ก้าวขึ้นสู่สัปดาห์ใหม่อีกครั้ง แต่คราวเป็นการก้าวเข้าสู่เดือนแห่ง Oscars อย่างแท้จริง แน่นอนว่าหนังที่เข้าชิงรางวัลยังคงแวะเวียนเข้ามาฉายในโรงหนังบ้านเราอย่างไม่ขาดสาย และนายแพทก็คงไม่พ้นต้องเดินทางเข้าโรงหนังไปพบกับประสบการณ์ผ่านหนังตัวเต็งทั้งหลายเพื่อเก็บมาเขียนเล่าสู่กันฟังอีกเช่นเคย และวันนี้ ผมขอเลือกหนังเรื่องนี้ ‘Room ขังใจไม่ยอมไกลกัน’
หนังเรื่องนี้ดูเป็นหนังฟอร์มเล็กๆ ที่อาจจะไม่มีนักแสดงชื่อดังมากมายมาร่วมงาน อาจจะไม่ได้มีผู้กำกับที่ใครๆ ก็รู้จักมาการันตี อาจจะไม่ได้อยู่ในความสนใจของใครๆ จนวันหนึ่ง มันกลายเป็นหนังรางวัลเมื่อ Brie Larson เธอคว้ารางวัลแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมลูกโลกทองคำ และยังได้เข้าชิงในสาขาเดียวกันบน BAFTA Awards, Screen Actors Guild Awards แถมยัง..
เป็นหนังดราม่าที่เข้าชิงอะคาเดมี่อะวอร์ดสปีนี้ 4 รางวัลด้วยกัน
เรื่องย่อหนัง ‘Room’
ตั้งแต่เจ้าหนูแจ็ค (Jacob Tremblay) ลืมตาขึ้นมาเห็นโลก โลกของเด็กน้อยก็มีเพียงห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ แต่มันเป็นดินแดนที่กว้างใหญ่สำหรับเขา แสงสว่างจะส่องเข้ามาได้จากเพียงสกายไลท์ช่องเดียวเท่านั้น โลกของเขามีแต่แม่ (Brie Larson) ที่อยู่กับเขาตลอดเวลา และมีตาแก่นิค (Sean Bridgers) อีกคนที่แม่ไม่เคยยอมให้ถูกตัวของเขา แต่แม่ก็มักจะถูกทำร้ายข่มเหงเรื่อยมา
แต่โลกของเขาก็กำลังจะเปลี่ยนไป ทุกสิ่งที่เคยรับรู้มาตั้งแต่ก่อนเขาจะอายุ 5 ขวบ กับเรื่องราวหลังจากนั้นมันช่างต่างกันโดยสิ้นเชิง มันมีแต่การปรับตัว การเรียนรู้ แต่สิ่งเขาจะไม่ขอยอมให้มันเปลี่ยน
นั่นคือ เขาจะขออยู่กับแม่ตลอดไป…
รีวิวหนัง ‘ขังใจไม่ยอมไกลกัน’
หลังหนังผ่านไปเพียงไม่ถึงสิบนาที รู้สึกได้เลยว่า หนังแน่มากที่เล่นเราเสียอยู่หมัดด้วยการแสดงของแม่กับลูกที่อยู่กันเพียงลำพังสองคนในห้องที่ไม่มีใครรู้ว่ามันคือที่ไหน เรียกว่าได้ความเข้าใจโลกของเรานั้นเท่าเด็กน้อย “แจ็ค”
การแสดงที่ยอดเยี่ยม
โดนใจเข้าอย่างจังด้วยพบว่าเคมีของสองแม่ลูกช่างเข้ากันได้ลงตัวอย่างมากมาย ดูแล้วเชื่อได้อย่างสนิทว่าทั้งสองคนคือแม่ลูกกันจริงๆ ทั้ง บรี ลาร์สัน และ จาค็อบ เทรมเบลย์ กับบทบาทที่ต้องใช้ชีวิตด้วยกันทั้งวันทั้งคืนตั้งแต่แจ็คเกิดมาจนกระทั่งอายุได้ 5 ขวบ โลกใบเล็กๆ ที่แสนใหญ่ในใจเด็กน้อยที่มีเพียงแม่ ข้าวของ กับจอทีวี
ทุกอย่างมันช่างลงตัวหมดจดจริงๆ
เมื่อเลยผ่านไปถึงอีกช่วงที่พวกเขาได้ออกมาข้างนอก ได้พบเห็นอีกด้านหนึ่ง โลกที่แจ็คไม่เคยได้รู้จัก ทุกอย่างคือสิ่งใหม่ในชีวิต จาค็อบ ก็ยังแสดงออกได้อย่างเป็นธรรมชาติ บรี ลาร์สัน ก็ยังรับส่งอารมณ์กับเด็กน้อยได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสวมบทบาทของคนเป็นแม่ที่เจ็บปวดรวดร้าวต่อสิ่งที่เจอ ณ โลกภายนอกได้อย่างเข้าถึง น่าเสียดายที่ออสการ์มองเห็นแต่บรี แต่ไม่ได้เล็งเห็นว่า
เจ้าหนูจาค็อบก็เยี่ยมยุทธพอจะมีชื่อเข้าชิงเช่นกัน
ห้องดูเล็กลงเมื่อเราโตขึ้น และเมื่อเรายิ่งโตขึ้น โลกก็ยิ่งกว้างออกไปทุกที
จะว่าไปแล้ว หนังเล็กๆ อย่าง ‘ขังใจไม่ยอมไกลกัน’ ก็สอดแทรกอะไรไว้มากมายชนิดที่ถ้าจะขบคิดกันจริงๆ ก็เจอประเด็นอยู่หลายจุดเหมือนกันนะครับ แต่ที่เห็นชัดๆ เลยก็คือ ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกที่ปูกันมาตั้งแต่ต้นและยาวไปยันจบ แถมยังเลือกที่จะค่อยๆ ให้ข้อมูลกับคนดูทีละน้อยๆ เสมือนดั่งว่าคนดูเองก็เป็นเช่น “แจ็ค” ที่ยังมองโลกด้วยจินตนาการอยู่ในวัยแรกเริ่ม
ชีวิตของเขาเหมือนอยู่ในกรงขัง ทว่าแจ็คไม่ได้รู้สึกว่าเขาถูกขังอยู่เลย นั่นคือโลกของเขาที่เขาจะจินตนาการไปได้ว่า มันคือดาวดวงหนึ่งที่มีทุกอย่างพร้อม (ทั้งๆ ที่จริงแล้วไม่มี) คิดว่าทุกอย่างมันจริง (ทั้งๆ ที่ข้างนอกต่างหากล่ะที่มัน “จริง”)
ก่อนที่หนูน้อยแจ็คจะออกมาเจอโลกที่กว้างใหญ่กว่า
แล้วเราก็ได้เรียนรู้ว่า สิ่งที่เคยคิดว่ามันใหญ่จริงๆ แล้วเล็กนิดเดียว เพราะเราเคยตัวเล็กจึงมองเห็นทุกสิ่งใหญ่ แต่พอวันนึงเราตัวสูงขึ้น ทุกสิ่งจึงดูเล็กลงผิดจากวันเก่าไปถนัดตา
เมื่อเราได้ออกมาข้างนอก เราได้เรียนรู้ “โลก” จริงๆ นั้นมันเป็นอย่างไร เหมือนกับเราที่ “โตแล้ว” จึงมองโลกต่างออกไป เข้าใจว่าโลกมันไม่ได้เล็กเหมือนอย่างที่เคยมอง มันมีอะไรอีกมากมายที่เราต้องเรียนรู้
และโลกมันก็ไม่เคยจะเล็กลงอีกเลย
การเล่าเรื่องที่ยอดเยี่ยม
นอกจากการแสดงที่ยอดเยี่ยมของทั้งคู่จนไม่อาจจะกลั้นเก็บน้ำตาไม่ให้เอ่อล้นได้แล้ว บทและการเล่าเรื่องยังนับว่าดีไม่น้อยอีกด้วย บทพูดของหนูน้อยแจ็คมีพลังทำลายล้างสูงมาก ไม่น่าเชื่อว่าตัวแค่นี้จะสามารถแสดงได้อินขนาดนี้ นอกเหนือไปจากความดราม่าน้ำตาคลอของ ‘ขังใจไม่ยอมไกลกัน’ บทที่น่ารักชวนยิ้มตามก็มีอยู่ไม่น้อยทีเดียว หนังเรื่องนี้จึงให้เราทั้งความอบอุ่นและความหดหู่หม่นเศร้าเคล้าไปในเรื่องเดียวกัน
จากจุดเริ่มต้นที่หนังเลือกจะให้เราเป็นแจ็คที่ไร้เดียงสารู้จักโลกเพียงน้อยนิด วันที่เราถูกให้ข้อมูลหลอกๆ ที่มันง่ายสำหรับเราที่จะเข้าใจมัน
มาถึงอีกวันที่เราได้ออกไปสู่โลกภายนอกทั้งๆ ที่ยังไม่เข้าใจอะไรมากนัก แต่ด้วยความรักที่มีต่อแม่ แจ็คจึงเชื่อฟังและเพราะเชื่อว่าแม่ไม่ได้โกหกเราเหมือนที่เคย จนในที่สุด เราก็ได้มาอยู่ในโลกใบเดิมที่เราไม่เคยรู้มาก่อนว่ามี ไม่ว่าเราจะต้องปรับตัวมากแค่ไหน
แต่คนที่เจ็บปวดกว่าคือ “แม่ของเรา”
เด็กมักมีอารมณ์อยู่ไม่กี่อย่าง แต่ผู้ใหญ่คือคนที่ผ่านอะไรมามากกว่า ปัญหาของผู้ใหญ่จึงซับซ้อนกว่าเด็ก แถมยังทับถมกันมาหลายสิบอย่าง บางครั้งมันก็เลยเหมือนกับว่า ความเป็นผู้ใหญ่ไม่ได้ช่วยให้เข้มแข็งมากพอที่จะก้าวข้ามพ้นบางสิ่งได้ง่ายๆ แต่กับเด็ก มันอาจง่ายกว่า
และครอบครัวนี่แหละที่น่าจะมีพลังพอที่จะพาทุกคนให้ก้าวข้ามพ้นไปด้วยกัน นั่นก็เพราะ….
“ไม่มีใครเข้มแข็งได้โดยลำพัง”
ชื่อภาพยนตร์: Room / ขังใจไม่ยอมไกลกัน
ผู้กำกับภาพยนตร์: Lenny Abrahamson
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Emma Donoghue (screenplay), Emma Donoghue (based on the novel by)
นักแสดงนำ: Brie Larson, Jacob Tremblay, Sean Bridgers, Wendy Crewson, Joan Allen, William H. Macy
ความยาว: 118 นาที
แนว/ประเภท: Drama
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
เรท: ไทย/, MPAA/R
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 4 กุมภาพันธ์ 2559
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: A24, Element Pictures, No Trace Camping
ขังใจไม่ยอมไกลกัน
Room - 9
9
Room
บรี ลาร์สัน และ จาค็อบ เทรมเบลย์ ให้การแสดงที่ดีเยี่ยมจนทุกคนอินกับสองแม่ลูก Room แทรกข้อคิดไว้มากมาย ประสานไปการเล่าเรื่องที่ยอดเยี่ยม ทำให้มันเป็นหนังแนะนำที่น่าดูอีกเรื่อง