ก่อนหน้านี้ 2 ปี หนังเรื่องนี้ ‘Speak No Evil’ เคยเป็นหนังเดนมาร์กที่เข้ามาฉายในไทย สร้างกระแสสั่นสะเทือนใจถึงขั้นดำดิ่งให้เกิดผู้ชม แต่เพียง 2 ปีให้หลัง อเมริการีเมกสร้างใหม่ให้แบบฉบับของตัวเอง มันจึงกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับชื่อไทยใหม่ ‘เงียบซ่อนตาย’ ด้วยกลุ่มนักแสดงชุดใหม่ ที่บอกได้เลยว่า จบต่างไปจากเดิม
ความเห็นส่วนตัวของนายแพท
รีเมกใหม่โดย James Watkins ผู้กำกับที่เคยร่วมกำกับ ‘Black Mirror’ เรื่องราวของครอบครัวที่ได้รับคำเชิญให้ไปใช้เวลาช่วงสุดสับปดาห์ที่บ้านของครอบครัวที่เพิ่งรู้จักกันช่วงพักร้อน หนังที่เริ่มเรื่องเหมือนเดิม แต่ค่อยๆ แตกต่าง เพิ่มรายละเอียดแง่มุมอื่นเข้ามา ขณะเดียวกันก็ลดบางรายละเอียดจากเวอร์ชันเดิมออกไป ก่อนจะเปลี่ยนวิธีการเล่าให้สนุกขึ้นในช่วงท้าย
พูดง่ายๆ คือเปลี่ยนจากการเล่าแบบหนังยุโรป ให้เป็นหนังเมกัน ชอบแบบไหนมากกว่า คุณคงต้องเป็นคนตอบคำถามนี้ด้วยตัวเอง
เรื่องย่อหนัง ‘Speak No Evil’ เวอร์ชันปี 2024
เบน ดัลตัน (Scoot McNairy จากหนังเรื่อง ‘C’mon C’mon’), หลุยส์ (Mackenzie Davis จากหนังเรื่อง ‘Blade Runner 2049’) และแอ็กเนส (Alix West Lefler) คือครอบครัวชาวอเมริกันที่มาเที่ยวพักร้อนด้วยกัน แล้วก็ได้รู้จักและผูกมิตรกับ แพ็ดดี้ (James McAvoy จากหนังเรื่อง ‘Split จิตหลุดโลก’ และ ‘Glass’) และเคียร่า (Aisling Franciosi จากหนังเรื่อง ‘The Nightingale’) ครอบครัวชาวอังกฤษที่มีลูกชายพูดไม่ได้ชื่อแอนท์ (Dan Hough) ที่นั่น ก่อนช่วงเวลาพักร้อนจะหมดลง
จากนั้นไม่นาน พวกเขาก็ได้คำเชื้อเชิญให้ใช้เวลาช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่บ้านในชนบทอันแสนเงียบสงบ แต่ดูเหมือนสิ่งที่เริ่มต้นจากการเป็นวันหยุดในฝันได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นฝันร้ายที่คุกคามจิตใจของพวกเขาอย่างรวดเร็ว
รีวิวหนัง ‘เงียบซ่อนตาย‘
ก่อนหน้านั้น มันเคยเป็นหนังเดนมาร์กที่มีชื่อไทยว่า ‘พักร้อนซ่อนตาย’ ที่ลาสุดก็หาดูได้ใน Netflix ผ่านมา 2 ปี บลัมเฮ้าส์ที่ซื้อลิขสิทธิ์ไปก็รีเมกใหม่ออกฉายเป็นที่เรียบร้อย ด้วยไอเดียและวิธีการเล่าที่ปรับเปลี่ยนรายละเอียดไปบ้างในครึ่งแรก แต่แตกต่างออกไปเลยในครึ่งหลัง ขณะที่สัญชาติของครอบครัวในเรื่องก็เปลี่ยนไป และชื่อของตัวละครก็เหลือเพียง หลุยส์ และแอ็กเนส เท่านั้นที่ยังคงเดิม
ระหว่างดู สิ่งที่พบก็คือ บทของนายตัวร้ายเจ้าของบ้าน ถูกปรับให้แสดงออกแบบโจ่งแจ้งมากขึ้นกว่าต้นฉบับ เขาแสดงด้วยการเข้าหาครอบครัวชาวอเมริกันมากขึ้น บทพูดก็มากขึ้นด้วย ต่างกับเวอร์ชันเดิมที่จะดูนิ่งกว่า ดูเป็นมิตรกว่า แม้บ้างจะบอกกันว่า เวอร์ชันนี้ยังคงให้ความรู้สึกไม่น่าไว้วางใจเหมือนเช่นเดิม แต่นายแพทกลับรู้สึกต่างไป
การเล่นแบบจิตๆ แต่โจ่งแจ้ง ปั่นประสาทผีเข้าผีออกแบบ เจมส์ แมคอะวอย มันกลับไม่ชวนให้รู้สึกหวาดระแวงเท่าของเดิม คงเป็นเพราะเคยดูเวอร์ชันก่อนหน้ามาแล้ว จึงรู้ว่าครอบครัวเจ้าของบ้านจะมีพฤติกรรมแบบไหน ท่าทางเป็นคนดีไม่มีพิษภัยอาจทำให้การหลวมตัวยอมไปเที่ยวบ้านเขาดูน่าเชื่อกว่า แต่นี่คงเป็นวิถีของหนังอเมริกัน
หนังเปิดเรื่องด้วยซีนเดียวกันแบบเป๊ะ แต่ช่วงถัดมา เราก็จะได้พบความแตกต่างที่เพิ่มขึ้นทีละจุดสองจุด ขณะที่บางซีนที่เคยมีกลับหดหาย และเพิ่มรายละเอียดใหม่เข้ามา ทำให้หนังมีแง่มุมใหม่แต่กลับชวนเชื่อได้น้อยลง สาเหตุที่พอจะเห็นคือหนังตัดบางฉากที่มีเหตุผลสนับสนุนหนักแน่น ทำให้ตัวละครรู้สึกอยากกลับทันทีออก อาจเพราะเวอร์ชันเดิมดูจะเล่าช้าเกินไป เวอร์ชันนี้เลยตัดบางฉากเพื่อหวังให้กระชับขึ้น แต่ปรากฏว่า มันกลับกลายเป็นการเล่าที่น้อยไป
โดยรวมแล้ว มันก็ยังคงเป็นหนังที่เล่าเรื่องเดิมแหละ ลูกสาวของครอบครัวผู้มาเยือน ยังคงเป็นตัวละครที่ชวนขัดใจ ติดตุ๊กตาโปรดจนทำให้ครอบครัวเข้าสู่เหตุเลวร้าย ส่วนพ่อแม่ก็ขี้เกรงใจ ไม่กล้าปฏิเสธ สุดท้ายก็ทำให้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความตาย สิ่งที่เพิ่มเติมมาคือ บางครั้ง เราก็เปิดเผยชีวิตส่วนตัวให้คนที่เพิ่งรู้จักมากเกินไปโดยไม่รู้ตัว แล้วบังเอิญไปเจอคนประหลาดที่กำลังมองหาคนแบบคุณอยู่ก่อนแล้ว สุดท้าย คุณก็เลยกลายเป็นเหยื่อนั่นเอง
สำหรับนายแพทแล้ว ด้วยวิธีการเล่นแบบนี้ ครึ่งแรกของหนังเลยไม่ได้สร้างความไม่ไว้วางใจหรือหวาดระแวงมากนัก เพราะเรารู้จักครอบครัวนี้มาก่อนแล้ว แต่ครึ่งหลัง หนังหันไปเล่าอีกแบบที่แตกต่างจากตันฉบับ ทำให้มันกลายเป็นหนังที่สนุกเพราะผู้ชมจะได้ลุ้นไปกับการเอาตัวรอดของครอบครัวที่ไม่รู้จะเรียกว่า “เคราะห์ร้าย” ดีหรือเปล่า และมีบางช็อตที่ทำให้คนดูในรอบสื่อถึงกับปรบมือให้
Taglines: Hear no evil.
เวอร์ชั่นดั้งเดิมนั้นมันจะค่อนข้างเดินเรื่องแบบไม่เร่งร้อน แต่ใส่ความน่าหวาดระแวงอยู่ในนั้น ก่อนจะเปลี่ยนโหมดเป็นสยองขวัญและพาดำดิ่งในช่วงท้าย ก็พอเข้าใจว่าหนังยุโรปมันก็จะประมาณนี้ แต่เมื่อรีเมกใหม่ให้เป็นหนังอเมริกัน มันก็จะกลายเป็นอีกแบบ ตัวร้ายต้องส่งสายตาพิฆาตมาตั้งแต่ต้น ปิดท้ายด้วยอีกอารมณ์ที่พาคนดูลุ้นระทึกแบบนั่งรถไฟเหาะ ก็คงขึ้นอยู่กับคนดูว่าจะชอบหรือถูกจริตกับสไตล์ไหน ส่วนผมเองนี่ยังตัดสินใจไม่ได้เลยว่าชอบอันไหนมากกว่ากัน
เท่าที่ฟังมา ความรู้สึกของเวอร์ชันนี้ค่อนข้างเสียงแตกอยู่พอสมควร บ้างก็ชอบเวอร์ชันดั้งเดิมมากกว่า ขณะที่บ้างก็ชอบเวอร์ชันรีเมกมากกว่า เอาเป็นว่า คุณจะรู้สึกเช่นไร ต้องไปตอบคำถามนี้ด้วยตัวเองในโรงภาพยนตร์นะครับ
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | Speak No Evil / เงียบซ่อนตาย |
กำกับ | James Watkins |
เขียนบท | Christian Tafdrup, Mads Tafdrup, James Watkins |
แสดงนำ | James McAvoy, Mackenzie Davis, Scoot McNairy, Aisling Franciosi, Alix West Lefler |
แนว/ประเภท | ดราม่า, สยองขวัญ, ระทึกขวัญ |
เรท | R |
ความยาว | 110 นาที |
ปี | 2024 |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
เข้าฉายในไทย | 12 กันยายน 2024 |
ผลิต/จัดจำหน่าย | Universal Pictures, Blumhouse Productions |
คะแนนรีวิวหนัง เงียบซ่อนตาย
พล็อตและบท - 7
การดำเนินเรื่อง - 7.5
การแสดง - 7
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชั่น - 7.5
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.5
7.3
Speak No Evil (2024)
รีเมกใหม่โดย James Watkins ผู้กำกับที่เคยร่วมกำกับ 'Black Mirror' เรื่องราวของครอบครัวที่ได้รับคำเชิญให้ไปใช้เวลาช่วงสุดสับปดาห์ที่บ้านของครอบครัวที่เพิ่งรู้จักกันช่วงพักร้อน หนังที่เริ่มเรื่องเหมือนเดิม แต่ค่อยๆ แตกต่าง เพิ่มรายละเอียดแง่มุมอื่นเข้ามา ขณะเดียวกันก็ลดบางรายละเอียดจากเวอร์ชันเดิมออกไป ก่อนจะเปลี่ยนวิธีการเล่าให้สนุกขึ้นในช่วงท้าย