นี่คือหนึ่งในภาพยนตร์ไทยที่หลายคนรอคอยของปีนี้ หลังภาคแรกทำเงินไปถล่มทลาย จนก่อให้เกิดการรอคอย พร้อมกับการปรับบทและการดำเนินเรื่องให้สมใจผู้ชม ทำให้ภาคต่อหนังสยองขวัญจากเรื่องเล่าชื่อดัง ส่งไม้ต่อสู่ ‘ธี่หยด 2’ ที่ขยับให้เป็นหนังแอ็คชันปนสยองขวัญ ผสมกลิ่นผจญภัยในป่าอาถรรพ์ ซึ่งผลออกมาว่าสร้างปรากฏการณ์ด้านรายได้ที่เปรี้ยงปร้างยิ่งกว่าเก่า
คิดเห็นเช่นไรกับหนังเรื่องนี้?
ภาคนี้ เล่าต่อจากภาคแรก ด้วยเวลาที่ผ่านมา 3 ปี แต่ยักษ์ พี่ชายของน้องๆ ยังคงไม่เลิกคิดที่จะกำจัดผีชุดดำ ภาคนี้ หนังส่งเขากับทีมเข้าป่าดงโขมดเพื่อตามล่าผีร้ายหมายกำจัด หนทางเดียวที่จะปกป้องครอบครัวได้ หนังจึงเน้นฉากบู๊ยาวๆ ที่น่าจะสะใจคนดูมากพอตัว แต่อาจจะลดความหลอนลงไป ฉากที่ขนหัวลุกอาจจะน้อยลง แต่ยังเต็มไปด้วยฉากชวนสะดุ้งที่มาเรื่อยๆ ไม่ขาดระยะ
ทั้งยังไม่ลืมเล่าเรื่องครอบครัวที่ต้องร่วมพลังกันต่อสู้เพราะผีชุดดำเองก็ตามกลับมารังควานพวกเขาเช่นกัน
เรื่องย่อหนัง ‘Tee Yod 2’
ผ่านไป 3 ปีหลังการตายของแย้มในภาคแรก แต่ยักษ์ (ณเดชน์ คูกิมิยะ จากหนังเรื่อง ‘อ้าย..คนหล่อลวง’) ก็ยังคงตามล่าผีหญิงชุดดำอย่างไม่ลดละ แม้คนในครอบครัวจะพยายามเกลี้ยกล่อมเพียงใดก็ตาม แต่ทุกคนก็รู้ดีว่า ความน่ากลัวของมันยังหลอกหลอนทุกคนอยู่เรื่อยมา และยักษ์ก็เชื่อว่า ตราบใดที่ยังไม่ได้กำจัดมันให้สิ้นซาก สักวัน ผีชุดดำจะต้องกลับมาจัดการกับคนในครอบครัวที่เหลืออย่างแน่นอน
ในที่สุด เขาก็พบเบาะแสว่าผีร้ายกบดานอยู่ที่ ‘ดงโขมด’ อันเป็นพื้นที่ป่าลึกลับที่ผู้คนพากันหวาดกลัวอาถรรพ์ ที่นั่น ผีชุดดำถูกเลี้ยงโดย ตาพวง หมอผีขมังเวทย์คนหนึ่ง ทำให้ยักษ์และจ่าปพันธ์ (องอาจ เจียมเจริญพรกุล) ร่วมกันเดินทางไปที่ป่านั่นเพื่อเผชิญหน้าและกำจัดผีร้ายด้วยตัวเอง
ในช่วงเวลานี้ ทางครอบครัวก็กำลังเตรียมงานแต่งของ หยาด (เดนิส เจลีลชา คัปปุน จากละคร ‘ดวงใจเทวพรหม : ลออจันทร์’) กับ ประดิษฐ์ (พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร จากหนัง ‘MONDO มอนโด รัก | โพสต์ | ลบ | ลืม’) หมอหนุ่มที่กำลังจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง พวกเขาคาดหวังว่ายักษ์จะมาร่วมพิธีมงคลสมรสครั้งนี้ด้วย แต่ก็ไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าจะสมหวังหรือไม่ โดยที่ไม่รู้เลยว่า ผีชุดดำกำลังจะกลับมาทำให้ครอบครัวของยักษ์ต้องเผชิญหน้ากับความสยองอีกครั้ง
รีวิวหนัง ‘ธี่หยด 2’
ในภาคนี้ ครอบครัวของยักษ์ยังอยู่กันครบ ทั้ง หยาด, ยศ (กาจบัณฑิต ใจดี), ยอด (พีระกฤตย์ พชรบุณยเกียรติ), ยี่ (ณัฐชา นีน่า เจสซิกา พาโดวัน), แม่บุญเย็น (อริศรา วงษ์ชาลี) และเฮียฮั่ง (ปรเมศร์ น้อยอ่ำ) ผู้เป็นพ่อ จะขาดไปก็เพียง แย้ม (รัตนวดี วงศ์ทอง) ที่ตายไปในภาคที่แล้ว แต่ภาคนี้มีตัวละครเพิ่มขึ้นมา คือ ประดิษฐ์ ที่กำลังจะแต่งงานหยาด
อาจเป็นเพราะความรู้สึกผิดที่ทำหน้าที่พี่ได้ไม่ดีพอ และเพราะความเจ็บแค้นที่ผีชุดดำเอาชีวิตของแย้ม น้องสาวของเขาไป ทำให้ 3 ปี ยักษ์ไม่เคยหยุดตามหาแกะรอยผีชุดดำ จนได้พบเบาะแสและชักชวนจ่าปสิทธ์ไปยังดงโขมด
อ่านรีวิว ‘ธี่หยด’ ภาคแรก ได้ที่นี่ครับ
เรื่องราวที่ล่วงเลยมาถึงภาคนี้ ผกก. เลือกเปลี่ยนโหมดจากหนังสยองขวัญยึดร่าง ให้กลายเป็นหนังผจญภัย แอ็คชัน เข้าป่าล่าผีกันอย่างเต็มตัว (แม้โดยรวมๆ มันก็ยังเป็นหนังสยองขวัญอยู่) โดยมียักษ์ พี่ชายคนโตที่ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้อยู่กับครอบครัว พอเสียน้องสาวไปจึงเก็บทุกความรู้สึกมาผลักดันให้กลายเป็นคนมุ่งมันจะแก้แค้นผี ที่ผลพลอยได้ของมันคือการได้ปกป้องครอบครัวไปพร้อมๆ กัน
หนังฉายให้เห็นภาพของทีมล่าผีทั้งเจ็ดที่มุ่งหน้าสู่ดงโขมด ล้วนเชื่อมั่นในอาวุธคู่กายที่พกเข้าป่า แต่ความเชื่อที่แตกต่างกันก็ส่งผลต่อเรื่องราว หนังภาคนี้ ให้เวลากับการล่าผีอย่างเต็มเปี่ยมคล้ายกับจะรู้ว่าคนดูกลุ่มใหญ่ต้องการสิ่งใด อีกทั้งยังเล่าย้อนไปในอดีต ทำให้เราได้ล่วงรู้ที่มาของผีชุดดำและความเกี่ยวข้องกับบางตัวละคร
ขณะอีกด้านหนึ่ง ครอบครัวก็กำลังเตรียมการแต่งงานให้กับหยาด ถึงจะงานมงคลแต่ก็ไม่พ้นต้องเผชิญกับการอาละวาดของผีชุดดำ ทำให้ภาพของครอบครัวที่ต้องช่วยเหลือกันต่อต้านผีร้ายก็ยังคงมีอยู่ในธี่หยดภาคที่สอง
หนังเดินเรื่องไปข้างหน้าด้วยแต่ละฉากที่ชวนลุ้นและตื่นเต้น สลับไปกับช็อต jumpscare ที่พาคนขวัญอ่อนให้สะดุ้งสุดตัวทุกครั้ง ความหลอนอาจลดถอยลงไป แต่ความสนุกกลับเพิ่มขึ้นมา ส่วนตัวมองว่า สัดส่วนภาพแบบ IMAX ที่ทำให้เห็นมุมมองเต็มทั้งบนและล่างมากกว่าปกติ ยังไม่ถึงกับน่าตื่นตาเท่าไหร่ ขณะงานด้านเสียงประกอบนั้นกลับน่าสนใจมากกว่า
แม้ตัวละครในภาคนี้จะมีมากกว่าเดิม แต่ก็ยังพบว่าตัวละคร ‘ยักษ์’ ที่ณเดชน์รับบทก็ยังคงเด่นโดดออกมามากกว่าตัวใด อีกครั้งที่เขาได้ซีนโชว์ซิกซ์แพ็คกล้ามล่ำที่ทำให้ผู้ชมฮือฮาจนแทบจะลืมว่ากำลังดูหนังอะไร อีกส่วนคือ แม้มันจะเน้นบู๊ลดความหลอน แต่หนังยังไม่ลืมที่จะให้เวลากับครอบครัวที่ร่วมต่อสู้ไปภัยร้ายไปด้วยกัน แม้ต้องเจ็บช้ำกับความสูญเสียที่กลายเป็นแผลฝังลึกในใจบ้าง หากความรักและผูกพันจะทำให้พวกเขายังคงแข็งแกร่งเสมอมา
และแม้บทหนังบางส่วนก็ดูจงใจจนไม่ชวนให้เชื่อถือไปบ้าง แต่ก็ไม่ค่อยเห็นการแสดงที่เล่นเหมือนละครอย่างภาคแรก และอีกอย่าง มันก็ให้ความบันเทิงมากพอจะทำให้เสียงตอบรับด้านดีออกมาจากปากผู้คนที่ได้ดูมาก่อน รายได้ที่เพิ่มพูนอย่างไม่น่าเชื่อ จนเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ของหนังไทยในปีนี้อย่างแน่นอน
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | ธี่หยด 2 / Tee Yod 2 / Death Whisperer 2 |
กำกับ | ทวีวัฒน์ วันทา |
เขียนบท | สรรัตน์ จิรบวรวิสุทธิ์, พลพล พงษ์แพทย์ |
แสดงนำ | ณเดชน์ คูกิมิยะ, เดนิส เจลีลชา คัปปุน, กาจบัณฑิต ใจดี, พีระกฤตย์ พชรบุณยเกียรติ, ณัฐชา นีน่า เจสซิกา พาโดวัน, พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร, อริศรา วงษ์ชาลี, ปรเมศร์ น้อยอ่ำ, มานิตา ชอบชื่น |
แนว/ประเภท | สยองขวัญ, ระทึกขวัญ |
เรท | น15+ |
ความยาว | 110 นาที |
ปี | 2024 |
สัญชาติ | ไทย |
เข้าฉายในไทย | 10 ตุลาคม 2024 |
ผลิต/จัดจำหน่าย | เมเจอร์ จอยน์ ฟิล์ม, บีอีซีฟิล์ม โดย บีอีซีเวิลด์, เอ็ม สตูดิโอ, เอ็ม พิคเจอร์ |
คะแนนรีวิวหนัง Death Whisperer 2
พล็อตและบท - 7.6
การดำเนินเรื่อง - 7.3
การแสดง - 7.4
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชั่น - 7.7
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.3
7.5
ธี่หยด 2
ภาคนี้ เล่าต่อจากภาคแรก ด้วยเวลาที่ผ่านมา 3 ปี แต่ยักษ์ พี่ชายของน้องๆ ยังคงไม่เลิกคิดที่จะกำจัดผีชุดดำ ภาคนี้ หนังส่งเขากับทีมเข้าป่าดงโขมดเพื่อตามล่าผีร้ายหมายกำจัด หนทางเดียวที่จะปกป้องครอบครัวได้ หนังจึงเน้นฉากบู๊ยาวๆ ที่น่าจะสะใจคนดูมากพอตัว แต่อาจจะลดความหลอนลงไป ฉากที่ขนหัวลุกอาจจะน้อยลง แต่ยังเต็มไปด้วยฉากชวนสะดุ้งที่มาเรื่อยๆ ไม่ขาดระยะ ทั้งยังไม่ลืมเล่าเรื่องครอบครัวที่ต้องร่วมพลังกันต่อสู้เพราะผีชุดดำเองก็ตามกลับมารังควานพวกเขาเช่นกัน