แม้เราจะบอกให้อยู่ในโลกแห่งความจริง แต่บางช่วงเวลาก็อาจพบตนเองเวอร์ชันที่มีความสุขมากกว่าเมื่ออยู่ในความฝัน ช่วงเวลาเหล่านั้น เราอาจรู้สึกอยากนอนหลับแล้วท่องอยู่ในโลกที่เราต้องการจะเป็น แต่ก็ใช่โลกใบนั้นจะมีแต่เรื่องดีดี วันนี้ เราจะพาไปพบกับหนังที่สร้างมาเพื่อคนที่ไม่อาจยอมรับความจริงที่เป็นอยู่ได้ ‘Slumberland’ ในชื่อไทยที่ทับศัพท์กันไปเลยว่า ‘สลัมเบอร์แลนด์’ ที่ออนแอร์ทางเน็ตฟลิกซ์ไงครับ
ถ้าพูดถึงชื่อผู้กำกับ Francis Lawrence ชายคนนี้เขามีเครดิตสั่งสมชื่อเสียงมานาน แต่งานที่ผู้คนรู้จักส่วนใหญ่เป็นหนังแอคชั่น ไม่ก็แฟนตาซี หรือหนังที่ค่อนข้างจริงจัง ไม่ว่าจะ ‘Constantine’, ‘The Hunger Games: Catching Fire’, ‘Red Sparrow’ หรือจะเป็น ‘I Am Legend’ หรือจะถ้าจะฉีกออกไปหน่อยก็เป็นดราม่าโรแมนติกอย่าง ‘Water for Elephants’ แต่หนนี้เขาได้กำกับหนังแฟนตาซีแนวครอบครัวที่ฉายในระบบสตรีมมิ่ง
ก็นับว่าแปลกตาดีเหมือนกันแฮะ
เรื่องย่อหนัง ‘Slumberland’
อันที่จริงมันเป็นหนังผจญภัยในความฝันของเด็กน้อยคนหนึ่ง เธอคือ นีโม่ (Marlow Barkley จากหนังเรื่อง ‘Spirited’ และซีรีส์เรื่อง ‘Single Parents’) เด็กผู้หญิงที่อาศัยอยู่กับพ่อ (Kyle Chandler จากหนังเรื่อง ‘Game Night’ และ ‘Super 8’) ในประภาคารแห่งหนึ่ง แยกตัวเองออกจากผู้คน เรียนก็เรียนในบ้าน ทุกคืน พ่อจะเล่าเรื่องราวของเขากับฟลิบที่ได้ไปผจญภัยด้วยกัน แต่วันหนึ่ง ก็กลับเกิดเหตุไม่คาดฝัน พ่อของเธอจากไปแล้วไม่หวนกลับคืนมา ความเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันทำให้นีโม่อ้างว้างและไม่อาจยอมรับชีวิตที่ไร้พ่อได้
ชีวิตพาให้เธอได้ไปอยู่ในการดูแลของคุณอาผู้แปลกหน้าอย่าง ฟิลิป (Chris O’Dowd จากหนังเรื่อง ‘Loving Vincent’ และ ‘Bridesmaids’) คนที่เป็นเจ้าของธุรกิจลูกบิดประตู ทั้งสองคนยังไม่อาจปรับตัวเข้ากันได้ และนีโม่เองก็ยังคงคิดถึงพ่ออยู่มากก่อนที่เธอจะหลับแล้วฝัน ในฝันนั้นเธอได้พบกับเพื่อนใหม่เป็นชายร่างใหญ่มีกลิ่นตัว เขาคือฟลิป (Jason Momoa จากหนังเรื่อง ‘Aquaman’, ‘Sweet Girl’ และซีรีส์เรื่อง ‘Game of Thrones’) คนที่พ่อเคยเล่าถึง
ฟลิปคือคนที่พาเธอท่องโลกแห่งความฝัน จุดมุ่งหมายของเธอคือการเดินทางไปเก็บไข่มุกวิเศษในทะเลแห่งฝันร้ายที่ว่ากันว่า เมื่อได้ครอบครอง สิ่งที่อธิษฐานจะเป็นจริง และสิ่งที่เธอต้องการก็คือพ่อนั่นเอง
รีวิวหนัง ‘สลัมเบอร์แลนด์’
มันเป็นเรื่องของการไม่อาจมูฟออนจากสิ่งที่ตัวเองยึดติดนั่นเองแหละ เด็กน้อยนีโม่ที่อยู่กับพ่อสองคนในบ้านประภาคารมาตลอด เมื่อสูญเสียไปก็อยากจะยื้อพ่อกลับคืนมา อาฟิลิปเองก็ไม่แตกต่าง เขากลายเป็นคนที่อยู่กับตัวเองไม่เจอกับใครไม่มีเพื่อนก็เพราะยึดติดกับบางสิ่งบางอย่างมากเกินไป แต่หนังนำไปผูกโยงกับเรื่องราวแฟนตาซีอย่าง ‘ความฝัน’ ให้มันมีอีกโลกหนึ่งซ้อนทับอยู่กับโลกจริงที่เกิดขึ้นตอนตื่น แต่โลกแห่งความฝันที่ดำเนินอยู่ตลอด แต่เราจะไปอยู่ในนั้นก็ต่อเมื่อเราหลับไป
เรื่องราวที่ไม่ได้เดายากเย็นอะไร แต่มันให้นิยามของความฝันในรูปแบบที่ต่างออกไปนิดนึง ตัวตนของเราในความฝันอาจดำเนินได้อยู่เช่นนั้นแม้เราจะตื่นขึ้นมาแล้วก็ตาม
เจสัน โมโมอา ได้เล่นกับเด็กผู้หญิงอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาได้รับบทของฟลิป ชายที่คาแรกเตอร์ดูใกล้เคียงกับ แจ็ค สแปร์โรว ที่ออกแนวอันธพาลเล็กๆ และเขาก็ทำได้ไม่เลวเลย ขณะที่โมเมนต์ระหว่าง มาร์โลว บาร์กลีย์ กับ คริส โอดาวด์ ที่ต่างต้องจัดการกับความเศร้าโศกของตัวเองก็นับว่าโอเค โดยเฉพาะมาร์โลว นี่คืองานชิ้นแรกที่ทำให้นายแพทได้เจอกับเธอ ซึ่งต้องบอกว่าแว้บแรกที่ได้เจอ รู้สึกได้ทันทีเลยว่า เธอเป็นเด็กที่น่ารักมาก ทั้งความสามารถทางการแสดงเธอก็ค่อนข้างดี หวังให้เธอได้รุ่งในเส้นทางสายนี้เช่นกัน
จะว่าไป ความโดดเด่นของหนังเรื่องนี้ที่เห็นได้ชัด นอกเหนือจากมาร์โลวแล้วก็คือ งานซีจีที่สดสวยตระการตาเอามากๆ มากจนโดดเด่นยิ่งกว่าเรื่องราวเสียอีก แต่ยังไงก็ตาม มันดูเข้ากันดีกับโลกในความฝัน ความละเอียดละออของต้นหญ้าที่พลิ้วไหว ฉากการเต้นรำที่ระยิบระยับไปด้วยปีกผีเสื้อ หรือฉากของนครที่เต็มไปด้วยตึกแก้ว ทำให้คิดไปว่า ถ้าได้ดูในโรงหนังคงอึ้งทึ่งว้าวได้มากกว่านี้แน่
อย่างไรก็ดี หนังที่เหมือนจะมีไอเดียเรื่องของการมูฟออนและเลิกยึดติดนี้กลับไม่ได้โดดเด่นชวนคล้อยตามมากมายนัก แถมหนังบางช่วงก็ดูจะเยิ่นย้วนด้วยอีกต่างหาก กลายเป็นหนังที่เพลินๆ ฆ่าเวลาไปซะอย่างนั้น
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | Slumberland / สลัมเบอร์แลนด์ |
กำกับ | Francis Lawrence |
เขียนบท | David Guion, Michael Handelman |
แสดงนำ | Jason Momoa, Marlow Barkley, Chris O’Dowd, Kyle Chandler, Weruche Opia |
แนว/ประเภท | ผจญภัย, ครอบครัว, คอเมดี้, แฟนตาซี |
เรท | PG |
ความยาว | 117 นาที |
ปี | 2022 |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
เข้าฉายในไทย | 18 พฤศจิกายน 2022 [ทาง Netflix] |
ผลิต/จัดจำหน่าย | Chernin Entertainment |
สลัมเบอร์แลนด์
พล็อตและบท - 6
การแสดง - 6.9
การดำเนินเรื่อง - 6.2
เพลงและดนตรีประกอบ - 7
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชัน - 8
6.8
Slumberland
ความโดดเด่นของหนังเรื่องนี้ที่เห็นได้ชัด นอกเหนือจากเด็กน้อยมาร์โลวที่แสนนารัก ก็คืองานซีจีที่สดสวยตระการตาเอามากๆ มากจนโดดเด่นยิ่งกว่าเรื่องราว หนังที่เหมือนจะมีไอเดียเรื่องของการมูฟออนและเลิกยึดติดนี้กลับไม่ได้โดดเด่นชวนคล้อยตามมากมายนัก แถมหนังบางช่วงก็ดูจะเยิ่นย้วนด้วยอีกต่างหาก กลายเป็นหนังที่เพลินๆ ฆ่าเวลาไปซะอย่างนั้น