รีวิวหนัง The Battleship Island | ต้องรอดจากเกาะฮาชิมะ

หนังเกาหลีสไตล์เอาตัวรอดและใช้ความรักชาติมาสร้างเรื่องราว โปรดักชั่นดี มีโซจีซบ ซงจุงกิ คิมซูอัน แสดงนำ

หนังเรื่องที่สามในสัปดาห์เป็นหนังเกาหลีที่เล่าเรื่องของสงครามระหว่างสองชนชาติ มันเกิดขึ้นบนเกาะเล็กๆ ที่ถูกตั้งเป็นเหมือง ‘The Battleship Island’ หนังที่มีนักแสดงดังๆ จากแดนกิมจิมาร่วมงานอยู่หลายคน

ภาพจากหนัง ‘เดอะ แบทเทิลชิป ไอส์แลนด์’

หนังมีทั้ง โซจีซบ, ซงจุงกิ และยังมีน้องคิมซูอัน แค่นี้ก็ทำให้หลายคนให้ความสนใจใคร่อยากดูกันแล้ว เกาะฮาชิมะที่กลายเป็นปมขัดแย้งระหว่างเกาหลีและญี่ปุ่นจะเป็นัยังไงนะ เพราะนี่คือหนังที่เกาหลีใต้สร้าง มันจะมีความชาตินิยมแค่ไหน

อยากรู้คงต้องเดินไปดูให้รู้กันซะแล้วล่ะ


เรื่องย่อหนัง ‘The Battleship Island’

หนังเล่าถึงช่วงเวลาของสงครามโลกที่ครอบคลุมไปเกือบจะทั่วทุกที่บนโลก ญี่ปุ่นเป็นอีกชาติหนึ่งที่ร่วมอยู่ในสงครามครั้งนี้ด้วย พวกเขาหลอกกวาดต้อนคนเกาหลีทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ทั้งชายทั้งหญิงข้ามทะเลมาไว้บนเกาะฮาชิมะ แล้วจัดการบังคับให้ทำงานขุดเหมืองถ่านหินแลกกับเงินเดือนที่ถูกหักโน่นนี่นั่นไปจนหมด

ส่วนหนึ่งของผู้คนที่ถูกพาขึ้นมาบนเกาะนี้ ก็เช่นนักดนตรีมีหนวด ลีคังอ๊ก (ฮวางจองมิน จาก ‘The Wailing’) กับลูกสาวโซฮี (คิมซูอัน จาก ‘Train to Busan’) แล้วก็ยังมีหนุ่มนักเลงปลายแถวอย่างชเวชิลซง (โซจีซบ) และอีกหลายต่อหลายคนที่มาเล่นเป็นตัวประกอบ

ในช่วงเวลานั้นเกาหลียังเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่นอยู่ พวกเขาถูกพวกญี่ปุ่นกดขี่สารพัด ให้ทำงานหนักและอันตราย

แถมยังได้อาหารและความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่

ตัวอย่างหนัง ‘เดอะ แบทเทิลชิป ไอส์แลนด์’ [ซับไทย]

แม้ที่ผ่านมา จะไม่มีใครหลบหลีกการตรวจตราจากพวกญี่ปุ่นพ้น แต่ใช่ว่าหนทางของการดิ้นรนหลบหนีจากเกาะนรกแห่งนี้จะเป็นศูนย์ เมื่อมีคนเก่งอย่าง พัคมูยอง (ซงจุงกิ) ที่ถูกส่งมาจากหน่วยพิเศษเพื่อแทรกซึมและนำคนสำคัญที่ถูกควบคุมอยู่บนเกาะออกไป


รีวิวหนัง ‘เดอะ แบทเทิลชิป ไอส์แลนด์’

ผลงานการกำกับของ Ryoo Seung-wan เจ้าของผลงานอย่าง ‘Veteran’ (2015) และ ‘The Berlin File’ (2013) ที่หนนี้ได้มากำกับหนังแนวอิงประวัติศาสตร์สงคราม แต่อาจจะเพิ่มเติมเรื่องราวให้ดูเป็นหนังมากขึ้นหน่อย

มากจนมันกลายเป็นหนังชาตินิยมมากเกินไป

มันคือหนังเอาตัวรอดเชิงรักชาติ

หนังส่งให้ชนชาติญี่ปุ่นไม่มีความดีหลงเหลืออยู่ในจิตใจ ข่มเหงคนเกาหลีได้ทุกวิถีทาง จนคนที่ไม่ได้เป็นทั้งเกาหลีทั้งญี่ปุ่นยังรู้สึกตะขิดตะขวงกับความพยายามในการผลักไสความเลวร้ายใส่คนอื่นของหนัง คนเกาหลีใน ‘เดอะ แบทเทิลชิป ไอส์แลนด์’ จะไม่ได้รับความเป็นธรรมในทุกๆ ด้าน ลงเรือไปก็แสนลำบากในการขับถ่าย ในเรือคงอบอวลไปด้วยกลิ่นอ้วกและอุจจาระ น่าเศร้ามากๆ

พอไปถึงบนเกาะ ถูกบังคับใช้งานโดยที่ได้ค่าจ้างก็เหมือนไม่ได้ ได้กินอาหารที่ไร้ความน่ากิน แถมติดอันดับความสกปรกที่สุดของโลก

หนังพยายามอย่างมากขนาดต้องสร้างความฟูมฟายระดับเมโลดราม่า

ภาพจากหนัง ‘เดอะ แบทเทิลชิป ไอส์แลนด์’

ยิ่งคำพูดคำจาที่ทหารญี่ปุ่นพูดกับแรงงานทาสชาวเกาหลียิ่งพบได้ว่า เขาคงไม่มองชาวเกาหลีว่าเป็นมนุษย์ มันเหมือนหนังที่สร้างมาเพื่อทำให้เกิดความเกลียดชังชนชาติอื่นมากกว่าจะนำเสนอความเป็นจริงทางประวัติศาสตร์

แม้เราจะมองด้วยสายตาที่ปราศจากอคติแล้วก็ตาม

สไตล์หนังออกไปในทางหนังเอาตัวรอดเพียงแต่อาจจะไม่ได้เอาตัวรอดตลอดทั้งเรื่อง เพราะช่วงแรกๆ เหมือนพวกเขายังไม่ทันได้คิดว่าจะหลบหนีไปยังไง ได้แต่เอาตัวให้รอดไปได้นานที่สุด ไม่ก็จบชีวิตตรงนั้นไปเสียเลยดีกว่า ก่อนที่พัคมูยองจะมาช่วยจุดประกายให้ในเวลาต่อมา

การตัดต่อที่ดูแปลกๆ แต่ก็มีฉากที่โดดเด่นอยู่ในนั้น

นอกจากหนังจะใส่ร้ายญี่ปุ่นให้ดูไร้มนุษยธรรม มันก็มีเหมือนกันที่บางส่วนของหนังเหมือนจะถูกตัดไป การเล่าแบบกระโดดทำให้หนังมีความไม่กลมกล่อมอยู่สูง

บางฉากก็จำเป็นต้องมีฉากเชื่อมเล็กๆ เพื่อความสมบูรณ์ในการเล่าเรื่องแต่กลับถูกรวบรัดมาจัดไว้อยู่ในฉากเดียว หรือการเล่าเพียงแค่บทสนทนาทำให้ข้อมูลถูกถ่ายทอดสู่สายตาผู้ชมอย่างรวดเร็วเกินไป

ไม่ทันจะจับใจความอะไร หนังก็ผ่านไปถึงอีกช่วงแล้ว

โปสเตอร์หนัง ‘เดอะ แบทเทิลชิป ไอส์แลนด์’ เวอร์ชั่นไทย

แต่ในความไม่กลมกล่อมก็ยังมีสิ่งดีดีปะปนอยู่ในนั้น อย่างแรกเลยคือ ‘เดอะ แบทเทิลชิป ไอส์แลนด์’ มีฉากการต่อสู้ในห้องอาบน้ำที่โดดเด่นชวนอึ้งมาก เพราะมันดูเรียล ดูน่าหวาดเสียว รวมทั้งเล่นมุมกล้องได้สุดเท่ นี่คือฉากที่เด็ดที่สุดของหนังเลยทีเดียว

น่าเสียดายที่มันมาอยู่ต้นๆ เรื่อง แล้วหลังจากนั้นมันก็เริ่มดร็อปลงไป

จนมาถึงช่วงไคล์แมกซ์ของหนัง ฉากของการรบกันเป็นเหมือนสงครามย่อยๆ บนเกาะแห่งนั้น ภาพความรุนแรงและการหลบหนีเพื่อเอาตัวรอดถือว่าทำได้ตื่นเต้นเร้าใจพอดู หนังมุ่งให้พัคมูยองเป็นคนฉลาดเกินหน้าคนอื่นจนมากเกิน อีกทั้งยังมีความอึดที่มากกว่าชาวบ้านจนแทบกลายเป็นคนเหล็ก กระนั้น ฉากการรบพุ่งยาวๆ ฉากนี้ก็ถือเป็นช่วงที่ทำให้หนังกลับมาดูสนุกได้อีกครั้ง

คิมซูอันคือส่วนที่ดีที่สุดของหนัง รองมาคือโปรดักชั่นอันอลังการ

ขณะที่ในส่วนของฉากที่เป็นเหมือนข้อบังคับของหนังเกาหลี คือดราม่าเรียกน้ำตานั้น นักแสดงที่เล่นได้ชวนอินในบทบาทที่สุด คือสองพ่อลูก ฮวางจองมิน ในบท ลีคังอ๊ก และสาวน้อย คิมซูอัน ในบทลูกสาว ลีโซฮี โดยเฉพาะคิมซูอัน น้องเขาเป็นคนที่เล่นบทเด็กร้องไห้ที่แววตาชวนให้สะอื้นตามมากๆ

แววตาของน้องทำหน้าที่ได้หลายอย่าง ทั้งแสดงความโกรธเกรี้ยว งอน และสะเทือนใจ ฉากเรียกน้ำตาขนาดสั้นๆ ฉากนั้น เป็นช่วงเวลาที่ทำให้หลายคนต้องสะกดกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้

น่าเสียดายที่มันโผล่มาสั้นเกินไป

ภาพจากหนัง ‘เดอะ แบทเทิลชิป ไอส์แลนด์’

อย่างไรก็ตาม คงต้องชื่นชมในความพยายามที่จะสร้างฉากของเกาะฮาชิมะให้ออกมาดูใกล้เคียงของจริงทั้งยังให้อารมณ์น่าหดหู่ได้ถึงระดับ ฉากสงครามย่อยๆ นั่น หลายฉากที่จัดวางกันได้ดี แม้หนังจะเน้นฉากกลางคืนที่ดูมืดไปบ้างก็ตาม ซึ่งในความคิดของผม…

ฉากการต่อสู้ในห้องอาบน้ำนั่นคือพีคสุดเจ๋งสุดแล้วในหนังเรื่องนี้


ชื่อภาพยนตร์: The Battleship Island / เดอะ แบทเทิลชิป ไอส์แลนด์
ผู้กำกับภาพยนตร์: รยู ซึงวาน (Ryoo Seung Wan)
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: N/A
นักแสดงนำ: โซจีซบ, ซงจุงกิ, ฮวางจองมิน, คิมซูอัน, ลีจองฮยอน
ดนตรีประกอบ: N/A
ความยาว: 134 นาที
แนว/ประเภท: Action, Drama, Fantasy, History, War
อัตราส่วนภาพ: N/A
ประเทศ: เกาหลีใต้
เรท: ไทย/, MPAA/
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 3 สิงหาคม 2560
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Filmmaker R&K, Dreambox Media, Mono Film

เดอะ แบทเทิลชิป ไอส์แลนด์

The Battleship Island - 6

6

The Battleship Island

The Battleship Island เป็นหนังสไตล์หนังเอาตัวรอด โลเกชั่นเป็นเกาะเหมืองกลางทะเล ที่ตัวละครถูกเอารับเอาเปรียบและพยายามดิ้นรนหนีออกจากเกาะ เรื่องราวดูโยนความร้ายให้เกาหลีแบบเต็มๆ คิมซูอันคือส่วนที่ดีที่สุดของหนัง เด็กน้อยที่ทำให้กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

User Rating: 3.9 ( 1 votes)
Exit mobile version