ผู้กำกับชาวไทยบางคน สร้างผลงานทำหนังได้ค่อนข้างคงเส้นคงวา ยิ่งประกอบกับการที่เขาได้อยู่ในค่ายหนังไทยยักษ์ใหญ่อย่าง GDH559 ทำให้งานของเขาเป็นรู้จักและประสบความสำเร็จในวงกว้าง ผมกำลังพูดถึง บาส นัฐวุฒิ พูนพิริยะ ที่วันนี้มีผลงานใหม่ ‘One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ’ ที่ได้ หว่องกาไว เป็นผู้ดูแลงานสร้าง หลังโด่งดังไกลถึงซันแดนซ์ วันนี้ คนไทยกำลังจะได้ดูในโรงหนังกันแล้ว
ชายคนนี้ เคยกำกับหนังอย่าง Countdown และ Bad Genius ฉลาดเกมส์โกง และนี่คือผลงานหนังยาวเรื่องที่สาม ที่แทบจะมั่นใจแล้วว่า เขาเป็นตัวจริงในฐานะผู้กำกับหนังชาวไทย ด้วยลายเซ็นที่เริ่มเด่นชัด ได้รับคำชมไม่หยุดหย่อน ทั้งยังคว้ารางวัล Creative Vision จากเวที Sundance Film Festival ทำให้คนไทยมากมายรอคอยจะได้ชมด้วยตาตนเอง
และวันนี้ วันนั้นก็ได้มาถึงเรียบร้อยแล้ว…
เรื่องย่อหนัง ‘วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ’
เรื่องราวมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อ อู๊ด (ไอซ์ซึ-ณัฐรัตน์ จากซีรีส์เรื่อง Voice และ Diary of Tootsies) สำเหนียกว่าชีวิตของตนใกล้จะมาถึงวาระสุดท้าย ลูคิเมียที่รุมเร้า ทำให้เขาเลือกจะตามเพื่อนรักอย่าง บอส (ต่อ-ธนภพ จากหนังเรื่อง Ghost Lab, เมย์ไหนไฟแรงเฟร่อ และซีรีส์ เคว้ง) ให้ปิดบาร์ที่นิวยอร์กเป็นการชั่วคราว เพื่อทำหน้าที่เป็นพลขับพาเขาตระเวณไปทั่วไทยเพื่อคืนของ กล่าวคำขอโทษและบอกลาเหล่าอดีตแฟนสาวของเขา
การตกปากรับคำครั้งนี้ ทำให้บอสต้องขับรถบีเอ็มสุดวินเทจพาเอาอู๊ดที่สภาพไม่ไหวออกไปตามหาแฟนเก่าทั้งสามของอู๊ด ไม่ว่าจะเป็น หนูนา (ออกแบบ-ชุติมณฑน์ จากหนัง ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ และ ฉลาดเกมส์โกง), อลิส (พลอย หอวัง อดีตสมาชิกวง H) และพี่รุ้ง (นุ่น-ศิรพันธ์ จากหนัง เพื่อนสนิท, เปนชู้กับผี และ Bad Genius เดอะซีรีส์) ด้วยความสามารถด้านการผสมค็อกเทล เขาจึงใช้มันเพื่อทำค็อกเทลแฟนเก่าให้เพื่อน
โดยที่ไม่รู้ว่า วันหนึ่งเขาก็ต้องตามหาแฟนของตัวเองเช่นกัน เธอคือ พริม (วี-วิโอเลต จากหนัง ฟรีแลนซ์, Die Tomorrow และ พรจากฟ้า) สาวบาร์เทนเดอร์คนที่เขาไม่เคยลืม และทริปบอกลาครั้งนี้ พาให้ความรักที่ไม่เคยหมดไปจากใจให้กลับตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
รีวิวหนัง ‘One for the Road’
หนังไทยมีชื่อนักแสดงปรากฏอยู่มากมายตั้งแต่เริ่มโปรโมต เรื่องย่อที่ดูเหมือนจะง่ายๆ ว่า ชายผู้เป็นมะเร็งใกล้ตาย อยากตามหาแฟนเก่าเพื่อคืนของ เพื่อนก็ลงทุนบินจากเมกาเพื่อมาขับรถพาตะลอน จากนั้น แล้วจะอะไรต่อ เชื่อว่า หลายคนคงมองไว้ก่อนแล้วว่า หนังเรื่องนี้ไม่ได้พูดแค่เรื่องเท่านี้แน่ๆ แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
พาย้อนกลับไปเจอความทรงจำ ที่ขุดขึ้นมาเมื่อไหร่ก็สะเทือนใจได้ทุกที
“ความสัมพันธ์มันก็เหมือนแดกเหล้า วันนึงมึงก็จะเมาเหมือนหมา” คือคำพูดของบอส เพื่อนผู้ขับรถพาอู๊ดทัวร์ทั่วไทยตามหาแฟนเก่า ชีวิตของเขาค่อนข้างสบายๆ เหมือนโนสนโนแคร์ วันๆ มีความสุขกับการเป็นเจ้าของบาร์ ชงค็อกเทลให้ลูกค้า ดูเหมือนจะมีความสุข แต่วันนึงกลับต้องมาจัดโร้ดทริปพาเพื่อนตามหาแฟนเก่า ด้วยจุดประสงค์เพียงจะคืนของ พร้อมเอ่ยคำบอกลา
นี่ถ้าเพื่อนไม่พบเจอวาระสุดท้ายของชีวิต จะคิดแคมเปญนี้ออกมารบกวนเขาหรือเปล่า?
เอาเข้าจริง การกลับไปหาคนที่เคยคบ คือ การขุดความทรงจำเก่าๆ ให้กลับมาทำงานอีกครั้ง ความผูกพัน ความรักที่อาจยังหลงเหลืออยู่ ย่อมจะทำให้น้ำตาไหลรื้นได้ไม่ยาก ยิ่งได้พบเจอกันตรงหน้า ย่อมจะสะเทือนใจไม่อาจกลั้น
ชีวิตของแต่ละคน เกิดมาพร้อมกับช่วงเวลาหนึ่ง และเวลาเหล่านั้นก็ใช้ไปกับแฟนอย่างน้อยหนึ่งคน เมื่อเป็นอดีตก็กลายเป็น ‘แฟนเก่า’ คือคนที่เรายังจำจดไว้แม้เวลาจะผ่านเลยไป เมื่อมีอะไรสะกิดขึ้นมา ความทรงจำเก่าๆ ก็จะย้อนกลับขึ้นมาเหมือนเช่นตะกอน ยิ่งถ้าจบกันไม่ดี หรือจบกันแบบค้างคา คงไม่พ้นมีน้ำตาแน่นอน
แปลกดีที่ดูเหมือนหนังจะเล่าถึงแฟนเก่าแต่ละคนด้วยช่วงเวลาที่ไม่ได้นานมาก แต่กลับทำงานกับผมได้ทุกคน แม้กระทั่งกับคนที่คิดว่าไม่น่าจะทำได้ ก็กลับมีช็อตไม้ตายที่กลั้นไม่อยู่ คงเป็นคนประเภทที่อ่อนไหวกับความทรงจำจริงๆ นั่นแหละ
นักแสดงเล่นดี มีความ Road Trip ที่รวม Cocktail แฟนเก่า เคล้า Playlist กระแทกใจ
หนังเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่ขับรถตะลอนไปหลายจังหวัดเพื่อตามหาแฟนเก่า แต่ยังใส่ไอเดียของการทำค็อกเทลเมนูต่างๆ ที่สอดประสานไปกับความทรงจำที่มีต่อแฟนคนนั้นๆ ของอู๊ด และคนที่คิดค้นค็อกเทลให้ก็คือบอส เพื่อนและพลขับของอู๊ดนั่นเอง
ไม่พอ มันยังเป็นหนังที่จัดเพลย์ลิสต์เพลงรักด้วย อู๊ดไม่ได้มีความหลังแค่กับเรื่องแฟน แต่เขาก็มีความหลังเกี่ยวกับพ่อที่เป็นดีเจของตนเองด้วย ในรถคันนี้ ไม่ได้เปิดเพลงจากคลื่นไหน แต่เป็นเทปบันทึกเสียงการจัดรายการของพ่อ และเพลงที่ถูกเปิดก็ล้วนมีความหมายอันสอดประสานไปกับความทรงจำของอู๊ด
การมีนักแสดงที่เล่นดีก็เป็นอีกจุดแข็งของหนัง คนที่โดดเด่นที่สุดสำหรับผมน่าจะเป็นไอซ์ซึ นอกจากลงทุนลดน้ำหนักแล้วก็ยังทำให้เราอินไปกับบทบาท เขารับส่งกับต่อได้ดี ขณะที่บรรดาแฟนเก่าทั้งหลายคงต้องยกให้วีที่พาสะเทือนใจได้สูงสุด อึ้งไปกับการแสดงของพลอยที่ดูเป็นธรรมชาติมากๆ จนอดอินไม่ได้
ในพาร์ทของงานถ่ายภาพ หนังเต็มเปี่ยมไปด้วยงานละเอียด ทั้งด้านการจัดแสง มุมมองภาพ และวิธีการตัดต่อ กลิ่นของความเป็นหว่องกาไวลอยฟูฟ่องอยู่ในหลายส่วนของหนัง ผสานกับดนตรีประกอบที่เน้นแจ๊สฟังเพลินอุรา จัดเป็นงานคราฟต์ชั้นเยี่ยมที่ควรค่าแก่การลิ้มลอง
มันมากยิ่งกว่าความสัมพันธ์ของแฟนเก่า
จากตัวอย่างหรือช่วงเวลาเริ่มต้นของหนัง อาจบ่งบอกถึงความเป็นทริปแห่ง redemption ของผู้ชายนิสัยห่วยๆ สองคน ที่คนดูหลายคนอาจมองอย่างไม่สบอารมณ์ว่าเหตุใดพวกเขาถึงต้องหาเรื่องกลับไปหาแฟนเก่าที่ตนเองเคยทำระยำทิ้งไว้ อาจไม่ใช่ทุกคนหรอกที่จะยินดีกับการกลับมาเจอกันเป็นครั้งสุดท้าย
แต่หนังก็ยังเล่าไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนอีกด้วย อู๊ดกับบอส ที่เป็นเพื่อนสนิทกัน แต่ใครจะรู้ว่าก่อนหน้าที่จะมีวันนี้ พวกเขาเคยผ่านอะไรกันมาบ้าง สิ่งใดที่พวกเขาทำต่อกันและพาให้ชีวิตของพวกเขาเดินมาถึงตรงนี้ หนังจะพาเราไปสำรวจ องก์ที่สามจึงดูหนักหน่วงแต่แตกต่างไปจากก่อนหน้า
‘วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ’ เดินเรื่องคล้ายๆ ว่าไม่รีบร้อน แต่บทจะเข้าท่อนฮุคก็จัดเต็มแรง ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงไม่ใช่แนวโรแมนซ์ แต่เป็นดราม่าที่แทรกทั้งเรื่องราวความรัก ครอบครัว ฐานะ ความฝัน ความทรงจำ และความสัมพันธ์ รวมทั้งหมดเอาไว้ด้วยกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ
สุดท้ายหนังพาคนดูทบทวนตัวเอง
ไม่ใช่แค่ตัวละครที่เดินทางพร้อมสำรวจชีวิตตนเอง ตัวเราคนดูก็ไม่ต่างกัน หนังทำให้เราหวนนึกไปว่า ที่ผ่านมา เราเคยใจร้ายกับใครบ้าง เราเคยทำใครผิดหวังเอาไว้บ้าง เคยทำตัวนิสัยเสียจนวันนึงทำให้ชีวิตใครต้องพังหรือเปล่า แน่นอนว่า ไม่มีใครย้อนอดีตได้ เราทำได้เพียงย้อนความทรงจำ หลังได้รับบทเรียนจากมัน เราก็ก้าวเดินต่อไป
ทุกการจากลา ทุกคนที่เข้ามาในชีวิต ล้วนกลายเป็นบทเรียน ประสบการณ์ ที่สอนให้เรากลายเป็นคนที่ดีขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าช่วงวัยใด ชีวิตที่ผ่านมา สามารถทำให้มันเป็นหนัง Coming-of-Age สำหรับเราได้เสมอ
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | One for the Road / วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ |
ผู้กำกับ | บาส นัฐวุฒิ พูนพิริยะ |
ผู้เขียนบท | พวงสร้อย อักษรสว่าง, ณฐพล บุญประกอบ, นัฐวุฒิ พูนพิริยะ |
นักแสดง | ไอซ์ซึ ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์, ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร, นุ่น ศิรพันธ์ วัฒนจินดา, ออกแบบ ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง, วี วิโอเล็ต วอเทียร์, หญิง รฐา โพธิ์งาม, พลอย หอวัง |
แนว/ประเภท | Drama |
เรท | MPAA/, ไทย/ |
ความยาว | 136 นาที |
ปี | 2021 |
สัญชาติ | ไทย |
เข้าฉายในไทย | 10 กุมภาพันธ์ 2022 |
ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย | Block 2 Pictures, Jet Tone Production, GDH559 |
คะแนนหนัง วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ
พล็อตและบท - 7.9
การดำเนินเรื่อง - 8.6
การแสดง - 8.6
งานถ่ายภาพและโปรดักชั่น - 8.7
เพลงและดนตรีประกอบ - 8.6
8.5
One for the Road
หนังไทยที่รวมทั้งการเดินทางเพื่อขอบคุณและขอโทษแฟนเก่า รวมเพลย์ลิสต์เพลงเพราะกระแทกใจ รวมเมนูค็อกเทลที่อิงกับความทรงจำ นอกจากนักแสดงแต่ละคนจะเล่นกันดีแล้ว งานถ่ายทำ เพลง-ดนตรีประกอบ ยังดีมากจนถึงขั้นพาหลุดไปจากเรื่องราว หนังบอกเล่าถึงชีวิตในหลายมุมมอง และไม่ได้มุ่งเน้นแต่เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างแฟน แต่ยังใส่ใจในความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนด้วย องค์ที่สามของหนังถือว่าหนักหน่วงและไปสุดมากๆ อยากให้ลองไปชมกันดู