รีวิว Pirates of the Caribbean Salazar’s Revenge | ไพเรทภาคห้า สงครามแค้นโจรสลัดไร้ชีพ

หลังห่างหายไป 6 ปี กัปตันแจ็ค สแปร์โรว์ หวนกลับคืนสู่หน้าจออีกครั้งกับมหากาพย์ผจญภัยเรือโจรสลัดในภาคใหม่ ‘Pirates of the Caribbean Salazar’s Revenge’ ภาคที่ห้าของหนังผจญภัยสายบันเทิงสบายๆ สไตล์กัปตันแจ็ค

ภาคนี้ Jerry Bruckheimer ยังคงนั่งแท่นควบคุมการผลิตเช่นเคย แต่เปลี่ยนผู้กำกับฯ เป็นสองคู่หู Joachim Rønning และ Espen Sandberg ที่เคยกำกับฯ หนังร่วมกันมาอย่าง ‘Max Manus (2008)’, ‘Bandidas (2006)’ และ ‘Kon-Tiki (2012)’ ที่หลายคนรู้จักดี นัยว่าดิสนีย์คงเห็นว่าสองคนนี้ทำหนังผจญภัยทางทะเลเอาไว้ได้ดี

เลยดึงมากำกับภาคใหม่ไพเรทเสียเลยว่างั้น!

เรื่องย่อหนัง ‘Pirates of the Caribbean Salazar’s Revenge’

หลังวิล เทอร์เนอร์ (Orlando Bloom) ถูกคำสาปต้องจมอยู่กับเรือนานชั่วกัลป์ ลูกชายของเขาที่เติบโตเป็นหนุ่มอย่างเฮนรี่ (Brenton Thwaites) ก็มุ่งมาดที่ถอนคำสาปให้ได้ เฮนรี่กลายเป็นเด็กหนุ่มผู้ที่ศึกษาค้นคว้าจนรอบรู้ทุกตำนานแห่งท้องทะเล เพื่อสืบเสาะหาหนทางเพื่อช่วยเหลือพ่อให้กลับมา

ขณะที่คารีน่า (Kaya Scodelario) สาวสวยผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด ทั้งที่เธอเก่งกาจด้านดาราศาสตร์เกินหน้ากว่าใครในยุค เธอก็กำลังตามหาบางสิ่งอยู่เช่นกัน

หนังเรื่องนี้จะขาด แจ็ค สแปร์โรว์ (Johnny Depp)​ ไปคงมิได้ กัปตันซาลาซาร์ (Javier Bardem) เขาคือชายผู้มีตำนานแค้นกับเหล่าผีที่ถูกคุมขังอยู่ ณ​ ที่ใดที่หนึ่งกลางทะเล และกำลังกลับมาชำระแค้นที่กัปตันแจ็คเคยทำกับพวกเขาเอาไว้

กัปตันแจ็คจะรอดพ้นเงื้อมมือเหล่าผีหรือไม่ และหนุ่มน้อยจะช่วยพ่อได้สำเร็จยังไง คงต้องไปพิสูจน์กันดู

รีวิวหนัง ‘สงครามแค้นโจรสลัดไร้ชีพ’

หลายคนว่ามหากาพย์ผจญภัยโจรสลัดเรื่องนี้มันออกทะเลไปไกลมากแล้ว บางคนเริ่มออกอาการบ่นหน่อยๆ กับภาคที่แล้ว แต่เท่าที่เห็นจากรอบสื่อ หลายคนน่ารู้สึกดีที่หนังแฟนตาซีโจรสลัดเรื่องนี้พร้อมจะกลับมาสานต่อความบันเทิงดังที่เคยมี…อีกคำรบ

ความสนุกสไตล์หนังโจรสลัดที่กลับมาอีกครั้ง

ความจริงมันเป็นหนังที่ไม่ต้องถือสาหาความอะไรมาก ก็มันเป็นหนังแฟนตาซี จะหยิบจะจับอะไรมาสร้างสรรค์เป็นพล็อตเรื่องราวก็ตามแต่จินตนาการของผู้เขียนบท จะเอาตำนานอะไรมาใส่เพื่อสร้างเป็นภาคใหม่ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น และภาคนี้ ‘สงครามแค้นโจรสลัดไร้ชีพ’ ก็คือหนึ่งความพยายาม….

ในการนำการผจญภัยแห่งท้องทะเลแคริบเบียนกลับมาโลดแล่นอีกครั้ง

ย้อนกลับไปในวัยที่แจ็ค สแปร์โรว์ ยังเป็นหนุ่มน้อยผู้ที่กลายเป็นตำนานโดยไม่ทันตั้งตัว เมื่อดันหาญกล้าไปสังหารเหล่าลูกเรือและกัปตันซาลาซาร์ของเรือลำหนึ่งเข้า พวกเขากลายเป็นผีที่ไม่อาจรู้วันผุดเกิด ได้แต่สั่งสมความแค้นต่อแจ็คไว้เรื่อยมา

นอกจากนี้ ก็ยังไปหยิบตำนานตรีศูลของโพไซดอนเข้ามาผสมโรง สร้างให้เกิดพล็อตที่เหล่าตัวแสดงหลักจะต้องร่วมมือกันเพื่อไปค้นหา ด้วยหวังจะให้แจ็คมีพลังอำนาจเหนือทุกสิ่งในน่านน้ำ ขณะเดียวกันก็ต้องหลบหลีกไม่เอาก็ต้องเอาชนะกัปตันซาลาซาร์ที่ตามล้างแค้นไม่ลดละไปพร้อมๆ กันด้วย

หนังมีช่วงสนุกและช่วงเนือย แต่เก็บเอาความป่วน​ฮาแบบเกรียนๆ ของ แจ็ค สแปร์โรว์ มาให้เราได้หัวเราะร่วนอีกครั้ง มีไดอะล็อกที่เล่นกับภาษา ใช้ถ้อยคำได้สร้างสรรค์และน่าสนใจ มีงานภาพของท้องทะเลและเรือที่สวยงามตื่นตา ใส่แง่มุมดราม่าชวนน้ำตาไหล มีเซอร์ไพรซ์ตัวละครที่แทบจะกลายเป็นแฟนเซอร์วิสสำหรับคนที่ติดตามมาตั้งแต่ภาคแรก มันเป็นหนังที่ไม่ต้องคิดถึงความสมจริง

เอาแค่ความรู้สึกสนุกร่วมไปกับหนังนั่นก็น่าจะเพียงพอแล้ว

สแปร์โรว์กวนเกรียนเช่นเคย พระนางดูแล้วมีเสน่ห์

บางฉากในภาคนี้นี่น่าจะพอเอาไปเทียบเคียงกับความสนุกที่ได้จากภาคแรกเลยทีเดียว ถ้ายังจำฉากที่แจ็คต่อสู้ในป่า มีระหัดวิดน้ำ​ (หรืออะไรสักอย่างเทือกๆ นั้นน่ะแหละ) กลิ้งหลุนๆ นั้นได้ มันคือฉากที่บันเทิงสุดๆ แล้ว และมันทำให้ภาคแรกค่อนข้างกลมกล่อมและสนุกมาก ในภาคนี้ก็เช่นกันที่เราจะได้ร่วมลุ้นพร้อมๆ กับฮากลิ้งไปด้วย

‘สงครามแค้นโจรสลัดไร้ชีพ’ อาจจะมีภาพบางส่วนที่ไม่เนียนตามากนัก แต่ถ้าเลือกดูฉากเทคนิคพิเศษที่เป็นท้องทะเลแหวกสีฟ้า มันดูอลังการและสวยงามพอดู ผสานกับภาพที่เป็น 3 มิติถือว่าออกมาค่อนข้างน่าพอใจกับงบสร้างที่ถูกลดทอนลงไป

ขณะที่พระนางคู่นี้ก็ค่อนข้างจะลงตัว แม้ฝ่ายพระอย่าง Brenton Thwaites อาจไม่ถึงกับเล่นได้โดดเด่น แต่ด้วยหน้าตาหล่อเหล่าอย่างกับณเดชน์ก็ชวนให้สาวๆ หลงใหลได้ปลื้มไม่เบาเลยเชียว

ขณะที่นางเอกคนใหม่อย่าง Kaya Scodelario เธอต้องโชว์เนินอกอึ๋มชวนชายน้ำลายหก แต่ดูรวมๆ แล้วเธอมีเสน่ห์และเข้ากันได้ดีกับพระเอก

ชอบเซอร์ไพรซ์คนดู และมีฉากแถมหลังเครดิต

หนังภาคนี้มีแง่มุมเล็กๆ น้อยๆ ให้คอยเก็บเกี่ยวตามรายทาง สิ่งหนึ่งที่ผมจะรู้สึกได้ก็อย่างเช่น กัปตันแจ็คแม้จะมีความเป็นโจรสลัด แต่ก็ดูเหมือนจะมีกฏที่ผูกมัดตัวไว้ ดูได้จากกล่องเข็มทิศที่เขาต้องพกติดตัวตลอดเวลาและถูกสั่งไว้ไม่ให้ทรยศต่อมัน ตัวละครอย่าง คารีน่า ดูเป็นพวกเชื่อวิทยาศาสตร์ จึงมีความย้อนแย้งเมื่อต้องมาพบว่าเรื่องผีและคำสาปมันกลายเป็นเรื่องจริง

นอกจากนี้ หนังยังมีเซอร์ไพรซ์ให้คนที่ติดตามมหากาพย์โจรสลัดได้ร้องว้าวกันมากกว่าหนึ่งหน ต้องชมคนเขียนบทที่พยายามจะผสานเรื่องราวในภาคเก่าๆ เข้ากับภาคนี้ได้อย่างดี

สิ่งที่หลายคนไม่รู้และอาจพลาดฉากเด็ดไปก็คือ หลังจากหนังจบลง ขอให้นั่งอยู่ตรงนั้นก่อน อ่านรายชื่อของทีมงานที่แสนยืดยาวนั้นไปพลางๆ เพื่อจะได้พบกับฉากแถมที่อยู่หลังจากนั้น เป็นฉากเดียวที่เชื่อว่าชมแล้ว

จะรู้สึกได้ว่าดีแล้วที่ไม่พลาด!

ชื่อภาพยนตร์: Pirates of the Caribbean: Salazar’s Revenge / Pirates of the Caribbean: Dead Men Tell No Tales / สงครามแค้นโจรสลัดไร้ชีพ
ผู้กำกับภาพยนตร์: Joachim Rønning, Espen Sandberg
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Jeff Nathanson (screenplay), Jeff Nathanson (story by)
นักแสดงนำ: Johnny Depp, Geoffrey Rush, Javier Bardem, Brenton Thwaites, Kaya Scodelario, Kevin McNally, Orlando Bloom
ดนตรีประกอบ: Geoff Zanelli
ความยาว: 129 นาที
แนว/ประเภท: Action, Adventure, Fantasy
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
เรท: ไทย/, MPAA/PG-13
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 24 พฤษภาคม 2560
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Walt Disney Pictures, Jerry Bruckheimer Films, Infinitum Nihil