อสู้สุดเดือดครั้งใหญ่ เรื่องราวในช่วงต่อมานี้มีแต่เรื่องเซอร์ไพรส์ ทุกสิ่งที่หนังปิดบังเรามาตลอด ความซับซ้อนซ่อนเงื่อนค่อยๆ ถูกเฉลย ซึ่งจะว่าไป บทมันก็มีความส่องสะท้อนโลกของทุนนิยมอยู่ด้วยประมาณหนึ่งเลยทีเดียว แต่คงเล่าให้มากไปกว่านี้ไม่ได้แหละ เพราะมันคงจะเป็นสปอยล์!
เรื่องนี้มีตัวละครบางตัวที่เป็นตัวเด่นแต่ไม่ได้ถูกเล่าในเรื่องย่อ นั่นคือ ยุนจู (ที่แสดงโดย Go Ara/โกอารา จากซีรีส์เรื่อง ‘Black’ และ ‘Do Do Sol Sol La La Sol’) เธอโผล่ในฟิลิปปินส์เพียงฉากเดียว ก่อนจะกลับมาอีกครั้งหลังมาร์โก้ถึงเกาหลีแล้ว เป็นอีกตัวละครสำคัญที่จะช่วยเปิดเผยเหตุการณ์ทั้งหมด
โดยรวมนั้น ทุกคนคงรู้สึกเหมือนๆ กันว่าตัวละครของ คิมซอนโฮ คือตัวเด่นสุด เพราะเขาเป็นนักฆ่าที่หน้าเปื้อนยิ้มตลอดเวลา มีทักษะการฆ่าที่เก่งกาจ แต่ด้วยมาดอันยียวน จึงถูกมองว่ามีความเกรียน โหด และฮา นอกเหนือจากความหน้าหล่อ แต่ที่จริง ตัวละครของ คังแทจู นั้นก็ดูน่าสนใจไม่เบา การแสดงออกทางสีหน้าแววตาทำได้ดี ในบทของนักมวยลูกครึ่งเกาหลีที่ปากกัดตีนถีบอยู่ในฟิลิปปินส์
ดูเหมือนหนังอยากจะบอกเล่าชีวิตของคนเกาหลีที่ระหกระเหินอยู่นอกเกาหลี กลุ่มคนที่ถูกเรียกว่า โกปิโน่ แต่ก็ไม่ได้ลงลึกอะไรสักเท่าไหร่
ความพิเศษของหนังเรื่องนี้ คือ การเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย หลายฉากในนั้น คนไทยดูก็คงรู้สึกคุ้นตา เท่าที่รู้คือมาถ่ายที่ สุขุมวิท 22, ถ.เจริญกรุง และสนามมวยรังสิต แม้ว่าทีมงานเกาหลีจะพยายามเซ็ตฉากให้ดูเป็นมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ แต่ก็ปิดไม่มิดเพราะยังหลงเหลือบางส่วนให้เห็นอยู่บ้าง
ถ้าจะดูกันไปตามบทแล้ว มันมีความไม่เม้กเซ้นส์ในบางส่วน นัยว่าตั้งใจอยากให้บทมันยียวนเต็มไปด้วยอารมณ์ขันตามคาแรคเตอร์ของพระเอก หนังมีฉากแถมกลางเครดิต ดูหนังจบแล้ว ก็ทำให้ครุ่นคิดว่า ดูท่าเขาตั้งใจจะไปต่อในภาคที่สองอยู่นะ
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | The Childe / เทพบุตร ล่านรก / 귀공자 |
กำกับ | Park Hoon Jung/พัคฮุนจอง |
เขียนบท | Park Hoon Jung/พัคฮุนจอง |
แสดงนำ | Kim Sun Ho/คิมซอนโฮ, Kang Tae Ju/คังแทจู, Kim Kang Woo/คิมคังอู, Go Ara/โกอารา |
แนว/ประเภท | แอ็คชัน, ดราม่า |
เรท | |
ความยาว | 118 นาที |
ปี | 2023 |
สัญชาติ | เกาหลีใต้ |
เข้าฉายในไทย | 27 กรกฎาคม 2023 |
ผลิต/จัดจำหน่าย | Goldmoon Film, Studio & New, Sahamongkolfilm International Company |
คะแนนหนัง เทพบุตร ล่านรก
พล็อตและบท - 7
การแสดง - 7.7
การดำเนินเรื่อง - 7.5
เพลงและดนตรีประกอบ - 7
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชัน - 7
7.2
The Childe
อาจจะพบว่า บทหนังมีความไม่เม้กเซ้นส์อยู่บางส่วน แต่ถ้าดูรวมๆ แล้ว เหมือนหนังจะจงใจให้บทเป็นแบบนั้น คือมีความยียวนกวนประสาทไม่ต่างกับคาแรกเตอร์ของนักฆ่าหน้ายิ้ม ผู้มีบุคลิกทั้งเกรียน โหด ยิ้มจิตๆ และกวนประสาทรวมในคนเดียวกัน หนังสร้างความสงสัยไว้ตั้งแต่ต้น ก่อนจะค่อยๆ เฉลยความจริง มีเซอร์ไพรส์เป็นระยะ ได้ฮาเป็นช่วงๆ ทั้งคิมซอนโฮ และคังแทจู ต่างสวมบทบาทได้ดี เป็นหนังที่ได้ใจคนดูไปพอสมควรเลย