ในบางสัปดาห์ นายแพทจำต้องใช้ความคิดอย่างมากในการคัดเลือกว่าจะชมหนังรอบสื่อเรื่องไหนดี เพราะบางวันฉายพร้อมกันหลายเรื่องต่างโรงจนเลือกกันไม่ถูก อย่างเช่นพุธนี้เป็นต้น แต่หลังจากพิจารณาดูแล้วก็เจาะจงเลือก ‘Silence’ หนังที่มีแง่มุมทางศาสนาและชนชาติแถมยาวมากๆ อีกด้วย
หนังมีชื่อไทยที่ตั้งด้วยการอิงชื่อฝรั่งว่า ‘ศรัทธาไม่เงียบ’ ดูจากพล็อตมันไม่น่าจะใช่หนังสำหรับคนทั่วไปเท่าไหร่ นอกจากจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับศาสนาและความเชื่อแล้ว มันยังมีความยาวถึง 2 ชั่วโมง 41 นาทีอีกต่างหาก
แต่ดูรายชื่อนักแสดงและผู้กำกับฯ แล้วจึงเลือกไปดูครับ!
เรื่องย่อหนัง ‘Silence’
เหตุเพราะบาทหลวงเฟอร์เรร่า (Liam Neeson) ผู้เดินทางไปเผยแพร่ศาสนาคริสต์ยังดินแดนญี่ปุ่น เกิดหายตัวไป หลักฐานที่หาได้ก็มีเพียงแค่สาส์นที่บาทหลวงเขียนบอกทางคริสตจักรไว้ ว่าเขาได้ละทิ้งพระเจ้าและปลดปล่อยตนเองจากศาสนาคริสต์แล้ว
นักบวชอีกสองคนอย่าง บาทหลวงโรดิเกซ (Andrew Garfield) และบาทหลวงการูเป้ (Adam Driver) ผู้เป็นศิษย์และมีศรัทธาในคริสตศาสนาสูงมาก ขึงขันที่จะอาสาเข้าไปยังดินแดนที่พวกเขาไม่รู้จักเพื่อตามหาบาทหลวงเฟอร์เรร่า โดยไม่รู้ว่าที่นั่นคือแดนอันตรายต่อผู้นับถือคริสต์ทุกนาม
รีวิวหนัง ‘Silence’
นี่คือผลงานการกำกับฯ ของชายเลื่องชื่อ Martin Scorsese กับหนังที่เคยสร้างมาเมื่อปี 1971 ใช้เค้าโครงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นบนประเทศหมู่เกาะอย่างญี่ปุ่นในช่วงคริสตศตวรรษที่ 17 ที่ชาวตะวันตกเข้าไปติดต่อค้าขายและแน่นอน เผยแผ่ศาสนาด้วย
เคร่งเครียดจริงจัง ว่าด้วยเรื่องศาสนาล้วนๆ
ตั้งแต่เริ่มเรื่อง หนังเรื่องนี้ก็บอกเล่าถึงการทำทารุณกรรมต่อผู้ยอมรับคริสตศาสนาเข้ามาในชีวิต และได้เห็นบาทหลวงเฟอร์เรร่าทรุดตัวคุกเข่าอย่างยอมจำนน ก่อนที่ภาพจะตัดมาที่ลูกศิษย์สองคนที่หวังจะไปตามหาอาจารย์ของตนให้เจอ ทั้งที่ไม่รู้สักนิดว่ากำลังจะได้พบกับอะไร
ในญี่ปุ่นนั้น ศาสนาพุทธได้ฝังรากลึกลงไปจนเต็มทั้งประเทศแล้ว การแทรกซึมของศาสนาคริสต์เพิ่งจะเริ่มมี เพราะพวกฝรั่งทางยุโรปเข้าไปนี่แหละ แต่ก็ดูเหมือนว่าระยะแรกจะเป็นไปได้ด้วยดี ก่อนที่ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปหมด
คนนับถือคริสต์กลายเป็นพวกนอกศาสนา และต้องกำราบชนิดแข็งกร้าว
ตลอดเวลาสองชั่วโมงสี่สิบเอ็ดนาที เต็มไปด้วยฉากที่รุนแรงมากน้อยต่างกันไป แต่ละฉากก็ล้วนทำให้สมองของคนดูได้คิดตามไปด้วยเสมอ ไม่ปล่อยเวลาให้เว้นว่างกันเลยทีเดียว ดำเนินเรื่องแบบจริงจัง บางฉากมีแต่บทสนทนาที่คมคาย คือปะทะกันทางความคิดที่ชวนให้รู้สึกว่า “มันช่างน่าสนใจ”
ไม่น่าเชื่อว่า ไม่พบอาการหาวง่วงระหว่างดูแต่อย่างใด
หนังไม่ชี้นำมากเกินไป ถึงจะว่ายุ่นแรงแต่ก็วิพากษ์คริสต์
ในระหว่างทางเดิน เราจะพบความรุนแรงที่เกิดขึ้นเสมอในด้านของฝ่ายญี่ปุ่น ในมุมนี้ เราจะรู้สึกได้ว่ามันช่างต่างกับไทยเหลือเกิน แม้ในอดีตเราก็ไม่อยากจะปรับเปลี่ยนตัวเองไปนับถือศาสนาที่แปลกออกไป แต่เราก็หัวอ่อนพอจะไม่ต่อต้านและกลายเป็นว่าทุกศาสนาสามารถกลมกลืนอยู่ในสังคมไทยเราได้หมด แต่สำหรับชาวญี่ปุ่น มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น
พวกเขาเลือกหนทางแรงๆ เพื่อจะคุมกำเนิดศาสนาอื่นในดินแดนของตน แม้ว่าประชากรบางส่วนเองก็หันมายอมรับนับถือศาสนาใหม่บ้างแล้วก็ตาม
ทว่าหนังเองก็ไม่ได้เอาแต่ใส่แง่มุมร้ายๆ ของญี่ปุ่น หากแต่ก็ยังวิพากษ์เข้าไปถึงเนื้อในของคริสต์เองเช่นกัน ทั้งยังมองว่า ไม่ว่าจะพุทธหรือคริสต์ก็ยังมีบางส่วนที่เหมือนกัน แต่เมื่อมันเป็นเรื่องของศาสนา ความเชื่อ ความศรัทธา อะไรที่ต่างกันนิดเดียวก็ถูกตั้งแง่รังเกียจกันได้ง่ายมาก แม้จะดูว่าหนังไม่ชี้นำ…
แต่ก็ยังรู้สึกมีบางช่วงที่หนังก็มีความเอนเอียงไปบ้างเหมือนกันนะ
ถ้าคุณได้เข้าไปชมด้วยตัวเอง ก็อาจจะเห็นได้ชัดขึ้นในช่วงท้ายๆ ของหนัง แต่ยอมรับได้เลยว่า สกอร์เซซีหยิบประเด็นที่ดูอ่อนไหวมาเขียนได้มีแง่มุมมาก ชักชวนคนดูให้ต้องคิดตามตลอดเรื่อง
แถมยังต้องชั่งน้ำหนักและฉุดรั้งใจตัวเองตลอดเวลาที่ชมอีกต่างหาก
หนังยาวมาก ประเด็นหนัก อาจไม่ใช่หนังสำหรับทุกคน
งานถ่ายภาพ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ ‘ศรัทธาไม่เงียบ’ การจัดวางในหลายช็อตค่อนข้างสวยงาม ส่วนเรื่องราวที่ดำเนินไปนั้น ภาพอาจจะไม่ถึงกับรุนแรง แต่สะท้อนความคิดที่แตกต่างของคนสองกลุ่ม ศาสนาสองศาสนา และนำไปสู่บทลงเอยที่เรียบง่าย แต่ชวนหดหู่
นักแสดงหลักทั้งสามต่างทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ Andrew Garfield ที่ได้เล่นทั้งเรื่อง เป็นตัวละครที่ต้องแบกรับทุกสิ่งที่เข้ามาและส่งผลต่อการตัดสินใจในช่วงท้าย
อาจมีบางจุดที่ทำให้รู้สึกแปลกๆ อยู่บ้างโดยเฉพาะกับคนที่ไม่ได้นับถือคริสต์
มันไม่ใช่หนังแนวแฟนตาซีที่บอกเล่าเรื่องราวที่เหนือธรรมชาติ หากบอกเล่าเรื่องราวของมนุษย์ที่ต้องต่อสู้กันทางความเชื่อ เมื่อชาวคริสต์ผู้ศรัทธาอย่างแรงกล้าเจอเหตุหนักหน่วงที่มาทดสอบแรงศรัทธา พวกเขาจะจัดการกับมันอย่างไร เป็นการตั้งคำถามถึงการมีอยู่ของพระเจ้า เสียงที่พวกเขาไม่เคยได้ยินยังมีอยู่จริงไหม “ความเงียบงัน” ที่พวกเขาจะสั่นคลอนศรัทธาในใจของพวกเขาหรือเปล่า
ถ้าคุณไม่ชอบหนังแนวศาสนา หนังดราม่าที่ต้องคิดตามไปด้วยตลอดเวลา หนังเรื่องนี้คงจะไม่เข้ากับแนวทางการเลือกหนังของคุณ แต่สำหรับผม ผมชอบมันมากกว่าหนังเชิงศาสนาหลายๆ เรื่องที่เคยได้ดู
หนังมันยาว ประเด็นมันหนัก แต่มันไม่ง่วงเลยจริงๆ
ชื่อภาพยนตร์: Silence / ศรัทธาไม่เงียบ
ผู้กำกับภาพยนตร์: Martin Scorsese
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Jay Cocks (screenplay), Martin Scorsese (screenplay)
นักแสดงนำ: Andrew Garfield, Adam Driver, Liam Neeson, Asano Tadanobu, Ciarán Hinds, Issei Ogata
ความยาว: 161 นาที
แนว/ประเภท: Adventure, Drama, History
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
เรท: ไทย/, MPAA/R
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 17 สิงหาคม 2560
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Cappa Defina Productions, CatchPlay, Emmett/Furla/Oasis Films (EFO Films), Mono Film
ศรัทธาไม่เงียบ
Silence - 9
9
Silence
หนังที่ว่าด้วยแง่มุมทางด้านศาสนา โดยเฉพาะการปะทะกันของพุทธและคริสต์ในดินแดนอาทิตย์อุทัย ผลงานของสกอร์เซซีที่ไม่เอนเอียงชักนำให้เข้าข้างฝ่ายใด หากแต่ผลักดันให้เพ่งมองเข้าไปในจิตใจตนเอง หนังค่อนข้างยาวแต่มีเรื่องราวที่ทรงพลัง หนังสร้างจากเรื่องจริงจึงอาจจะไม่ถึงกับสุดอย่างที่หลายคนอยากให้เป็น