ปีหนึ่ง ผมยอมรับกับตัวเองว่า ผมได้ดูหนังญี่ปุ่นมากที่สุดเมื่อเทียบจำนวนหนังที่เข้ามาฉายบ้านเราจากชาติอื่นๆ ไม่เพราะอะไรแต่อาจจะเป็นเรารู้สึกชอบในวิธีการเล่า การแสดงออก หรือชอบในตัวนักแสดงก็ตาม และปีนี้ก็คิดไว้ว่าจะดูหนังญี่ปุ่นในโรงหนังให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เริ่มต้นปีด้วย ‘Sunny’ หรือ ‘วันนั้น วันนี้ เพื่อนกันตลอดไป’ หนังที่ได้ทุกสิ่งรวมอยู่ในหนังเรื่องเดียวจริงๆ
อาจจะมองว่าเริ่มต้นเราสนใจหนังเพราะนางเอกของเรื่องเป็น ฮิโรเสะ สึซึ แต่นั่นเป็นองค์ประกอบหนึ่งเท่านั้น เมื่อได้มาดูหนังในโรงจริงๆ เพราะนี่มันคือหนังญี่ปุ่นที่เล่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน
ที่ได้รับอรรถรสครบที่สุดเรื่องหนึ่งเท่าที่เคยดูมา
เรื่องย่อหนัง ‘Sunny’
เรื่องราวกล่าวถึงนามิ (ชิโนฮาระ เรียวโกะ) แม่บ้านวัย 40 ที่มีสามีและมีลูกสาววัยมัธยมผู้เป็นไม้เบื่อไม้เมากับเธอทุกวัน วันหนึ่ง ในวันที่เธอไปโรงพยาบาล เธอก็ได้เจอกับเพื่อนเก่าโดยบังเอิญ เซริกะ (อิตายะ ยูกะ) คือเพื่อนคนนั้น เธอได้รับรู้ว่าเซริกะเป็นมะเร็งและจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่เกิน 1 เดือน ความปรารถนาสุดท้ายของเซริกะคือการได้เจอเพื่อนเก่าร่วมแก๊ง ‘Sunny’ อีกครั้ง ได้ร้องเพลง “Tsuyoi Kimochi, Tsuyoi Ai” ร่วมกับเพื่อนๆ กลุ่มเดิม
ภารกิจของการตามหาเพื่อนเก่าของนามิจึงเริ่มขึ้น ณ บัดนั้น
นามิ พยายามติดต่อเพื่อนๆ ในแก๊งให้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง แม้ว่าจะทำได้ไม่ง่ายเลยเพราะต่างคนก็ต่างมีชีวิตเป็นของตัวเอง บางคนก็หายลับเข้ากลีบเมฆ แต่เพื่อทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของเซริกะเป็นจริง
เธอจึงต้องทำมันให้สำเร็จ
รีวิวหนัง ‘วันนั้น วันนี้ เพื่อนกันตลอดไป’
ไปค้นๆ ดู นี่เป็นหนังที่รีเมกหนังเกาหลีมาอีกที ซึ่งหนังเกาหลีก็สร้างมาจากหนังเกาหลีชื่อเดียวที่สร้างในปี 2011 แต่ในเมื่อเรายังไม่ได้ดูเวอร์ชั่นนั้นก็จะข้ามเรื่องการเปรียบเทียบมันไป
ห่างเหินกันไปราว 20 ปี แก๊งซันนี่คือกลุ่มเพื่อนวัยรุ่นวัยเรียนในยุคโน้นที่ยังฮิตถุงเท้าหลวมๆ ความทรงจำในวัยเยาว์กำลังจะกลับมาอีกครั้ง เพลงฮิตๆ ในสมัยนั้น ชีวิตของวัยรุ่นในสมัยนั้น ทุกเรื่องถูกหยิบจับเอามาร้อยเรียงเป็นเรื่องราวของแก๊งสาวหกคน
ที่จะถูกบอกเล่าสลับกันไปกับภาพปัจจุบัน
แค่ได้เห็นตัวเอกนั่งดูทีวีอยู่แล้วในทีวีพูดถึงศิลปินชื่อดังอย่าง Namie Amuro ก็ทำให้รู้สึกแล้วว่าหนังน่าจะต่อกับเราติดได้ไม่ยาก แม้ว่าเราจะไม่ได้ซึมซับกับเพลงญี่ปุ่นระดับลึกมากมาย แต่ก็มีชื่อศิลปินที่รู้จักและมีบางเพลงที่เคยคุ้นหูดังอยู่ในนั้น ไม่ต่างอะไรกับการดูหนังสักเรื่องที่ย้อนวัยไปหาวันเก่าๆ ที่เราเคยผ่านๆ มาอะไรแบบนั้น
หนังเรื่องนี้ความจริง มีชื่อยาวอยู่มิใช่เล่น (อยากรู้ชื่ออะไรอ่านข้างล่างเอาละกัน)
หนังมันบอกเล่าเรื่องราวที่มีความจริงจังออกมาในมุมขี้เล่น ติงต๊อง บ๊องบวม และน่ารัก บทจะจริงจังก็เล่นซะน้ำหูน้ำตาไหลไปกับความสัมพันธ์ เรียกได้ว่าบทคอมิดี้นี่ต้องยกให้กับทีมวัยรุ่นแก๊งซันนี่เขาจริงๆ มาได้จังหวะปุ๊บไม่รอช้า ตบปั๊บทันที …ฮาครืน
บทจะติงต๊องนี่ หนังก็ดั้นด้นเอาจนได้ ทำให้คิดไปนี่ถ้าไม่ใช่เป็นซึสึเล่น มันออกมาเป็นยังไงนะ
เพราะน่ารักอย่างซึสึนี่แหละที่ทำให้บทนี้มันผ่านโดยปริยายจริงๆ
ดูหนังไปแล้วมันจะนึกถึงเพื่อนเก่าๆ อารมณ์นั้นต้องมาเลย เพื่อนก็เป็นกลุ่มคนที่อยู่กับเราในช่วงวัยที่เจิดจ้าที่สุดแล้ว เพื่อนที่ยินดีจะปกป้องให้แก่กันทุกอย่าง แม้ก่อนหน้าจะมาเป็นเพื่อนกันนั้นจะมีสตอรี่อะไรมาก่อนเก่าบ้างก็ตามที
เพื่อนวัยรุ่นมักจะเหมือนคนที่อยู่ในจุดเริ่มต้นจุดเดียวกัน แต่พอต่างคนต่างจบการศึกษาไป ต่างโตขึ้นและมีชีวิตของตัวเองก็เริ่มจะห่างเหินกัน บางคนหายหน้าไปหาไม่เจอ บางทีก็เจริญรุ่งเรืองร่ำรวยมีหน้ามีตา คนที่มีแววโดดเด่นในสมัยเรียนอาจจะกลายเป็นคนชีวิตตกอับในเวลาต่อมา
เวลาคนเราตกต่ำก็มักจะไม่กล้ากลับไปเจอเพื่อนเก่าๆ
มันทำให้ย้อนนึกถึงตัวเราเองนะ ในวัยเรียนเราอาจจะเป็นคนที่โดดเด่นอยู่บ้าง แต่ใครจะรู้ หลายคนที่ตอนเรียนไม่ได้โดดเด่นเลย แต่วันนี้เขาอาจจะกลายเป็นคนก้าวไปไกลกว่าเราเยอะแยะ ในขณะที่เราเองยังไม่ไปไหนเลยก็เป็นได้
แต่กาลเวลามันเปลี่ยนแปลงความเป็นเพื่อนของทุกคนไปบ้างหรือเปล่า คงเป็นเราเองที่ต้องตอบคำถามนี้
หนังใส่เรื่องราวมากมายพอสมควรจนพอดูๆ ไปก็มานั่งคิดว่า นี่ยังไม่จบอีกหรือนี่ เรียกได้ว่ามีทางให้ไปต่อได้ตลอด มีทั้งจุดที่พอเดาได้ จุดที่เซอร์ไพรซ์ก็พอมี แต่เพราะทุกคนจะมีช่วงวัยเรียน ทุกคนมีเพื่อนเก่า มีช่วงเวลาเก่าๆ ที่ประกอบอยู่ หลายคนที่โตมาจนเกินวัยกลางคนแล้วก็จะรู้สึกอินได้มากกับหนังเรื่องนี้
เรื่องการแคสต์นักแสดงก็ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีนะ แม้ผมจะมีปัญหาในการจดจำคนเดียวกันแต่ต่างวัยอยู่บ้างบางคนก็ตามที ก็ต้องเป็นหนังที่ทำได้ครบเครื่องครบรสมากๆ ทั้งทำให้ย้อนนึกถึงวันเวลาเก่าๆ เพลงเก่าๆ เพื่อนสมัย ความเฮฮาโวยวาย ความน่ารักของเพื่อนในวัยเด็ก การแอบชอบ การบอกรัก การเสียน้ำตา ความเสียดายในความผิดพลาดบางอย่างในอดีต
พอโตขึ้นมาก็มีปัญหา มีเรื่องให้คิด การเอาตัวเองให้อยู่รอดในสังคม ทำตัวเองให้ดีพอจะกล้ากลับไปเจอเพื่อนเก่าๆ อาจจะมีใครบางคนต้องจากไปก่อน…
แต่ความทรงจำดีๆ จะยังอยู่คนที่เหลือเสมอ
ชื่อภาพยนตร์: Sunny / วันนั้น วันนี้ เพื่อนกันตลอดไป / SUNNY 強い気持ち・強い愛 / Sunny: Our Hearts Beat Together
ผู้กำกับภาพยนตร์: Hitoshi One
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Hitoshi One
นักแสดงนำ: Ryoko Shinohara/ชิโนฮาระ เรียวโกะ (นามิ), Suzu Hirose/ฮิโรเสะ ซึสึ (นามิ วัยรุ่น), Eiko Koike, (ยูโกะ), Mio Noda (ยูโกะ วัยรุ่น), Naomi Watanabe (อุเมะ), Miu Tomita/โทมิตะ มิอุ (อุเมะ วัยรุ่น), Elaiza Ikeda (นานะ), Yuka Itaya (เซริกะ), Maika Yamamoto (เซริกะ วัยรุ่น), Haruma Miura/มิอุระ ฮารุมะ (วาตารุ วัยรุ่น), Lily Franky (นักสืบเอกชน)
ความยาว: 118 นาที
ปี: 2018
แนว/ประเภท: Comedy, Drama, Musical
อัตราส่วนภาพ:
ประเทศ: ญี่ปุ่น
เรท: ไทย/, MPAA/
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 31 มกราคม 2562
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Toho, Mongkol Cinema
วันนั้น วันนี้ เพื่อนกันตลอดไป
Sunny: Our Hearts Beat Together - 9
9
Sunny
ความสุข ความทรงจำ ไม่มีที่สุด Sunny: Our Hearts Beat Together วันนั้น วันนี้ เพื่อนกันตลอดไป หนังญี่ปุ่นที่เล่าสลับระหว่างอดีตกับปัจจุบันได้ดี ใส่ทุกอย่างทั้งฮา น่ารัก และโศกเศร้าสะเทือนใจ คนดูจึงได้ทั้งการย้อนวัย ได้ทั้งเสียงหัวเราะ คราบน้ำตา และการหวนถึงความทรงจำกับเพื่อนสมัยเรียน
1 คอมเมนต์