ผลงานใหม่จากผู้กำกับเลื่องชื่อ ก้องเกียรติ โขมศิริ กำลังจะเข้าฉายให้คนไทยได้ดูกัน ‘ช.พ.๑ สมรภูมิคืนชีพ’ ซึ่งมีชื่ออังกฤษว่า ‘Operation Undead’ ที่เล่าเรื่องของเหล่ายุวชนทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่แหวกแนวมาทางหนังซอมบี้ ที่มีทั้งสยองขวัญ แอคชั่น และดราม่า
ความเห็นส่วนตัวของนายแพท
หนังไทยที่เซ็ตเรื่องเป็นชุมพรในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง มีตัวร้ายเป็นญี่ปุ่นที่นอกจากยกพลขึ้นบก ยังพอมนุษย์ทดลองมาด้วย เมื่อมันหลุดออกมา ชาวบ้านก็กลายเป็นกลุ่มทดลองของพวกมัน พล็อตมีความแหวกแนว สร้างให้หนังยุวชนทหารกลายเป็นหนังซอมบี้ ที่ตัวละครซอมบี้ต้องเล่นบทดราม่า ทำให้ความโหดจัดเต็มได้ แต่ความดราม่ากลับไปไม่ถึง
ไอเดียของหนังแสดงความกล้าจะสรรหามุมมองแปลกใหม่ แต่หลายครั้ง ก็ยังผสมผสานแต่ละองค์ประกอบได้ไม่ลงตัว เหมือนหนังมีหลายอย่างอยากเล่า ดีเทลเลยเยอะจนเล่าได้ไม่อย่างใจ เมกอัพซอมบี้ดี มีฉากโหดแบบจัดเต็ม แต่เหมือนเล่าได้ไม่คมเท่างานภาพ
เรื่องย่อหนัง ‘ช.พ.๑ สมรภูมิคืนชีพ’
ในปี พ.ศ. 2484 ที่ทั่วโลกและในไทยยังระส่ำระสายไปด้วยไฟของสงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วงเวลานั้น กองทัพญี่ปุ่นก็ยกพลขึ้นบกหลายจังหวัดในประเทศ รวมทั้งที่ชุมพร เมฆ (นนกุล – ชานน สันตินธรกุล จากหนัง ‘บุพเพสันนิวาส 2’) นายสิบใหม่ผู้ที่กำลังมีครอบครัว ภรรยาสุดที่รักเพิ่งบอกข่าวดีว่ากำลังตั้งครรภ์ และหมอก (อัด – อวัช รัตนปิณฑะ จากซีรีส์ ‘ดอกเตอร์ไคลแมกซ์ ปุจฉาพาเสียว’) น้องชายประจำหน่วยยุวชนทหาร ช.พ.๑ ที่ไม่ได้ต้องการเป็นทหาร
แต่ทั้งพี่และน้องต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามลึกลับที่มาพร้อมกับเหล่าทหารญี่ปุ่น
“บางสิ่ง” ที่พวกเขาขนมาด้วยนั้นได้หลุดออกมาและกลายเป็นภัยร้าย เมื่อมันได้เปลี่ยนยุวชนทหารให้กลายเป็นซอมบี้ที่คุกคามคนทั้งหมู่บ้าน ทั้งหมอกและเพื่อนยุวชนกำลังเจอสิ่งที่โหดร้ายยิ่งกว่าภัยสงคราม และต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงอย่างไร้ที่พึ่ง แม้ไทยและญี่ปุ่นประกาศหยุดยิง แต่เมฆได้รับภารกิจลับพิเศษให้เก็บกวาดพื้นที่ร่วมกับหน่วยรบญี่ปุ่น โดยไม่รู้ว่านั่นอาจรวมถึงน้องชายของตน
รีวิวหนัง ‘ช.พ.๑ สมรภูมิคืนชีพ’
ไอเดียยุวชนทหารในสงครามโลกถูกหยิบจับมาบอกเล่าในหนังด้วยกลิ่นใหม่ กลิ่นของหนังซอมบี้ที่คละคลุ้งไปพร้อมกับความดราม่า หนังเริ่มต้นไว้อย่างน่าสนใจ เมื่อบอกให้เราได้รู้จักกับคู่พี่น้องที่คิดเห็นไม่ตรงกัน เมฆ พี่ชายที่ได้เป็นนายสิบ ที่มองว่าการรักชาติคือการเป็นทหาร แต่ขณะที่กำลังได้รับข่าวอันชวนปิติว่า เมียรักกำลังตั้งครรภ์ ข่าวญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกก็กำลังหันเหหัวใจเขาไปอีกทาง
ด้านหมอก น้องชายที่ไม่ได้ต้องการเป็นทหาร ไม่ต้องการร่วมรบ และอยากจะอยู่กันพร้อมหน้าที่บ้าน เขากำลังจะหนีทัพอยู่แล้ว แต่ด้วยคำพูดของพี่ชายทำให้เขาเลือกเปลี่ยนใจ ทว่าก็กลับพบว่าตัวเองต้องกลายเป็นสิ่งอื่น ต้นเหตุจากบางสิ่งที่กองทัพญี่ปุ่นได้นำมา ทหารญี่ปุ่นบ้าคลั่ง ที่เป็นเหมือนอาวุธสงคราม อาวุธทดลอง หรือเรียกอีกอย่างว่า “ซอมบี้”
ทั้งคู่อยู่ในครอบครัวที่ขาดวิ่น เมื่อเหลือแม่เพียงคนเดียว หลังสูญเสียพ่อไปในฐานะ “กบฏ”
เป็นหนังไทยที่ทำให้เรามองเห็นถึงความพยายามจะบอกเล่าในหนทางใหม่ๆ หยิบบริบทของสงครามมาใช้เล่าเรื่องสยองขวัญผสานดราม่าครอบครัว บอกเล่าถึงความเลวร้ายของกองทัพญี่ปุ่นที่ต้องใช้ไทยเป็นทางผ่านเพื่อก้าวเข้าไปยังอินเดียและจีน แต่ดันเอาสิ่งเลวร้ายเข้ามาและพลาดทำหลุดระหว่างทาง ทำให้คนไทยต้องรับเคราะห์กรรม อีกมุมหนึ่ง หนังมันพูดถึงความเลวร้ายของสงคราม ส่วนหนึ่งมันทำให้เยาวชนต้องกลายไปเป็นทหาร ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม อีกส่วน มันทำให้ครอบครัวต้องแหลกสลาย และทำให้ผู้คนต้องเจ็บปวดไปกับความเลวร้ายที่กองทหารญี่ปุ่นนำเข้ามา
อันที่จริง ไอเดียการทดลองกับมนุษย์ถูกนำมาใช้สร้างพล็อตเพื่อนำเสนอความโหดร้ายในอีกรูปแบบนั้น เคยถูกนำมาใช้ในซีรีส์บางเรื่อง อย่างล่าสุดที่เราได้เจอไปใน ‘สัตว์สยองกยองซอง’ แต่ครั้งนี้ เราได้เห็นในหนังไทยที่เล่าเรื่องสงครามโดยมีญี่ปุ่นเป็นตัวร้าย…อีกครั้ง
บทหนังพาให้ได้เห็นบาดแผลที่ผู้คนได้รับจากสงคราม เมื่อบางตัวละครต้องมารับหน้าที่กำจัดภัยซอมบี้ และฝ่ายตรงข้ามของเขากลับกลายเป็นคนในครอบครัวซะเอง มันจึงไม่ใช่หนังที่ตัวละครกำลังต่อสู้ในสงคราม หากแต่กำลังเจ็บปวดเพราะมันซะมากกว่า
เรื่องราวในหนังบ่งบอกเอาไว้ว่า แม้พวกเขาจะติดเชื้อจนร่างกายแปรเปลี่ยนเป็นซอมบี้ แต่บางส่วนกลับยังมีชิวิตจิตใจและยังพูดและคิดได้ เปิดให้หนังสามารถจะเล่าเรื่องผ่านตัวละครที่กลายร่างเป็นซอมบี้ไปแล้วได้ แม้จะน่าเสียดายอยู่บ้าง ที่ทีมงานเมกอัพร่างซอมบี้เอาไว้ได้ดี และนักแสดงต่างก็สวมลีลาท่าทางแบบซอมบี้ได้อย่างเข้าถึง แต่ก็ทำให้การแสดงออกทางสีหน้าและอารมณ์ไม่ถูกส่งออกมาได้มากเท่าที่พวกเขาต้องการให้เป็น ส่งผลให้คนดูอย่างเราๆ ไม่ได้สัมผัสจนอินลึกได้เท่าที่ควรจะเป็น
แม้หนังทำได้ดีในหลายๆ ส่วน อย่างเช่น มุมกล้อง สถานที่ถ่ายทำ งานภาพที่ถ่ายสวยอยู่หลายจุด การเลือกใช้เทคนิคภาพก็ดี แต่บางฉาก หนังอาจจะเน้นใช้แสงที่ใกล้เคียงธรรมชาติจนภาพออกมามืดและต้องเพ่งมองรายละเอียดมากไปหน่อย อีกส่วนคือ เมกอัพดี ถ่ายทำฉากออกมาโหดๆ ได้น่าชื่นชม นักแสดงนำอย่าง นนกุล และ อัด อวัช ก็ทำหน้าที่ได้ดี แต่จังหวะการเล่าเรื่องอาจจะดูแปลกๆ เมื่อผสมกับการที่แต่งหน้าซอมบี้จัดเต็ม แล้วตัวละครเหล่านี้ต้องเล่นบทดราม่า มันเลยไม่ส่งอารมณ์ถึงคนดูได้มากพอ ทำให้แม้หนังจะมีคอนเซปต์ที่แข็งแกร่ง กล้าที่จะแหวกแนว แต่การที่หนังต้องเล่าหลายสิ่ง มันเลยยังไปไม่ถึงขั้นที่เรียกว่าสมบูรณ์
อีกส่วนที่ต้องบอกเพราะน่าจะมีหลายคนที่พลาด นั่นคือ หนังมีฉากแถมในช่วยกลางและท้ายเครดิต รวมเป็น 2 ตัว ถ้ารีบเดินออกก็อาจจะไม่ทันได้เห็นนะครับ
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | ช.พ.๑ สมรภูมิคืนชีพ / Operation Undead |
กำกับ | ก้องเกียรติ โขมศิริ |
เขียนบท | |
แสดงนำ | อัด-อวัช รัตนปิณฑะ, ชานน สันตินธรกุล, สุพิชชา สังขจินดา, อัครัฐ นิมิตรชัย, ธวัชนินทร์ ดารายน, ธนดล เอื้อพงษ์ |
แนว/ประเภท | แอ็คชัน, ดราม่า, สยองขวัญ |
เรท | |
ความยาว | 110 นาที |
ปี | 2024 |
สัญชาติ | ไทย, สิงคโปร์ |
เข้าฉายในไทย | 1 สิงหาคม 2024 |
ผลิต/จัดจำหน่าย | แบล็ค ดรากอน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์, ก้องเกียรติ โปรดักชัน, IFA Media |
คะแนนหนัง ช.พ.๑ สมรภูมิคืนชีพ
พล็อตและบท - 6.8
การดำเนินเรื่อง - 6.5
การแสดง - 7
งานภาพ เทคนิคพิเศษ และโปรดักชั่น - 7.5
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.2
7
Operation Undead
หนังไทยที่เซ็ตเรื่องเป็นชุมพรในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง มีตัวร้ายเป็นญี่ปุ่นที่นอกจากยกพลขึ้นบก ยังพอมนุษย์ทดลองมาด้วย เมื่อมันหลุดออกมา ชาวบ้านก็กลายเป็นกลุ่มทดลองของพวกมัน พล็อตมีความแหวกแนว สร้างให้หนังยุวชนทหารกลายเป็นหนังซอมบี้ ที่ตัวละครซอมบี้ต้องเล่นบทดราม่า ทำให้ความโหดจัดเต็มได้ แต่ความดราม่ากลับไปไม่ถึง ไอเดียของหนังแสดงความกล้าจะสรรหามุมมองแปลกใหม่ แต่หลายครั้ง ก็ยังผสมผสานแต่ละองค์ประกอบได้ไม่ลงตัว เหมือนหนังมีหลายอย่างอยากเล่า ดีเทลเลยเยอะจนเล่าได้ไม่อย่างใจ เมกอัพซอมบี้ดี มีฉากโหดแบบจัดเต็ม แต่เหมือนเล่าได้ไม่คมเท่างานภาพ