หนังบางเรื่องพาเราย้อนเวลากลับไปสู่วันเก่าๆ ด้วยการเล่าเรื่องที่มีพื้นหลังเป็นเหตุการณ์จริงๆ ในวันเก่า บ้านเมืองเก่าๆ แต่บางเรื่องก็รวมมันเข้ากับหนังอีกแนว จนได้ส่วนผสมใหม่ๆ อย่างเช่นเรื่องนี้ ‘Overlord‘ หรือชื่อไทย ‘ปฏิบัติการโอเวอร์ลอร์ด’ ที่เป็นทั้งหนังสงครามโลกครั้งที่สองและมีความเป็นหนังซอมบี้
เรื่องราวที่เกิดมาจากการเขียนบทของสองคน Billy Ray และ Mark L. Smith ผ่านสู่ฝีมือการกำกับของ Julius Avery (จาก Son of a Gun)
สงครามกับการทดลองมนุษย์จึงได้ถือกำเนิดขึ้น
เรื่องย่อหนัง ‘Overlord’
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ทหารบางกลุ่มได้รับคำสั่งให้บินและโดดร่มลงไปเพื่อปฏิบัติภารกิจ ในนั้น มีบางคนที่ได้รับบทบาทเด่น ไม่ว่าจะเป็น จ่าฟอร์ด (Wyatt Russell) และบอยซ์ (Jovan Adepo) หนุ่มผิวสีที่ไม่ได้อยากจะเป็นเล้ยย ทหงทหารอะไรเนี่ย
แต่เหมือนสถานการณ์จะสร้างวีรบุรุษ
การโดดร่มลงไปในเมืองๆ หนึ่งแถบฝรั่งเศส ด้วยคำสั่งที่สำคัญอย่างการวางระเบิดหอวิทยุสื่อสารของฝ่ายศัตรู แต่พวกเขากลับต้องเผชิญหน้ากับนาซีที่ใช้พลังเหนือธรรมชาติและพัวพันกับการทดลองที่น่ากลัว การทดลองที่สร้างมนุษย์ให้กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาอย่างมาพละกำลังเหนือมนุษย์ ที่พวกเขาอาจไม่ใช่ทำภารกิจไม่สำเร็จ
แต่อาจไม่มีชีวิตรอดกลับบ้านเอาเสียด้วย
รีวิวหนัง ‘ปฏิบัติการโอเวอร์ลอร์ด’
ถือเป็นหนังอีกเรื่องที่ตัวแทนของความพยายามในการผสมผสานเพื่อสร้างสรรค์หนังในทางใหม่ๆ ในเมื่อโลกมีหนังซอมบี้ที่เกิดจากเทคโนโลยีทางการแพทย์แล้ว ก็น่าจะต้องมีหนังซอมบี้ที่เกิดขึ้นจากการทดลองลับๆ ของเหล่าทหารนาซีกันบ้าง
จะว่าไป การทดลองอันนี้ ก็ไม่เชิงว่าจะสร้างซอมบี้ขึ้นมาอย่างชัดแจ้ง หนังทั้งเรื่องไม่ได้มีส่วนไหนที่พูดถึงคำว่า “ซอมบี้” เลยสักนิดเดียว แต่ถ้าดูจากคอนเซปต์ของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ มันก็มีความใช่อยู่เหมือนกันนะ
ทั้งหมดทั้งมวลมันอยู่ในหนังสงคราม…
หนังหยิบจับช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ที่ฝ่ายสัมพันธมิตรร่วมกันต่อสู้เพื่อเอาชนะพวกนาซี ทว่าเหตุการณ์ในหนังจะเกิดขึ้นในเขตแดนฝรั่งเศส เมื่อพวกทหารต้องโดดร่มอย่างโคตรเสี่ยงตายเพื่อปฏิบัติภารกิจสำคัญที่จะทำให้เกิดชัยชนะ แต่พวกเขากลับต้องพบเซอร์ไพรส์ เมื่อรู้ว่ามีการทดลองมนุษย์อย่างลับๆ เกิดขึ้น
ผสมๆ เข้ากับการที่พวกเขาได้พบเจอหญิงสาวที่อาศัยอยู่ในแถบนั้น
ซึ่งแว้บแรกที่เห็น ได้แต่อุทานในใจว่า “สวยว่ะ” ในหนัง เธอชื่อโคลอี้ (Mathilde Ollivier) เป็นชาวบ้านธรรมดาที่เกลียดพวกเยอรมันเอามากๆ เธอกลายเป็นตัวละครสำคัญที่ทำให้เหตุการณ์ต่างๆ ขับเคลื่อนไป
เรื่องราวที่ดูเข้าใจได้ง่าย มุ่งเน้นความระทึกและความเลือดสาดเป็นหลัก
เสียงเพลงประกอบที่ค่อนข้างเล่นใหญ่ ช่วยสร้างอารมณ์ได้ค่อนข้างดี ยิ่งสัมผัสบรรยากาศในระบบ IMAX ยิ่งทำให้รู้สึกได้ว่าเสียงมันอึกทึกมาก เสียงตูมตามของระเบิด เสียงยิงปืนกันสนั่น ไม่น่าเชื่อว่าบางช่วงบางตอนของหนัง ทำให้นึกไปว่า นี่มันทางของหนังกำเนิดวายร้ายในซูเปอร์ฮีโร่เรื่องใดสักเรื่องหรือเปล่า
แม้จะมีบางช่วงที่ดนตรีประกอบดูจะเล่นใหญ่ไปกว่าภาพ แต่การดำเนินเรื่องก็ค่อนข้างกระชับไม่เยิ่นเย้อ บางช่วงอาจจะดูกระโดดๆ ไปบ้าง ขณะที่เรื่องราวก็มีบางส่วนที่ดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือ
แถมยังมีตัวละครน่ารำคาญประกอบอยู่ด้วยอีก
แต่ทั้งหมด ต่างก็เป็นตัวละครที่มีซีนของตัวเอง มีช่วงเวลาที่พวกเขาเหมาะสมจะอยู่ในนั้น เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ควรต้องมีอยู่ในหนัง ‘ปฏิบัติการโอเวอร์ลอร์ด’ กลายเป็นภาพยนตร์ที่น่าจะดูสนุก หวาดเสียว วี้ดวาย เสียอาการได้มากสำหรับคนที่ตื่นกลัวอะไรพวกนี้
แต่ความที่หนังยังดูมีความขาดๆ เกินๆ อยู่บ้างในบางจุด ความสมเหตุสมผลที่สร้างความน่าเชื่อให้เกิดในใจของผมยังมีไม่สูงนัก ทำให้มันยังเป็นหนังที่ชวนบันเทิงได้อยู่พอประมาณ เดาทางได้ง่ายจนแทบจะไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์ในช่วงท้ายๆ เลย
ความเท่ของหนังคือช่วง 10 นาทีแรกที่ทำเอาหนังสงครามบางเรื่องต้องหันมามอง
ชื่อภาพยนตร์: Overlord / ปฏิบัติการโอเวอร์ลอร์ด
ผู้กำกับภาพยนตร์: Julius Avery
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Billy Ray, Mark L. Smith
นักแสดงนำ: Jovan Adepo, Wyatt Russell, Mathilde Ollivier, Pilou Asbæk, John Magaro, Dominic Applewhite
ความยาว: 109 นาที
ปี: 2018
แนว/ประเภท: Action , Horror , Mystery, Sci-Fi, Thriller, War
อัตราส่วนภาพ: 2.39 : 1
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
เรท: ไทย/, MPAA/R
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 8 พฤศจิกายน 2561
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Bad Robot, Paramount Pictures
คะแนนรีวิวหนัง ปฏิบัติการโอเวอร์ลอร์ด
Overlord - 7
7
Overlord
ปฏิบัติการโอเวอร์ลอร์ด เป็นหนังลูกผสมกึ่งหนังสงคราม กึ่งหนังซอมบี้ Overlord เล่าเรื่องส่วนของสงครามได้ดุดันดี ขณะที่เรื่องของการทดลองมนุษย์ดูจะไม่ทรงพลังนัก