รีวิวหนัง The Big Short เกมฉวยโอกาสรวย | เล่าแซ่บวิกฤตการเงิน

อีกวันของนายแพทที่เดินเข้าโรงหนัง หลังจากนอนไม่ค่อยจะเพียงพอแต่วันนี้จะได้เจอกับหนังเต็งรางวัลที่น่าจะปวดเศียรเวียนเกล้าอยู่ไม่น้อย ก็เล่นขึ้นต้นมาว่าเป็นหนังที่ว่าด้วยเรื่องเงินๆ ทองๆ การลงทุนและกลโกงต่างๆ ซึ่งดูจะเป็นอะไรที่เข้าใจยากอยู่สักหน่อย แต่ก็นั่นล่ะ ช่วงนี้ ผมถือคติว่าไม่วาดหวังอะไรก่อนจะเข้าไปดู ‘The Big Short’

หนังที่ดัดแปลงมาจากหนังสือนิยายระดับเบสเซลเลอร์ของ Michael Lewis (เจ้าของ The Blind Side, Moneyball) ผ่านการเขียนบทโดย Charles Randolph และ Adam McKay และกำกับโดย Adam McKay (จาก Anchorman, Step Brothers) เรื่องนี้มีชื่อว่า ‘เกมฉวยโอกาสรวย’ เรื่องของชายหนุ่ม 4 คนที่เฉือนคมกันไปมาในโลกแห่งการเงิน

โลกที่คุณธรรมสวนทางกับผลประโยชน์อย่างสิ้นเชิง

เรื่องย่อหนัง ‘The Big Short’

ทั้งหมดนั้นนำมาจากเรื่องจริงเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับโลกใบนี้ ถูกหยิบมาเขียนมาเล่าเพื่อเป็นอุทธาหรณ์ให้กับคนในวงการเงิน-ธนาคารในรุ่นถัดๆ ไป เมื่อคนที่ทำงานกับตัวเงิน หมกมุ่นอยู่กับหนี้สิน พันธบัตรและธนาคารมาตลอดจนมองว่ามันช่างเป็นยุคที่น่าเบื่อเมื่อเงินต่างๆ ช่างงอกเงยได้เชื่องช้าเหลือเกิน และเห็นช่องทางทำเงินที่เติบโตแบบก้าวกระโดดได้มากกว่านั้นมาก แต่ทั้งหมดต้องแลกมาด้วยการคดโกงลูกค้า

และความเดือดร้อนของคนมากมาย

Michael Burry (Christian Bale), Jared Vennett (Ryan Gosling), Mark Baum (Steve Carell) และ Ben Rickert (Brad Pitt) พวกเขาต่างเห็นเค้าลางของวิกฤติเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต จึงเกิดไอเดียในการลงทุนที่นำไปสู่ด้านมืดของระบบธนาคารสมัยใหม่ ทุกสิ่งที่พวกเขาทำจะมีผลต่อทุกสิ่งไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ที่พวกเขาอาจจะไม่ได้คาดคิดว่ามันจะลุกลามขนาดนั้น

สี่หนุ่มที่ถูกเล่าอย่างโดดเด่นในหนังเรื่องนี้ ต่างก็มีบทบาทที่โดดเด้งในทางของตัวเอง มีความแนวคิดต่อเรื่องนี้แตกต่างกันและต่างก็ตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นแตกต่างกันไป

รีวิวหนัง ‘เกมฉวยโอกาสรวย’

ด้วยภาษาทางการเงินที่แม้จะอธิบายอย่างโจ่งแจ้งในหนังแล้ว แต่ก็ใช่ว่าคนที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงนี้ ไม่ค่อยได้เกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้ จะเข้าใจได้ง่ายภายในเวลาชั่วนาทีที่หนังนั่งลงอธิบาย แต่จุดที่ดีของหนังก็ความพยายามอธิบายเรื่องยากให้ดูเข้าใจให้ง่ายขึ้นด้วยวิธีที่สนุกและมีอารมณ์ขัน

ช่วงเวลา 130 นาทีของหนังผ่านไปพร้อมความงงงวยของคนดูที่ต้องอ่านซับไทยที่ต้องใช้สมาธิสติปัญญาในการทำความเข้าใจเรื่องราว ซึ่งบางครั้งก็พบว่ามันไม่ได้ไปไหนไกลมากนัก แม้ว่าเราจะจับใจความได้คร่าวๆ แต่มันก็ยังไม่มากพอจะเล่าให้ใครเข้าใจได้อยู่ดี

ดูท่าจะต้องมีรอบสองหากจะให้เข้าใจถ่องแท้กว่านี้

ในด้านของบทบาทการแสดงของนักแสดงนำ นับว่าพวกเขาทำได้ดีกันทุกคน ที่จะโดดเด่นเป็นพิเศษก็เห็นจะเป็น คริสเตียน เบล ที่รับบทไมเคิล เบอร์รี่ ผู้ปราดเปรื่องมองเห็นลู่ทางได้ก่อนเพื่อน เขามีบุคลิกที่ดูเนิร์ดและเข้าสังคมไม่ค่อยเป็น ซึ่งดูเป็นบทที่ท้าทายอยู่พอสมควร อีกฝั่งคือ สตีฟ คาเรลล์ ที่ถือเป็นตัวที่มีบทมากที่สุดในเรื่อง ผู้มีหนทางแห่งคุณธรรมอยู่ในหัวใจและมีโอกาสได้แสดงอารมณ์มากที่สุดในเรื่อง

หนังใช้การเล่าเรื่องและเทคนิคภาพที่หลากหลายเพื่อสร้างความแตกต่างในแต่ละช่วงเวลาของการเล่าเรื่อง สลับไปกับการหาคนที่เราคาดกันไม่ถึงมาอธิบายบางสิ่งที่คิดว่าคนดูน่าจะไม่เข้าใจ ถือว่าเป็นเทคนิคที่ดูครีเอตดี

อย่างไรก็ดี หนังดูจะเหมาะกับคนบางกลุ่ม โดยเฉพาะพวกอยู่ในแวดวงการเงิน การธนาคาร และนักลงทุน พวกนี้น่าจะเข้าใจและมีอารมณ์ร่วมกับหนังมากเป็นพิเศษกว่ากลุ่มอื่นๆ

‘เกมฉวยโอกาสรวย’ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงบนเวทีลูกโลกทองคำทั้งในสาขาภาพยนตร์สาขาภาพยตร์ตลก/เพลงยอดเยี่ยม, ดารานำชายสาขาภาพยตร์ตลก/เพลงยอดเยี่ยม (คริสเตียน เบล และ สตีฟ คาเรลล์ ได้รับการเสนอชื่อทั้งคู่) และบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม การันตีได้ถึงความเพียบพร้อมในทุกด้าน แม้ว่าเรื่องราวมันอาจจะหนักหัวไปบ้างหากไม่ได้อยู่ในแวดวง

แต่นี่ก็คือหนึ่งในหนังที่ควรค่าแก่การชมอีกเรื่องหนึ่งในช่วงนี้

ชื่อภาพยนตร์: The Big Short / เกมฉวยโอกาสรวย
ผู้กำกับภาพยนตร์: Adam McKay
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Charles Randolph (screenplay), Adam McKay (screenplay)
นักแสดงนำ: Christian Bale, Steve Carell, Ryan Gosling, Brad Pitt, Marisa Tomei, Peter Epstein
ความยาว: 130 นาที
แนว/ประเภท: Biography, Drama
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
เรท: ไทย/, MPAA/R
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 7 มกราคม 2559
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Plan B Entertainment, Regency Enterprises