ภาพยนตร์

รีวิวหนัง Oppenheimer | ระเบิดให้สนั่นโรง เพื่อหยุดสงคราม

รอคอยกันมานานหลายเดือนเลยสินะ กับการจะได้ชมผลงานชิ้นใหม่จาก คริสโตเฟอร์ โนแลน ที่ครั้งนี้ ฉีกแนวจากที่เคยๆ หันมาหยิบหนังสือที่เล่าเรื่องจริงของชายผู้พลิกประวัติศาสตร์ แถมยังเป็นหนังที่เล่าถึงการคิดค้นและสร้างระเบิดนิวเคลียร์อย่าง ‘Oppenheimer’ อีกต่างหาก จะไม่ให้คอหนังตั้งตารอชมยังไงไหวเล่า

Robert Downey Jr. ในหนังเรื่อง Oppenheimer
Robert Downey Jr. ในหนังเรื่อง ‘ออพเพนไฮเมอร์’
source: UIP Thailand

หนังแนวชีวประวัติเรื่องแรกของผู้กำกับระดับเสด็จพ่อเรื่องนี้เป็นหนังที่ได้รับเรท R เรื่องแรกในรอบทศวรรษของเขา ทั้งยังมีความยาวถึง 3 ชั่วโมงเต็มๆ เท่านั้นยังไม่พอ มันยังเป็นหนังเรื่องแรกที่ถ่ายทำด้วยฟิล์ม IMAX ขาวดำที่ต้องสร้างขึ้นมาเพื่อใช้กับหนังเรื่องนี้โดยเฉพาะ ทำให้หนังของเขาเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะได้ฉายในโรง IMAX แบบยืนโรงหลายสัปดาห์ ที่วันนี้ ผู้ชมชาวไทยจะได้สัมผัสอีกรสชาติหนึ่งจากโนแลนคนนี้

กับหนังชีวประวัติของนักวิทยาศาสตร์ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับสงคราม


เรื่องย่อหนัง ‘Oppenheimer’

ในห้วงเวลาที่โลกอยู่ในท่ามกลางภัยสงครามโลกครั้งที่ 2 การช่วงชิงชัยชนะของชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา พาให้นักวิทยาศาสตร์ผู้ปราดเปรื่องอย่าง เจ โรเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์ (Cillian Murphy จากหนังเรื่อง ‘Inception’ และซีรีส์ดังเรื่อง ‘Peaky Blinders’) เข้ามามีส่วนร่วมสำคัญอย่างไม่ทันตั้งเนื้อตั้งตัว เขาคือคนอเมริกันที่สนใจศึกษาค้นหาเรื่องควอนตัมฟิสิกส์อย่างจริงจัง หลังวนเวียนในยุโรปมาหลายปี สุดท้าย เขาก็กลับแผ่นดินอเมริกา ก่อนที่เขาจะพบเจอกับ ลูอิส สตรอส์ (Robert Downey Jr. จากหนังเรื่อง ‘Iron Man’ และ ‘Sherlock Holmes: A Game of Shadows’) ประธาน Atomic Energy Commission

ตัวอย่างหนัง ‘Oppenheimer’ ตัวที่สอง [ซับไทย]

สงครามที่ยังคงปะทุอย่างต่อเนื่อง ความจำเป็นที่จะต้องสร้างสิ่งที่จะมาหยุดยั้งสงคราม แอพเพนไฮเมอร์เสนอให้สร้างเมืองใหม่ท่ามกลางพื้นที่อันว่างเปล่ารกร้างของชนพื้นเมือง และระดมนักวิทยาศาสตร์เข้าไปอยู่ที่นั่นพร้อมกับครอบครัว ทำการทดลองคิดค้นสร้างระเบิดนิวเคลียร์ขึ้นมา ที่กลายเป็นคำถามที่ว่า พวกเขากำลังจะสร้างที่เป็นประวัติศาสตร์ของโลก หรือจะเป็นเหตุแห่งการที่โลกถูกทำลาย?


รีวิวหนัง ‘ออพเพนไฮเมอร์’

ก่อนเข้าไปชม ก็อาจครุ่นคิดว่า นี่คงจะเป็นหนังที่ดูง่ายที่สุดของ คริสโตเฟอร์ โนแลน ด้วยเพราะมันเป็นหนังชีวประวัติ หนังที่เล่าจากเรื่องจริง เมื่อถึงเวลาที่เข้าไปชมจริงๆ ก็พบว่า แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่ก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะหนังมีตัวละครมากหน้าแวะเวียนเข้ามาไม่ขาด ทั้งยังฟาดฟันกันด้วยไดอะล็อกที่มากมาย เล่าเรื่องสลับสีสลับไทม์ไลน์ แต่กระนั้น หนังก็ไม่ได้ยากเกินกว่าจะทำความเข้าใจในสิ่งที่ผู้กำกับต้องการจะสื่อสาร

มันเป็นหนังที่ไดอะล็อกเยอะมาก เหมือนการระดมข้อมูลมากมายใส่คนดู เพื่อจะได้แสดงความคิดเห็นที่หลากหลายด้านเกี่ยวกับมนุษย์และสงครามไว้ให้ได้มากที่สุด ไล่เริ่มตั้งแต่ชีวิตของตัวเอกนักฟิสิกส์อัจฉริยะสมัยที่ยังอยู่ในยุโรป ที่ทำให้เราได้รู้จักกับตัวตนอันซับซ้อนและภูมิหลังของเขา ก่อนที่เจ้าตัวจะตัดสินใจเดินทางกลับสู่อเมริกา ก่อนที่เขาจะกลายเป็นตัวจักรสำคัญในการสร้างระเบิดนิวเคลียร์บนพื้นที่รกร้างเพื่อหวังหยุดยั้งสงคราม และก่อนที่เขาจะถูกตรวจสอบและไล่ต้อนจากคนชาติเดียวกัน

ภาพจากหนังเรื่อง Oppenheimer
ภาพจากหนังเรื่อง ‘Oppenheimer’
source: UIP Thailand

คงบอกได้เลยว่า โนแลนใช้ 3 ชั่วโมงไปอย่างคุ้มค่า อัดแน่นทุกองค์ประกอบ เขาไม่ได้เล่าหนังชีวประวัติในแบบที่ใครๆ ก็ทำกัน และไม่ได้เล่าเรื่องการสร้างระเบิด แถมยังทำให้การสร้างระเบิดเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งของเรื่องราวเท่านั้น มีความแมสเสจซ้อนแมสเสจ เล่าทั้งความซับซ้อนทางอารมณ์และความคิดของออพเพนไฮเมอร์ เชื่อมโยงตำนานเทพ เล่าถึงแนวความคิดเรื่องสงคราม เล่าถึงวิสัยทัศน์ด้านการเมือง และเล่าไปถึงวิธีที่รัฐกระทำต่อคนสำคัญเมื่อเขาหมดประโยชน์ ซึ่งอย่างหลังนี่กลายเป็นอย่างที่โดนใจเอามากๆ

นัยว่า หนังเหมือนจะทำให้คนดูตัวอย่างคิดไปว่าจะได้มาดูการคิดค้นอะตอมมิกบอมบ์ที่สร้างขึ้นเพื่อจบสงคราม แต่ทว่ามันไม่ได้มีสงครามเดียวให้จบนี่ดิ

พวกเขาไม่กลัวจนกว่าจะเข้าใจ พวกเขาไม่เข้าใจจนกว่าจะได้ทดลองใช้มัน

ในด้านงานสร้าง ชื่นชอบโนแลนที่เลือกใช้กล้อง IMAX ในการถ่ายทำเพื่อให้ได้มุมมองและสัดส่วนภาพที่เต็มอิ่ม การโคลสอัพหน้าของตัวละครเพื่อให้ผู้ชมได้มองเห็นสีหน้าแววตาของตัวละครได้อย่างชัดแจ้ง งานจำลองระเบิดนิวเคลียร์โดยไม่ใช้ CG ใช้ประโยชน์จากระบบเสียงสุดกระหึ่ม เมื่อใดที่ระเบิดดังขึ้น ผู้ชมทั้งโรงจะรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากเก้าอี้ที่ตัวเองนั่งอยู่ ทำให้เหมาะสมอย่างที่สุดในเสพประสบการณ์หนังเรื่องนี้บนจอใหญ่อย่าง IMAX

โปสเตอร์เวอร์ชันไทยของหนังเรื่อง Oppenheimer
โปสเตอร์เวอร์ชันไทยของหนังเรื่อง ‘Oppenheimer’
source: UIP Thailand

ขณะที่ในด้านนักแสดง การเลือกเอาตัว คิลเลียน เมอร์ฟี่ มารับบทเป็น ออพเพนไฮเมอร์ นักวิทยาศาสตร์ผู้ปราดเปรื่อง เขาคือคนที่ตอบโจทย์ เพราะเขาแสดงให้เห็นถึงอารมณ์อันซับซ้อนของตัวละครตัวนี้ได้อย่างดี สีหน้าแววตาที่บ่งบอกถึงความรู้สึกลึกๆ ข้างใน เช่นเดียวกับการพา โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ มารับบทเป็น ลูอิส สตรอส์ ผู้ที่เป็นทั้งเจ้านายและคู่แข่งขันในศาลของออพเพนไฮเมอร์ เขาคืออีกคนที่แสดงได้อย่างโดดเด่นจนมองว่าน่าจะได้เข้าชิงออสการ์อีกรอบ

หนังทั้งเรื่องเต็มไปด้วยนักแสดงระดับต้นๆ ของวงการ มาที่ร่วมงานกันอย่างคับคั่ง ไม่ว่าพวกเขาจะมีบทมากน้อยแค่ไหน จะรับค่าตัวหรือไม่เท่าไหร่ แต่เชื่อว่า นาทีนี้ ขอแค่ได้มีบทของตนอยู่ในสักซีนของหนังจากผู้กำกับชื่อ คริสโตเฟอร์ โนแลน ก็เป็นความภาคภูมิใจและเกียรติประวัติในชีวิตยิ่งแล้ว

Taglines:
The World Forever Changes

ภาพจากหนังเรื่อง Oppenheimer
ภาพจากหนังเรื่อง ‘Oppenheimer’
source: UIP Thailand

ใดๆ ที่ยิ่งกว่านั้น ต้องชื่นชมโนแลนที่สร้างเรื่องนี้ขึ้นมาในช่วงเวลานี้ ที่โลกกำลังหวั่นหวาดกลัวกับภัยนิวเคลียร์ เพราะหนังกำลังใช้พลังของตนเองเพื่อส่งสาส์นสำคัญถึงชาวโลกต่อการสร้างและสะสมอาวุธนิวเคลียร์ในโลกปัจจุบันด้วย


รวมรีวิวหนังที่กำกับโดย คริสโตเฟอร์ โนแลน


รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง

ชื่อภาพยนตร์Oppenheimer / ออพเพนไฮเมอร์
กำกับChristopher Nolan
เขียนบทChristopher Nolan
แสดงนำCillian Murphy, Emily Blunt, Matt Damon, Robert Downey Jr., Alden Ehrenreich, Scott Grimes, Jason Clarke, Kenneth Branagh, Florence Pugh, Josh Hartnett
แนว/ประเภทชีวประวัติ, ดราม่า, ประวัติศาสตร์
เรทR
ความยาว180 นาที
ปี2023
สัญชาติสหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา
เข้าฉายในไทย20 กรกฎาคม 2023
ผลิต/จัดจำหน่ายUniversal Pictures, Atlas Entertainment,​ Gadget Films, Syncopy, United International Pictures (UIP)

คะแนนหนัง ออพเพนไฮเมอร์

พล็อตและบท - 8.8
การแสดง - 9.2
การดำเนินเรื่อง - 8.5
เพลงและดนตรีประกอบ - 8.5
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชัน - 9.5

8.9

Oppenheimer

ก่อนเข้าไปชม ก็อาจครุ่นคิดว่า นี่คงจะเป็นหนังที่ดูง่ายที่สุดของ คริสโตเฟอร์ โนแลน ด้วยเพราะมันเป็นหนังชีวประวัติ หนังที่เล่าจากเรื่องจริง เมื่อถึงเวลาที่เข้าไปชมจริงๆ ก็พบว่า แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่ก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะหนังมีตัวละครมากหน้าแวะเวียนเข้ามาไม่ขาด ทั้งยังฟาดฟันกันด้วยไดอะล็อกที่มากมาย เล่าเรื่องสลับสีสลับไทม์ไลน์ แต่กระนั้น หนังก็ไม่ได้ยากเกินกว่าจะทำความเข้าใจในสิ่งที่ผู้กำกับต้องการจะสื่อสาร

User Rating: 4.65 ( 1 votes)

PatSonic

บล็อกเกอร์ผู้ชอบดูหนังหลากแนว ฟังเพลงหลายสไตล์ มีเวลาว่างก็จะออกไปท่องเที่ยว บางเวลาก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หยิบซีรีส์ขึ้นมาดู แล้วก็จะหยิบมาเขียนให้ทุกคนได้อ่านกัน
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save

Adblock Detected

เนื่องจากบล็อกนี้อยู่ได้ด้วยความเอื้อเฟื้อผู้เยี่ยมชม รบกวนไม่ใช้ Ad Blocker เพื่อการเยี่ยมชมที่สมูธครับ