จากเมื่อสามปีก่อน เราเคยได้มีโอกาสทำความรู้จักกับ ‘Now You See Me’ หนังที่มีไอเดียน่าสนใจ หยิบเอามายากลมาใส่ในหนังอาชญากรรม สร้างความฮือฮากันไป ทำรายได้ทั่วโลกราว 351 ล้านเหรียญ จนในที่สุดก็มีภาคสองตามมาในปีนี้
หนังภาคใหม่นี่กำลังเข้าฉายในประเทศไทย ‘Now You See Me 2’ หรือในชื่อไทย ‘อาชญากลปล้นโลก 2’ โดยที่ยังรวบรวมเอานักมายากลผู้ชื่นชอบการอยู่ภายใต้แสงไฟ มีผู้คนมากมายรายล้อมพร้อมทำหน้าตะลึงกับกลที่พวกเขาสร้างสรรค์ แถมยังเสริมทัพด้วยคนใหม่ๆ ตามสไตล์หนังภาคต่อเพื่อเพิ่มเติมสีสันของเรื่องราวให้แปลกใหม่และมากกว่าภาคเก่า
งานนี้ มี Daniel Radcliffe มาร่วมแจม ต้องไปดูว่าจะออกมาปังแค่ไหน
เรื่องย่อหนัง ‘Now You See Me 2’
หลังเหตุการณ์ในภาคแรกผ่านพ้นไป 1 ปี ‘กลุ่มจตุรอาชา’ (The Four Horsemen) ที่เอาชนะเอฟบีไอได้สำเร็จและได้รับชื่อเสียงมีแฟนคลับที่คลั่งไคล้พวกเขาอย่างมากมาย ก็กลับไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณชนประหนึ่งรอวันที่จะกลับมาผงาดอีกครั้ง ครั้งนี้พวกเขาติดต่อกับองค์กรบางอย่างที่ต้องการให้พวกเขาทำภารกิจหนึ่งให้สำเร็จ
แอตลาส (Jesse Eisenberg), ดีแลน โรห์ดส์ (Mark Ruffalo) สมาชิกที่แฝงตัวเป็น จนท.เอฟบีไอ, แม็คเคนซี่ (Woody Harrelson) และแจ็ค ไวล์เดอร์ (Dave Franco) ได้พบกับสมาชิกใหญ่เป็นสาวลูล่า (Lizzy Caplan) และถูกชักนำโดยองค์กรดังกล่าวเพื่อเปิดโปงความไม่ชอบมาพากลของบริษัทสื่อสารนาม Octa แต่ไปๆ มาๆ พวกเขากลับถูกเปิดโปงเสียเอง
ศัตรูรายใหม่เปิดเผยตัวแล้วว่าเป็น วอลเตอร์ มาบรี (Daniel Radcliffe) ผู้ซึ่งต้องการให้เขาไปขโมยชิปอัจฉริยะมาเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง เหล่าจตุรอาชาคืนสังเวียนด้วยการปล้นอีกครั้งแล้ว
แต่ทุกสิ่งไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นเสมอไป มีคนๆ หนึ่งที่เฝ้ารอชำระแค้นพวกเขาอยู่ในคุก แทดเดียส (Morgan Freeman) อาจเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด
แต่เรื่องราวจริงๆ อาจไม่เป็นเช่นนั้น!
รีวิวหนัง ‘อาชญากลปล้นโลก 2’
การกลับมาอีกครั้งของหนังอาชญากรรมผสมมายากล เปลี่ยนตัวผู้กำกับฯ จาก Louis Leterrier มาเป็น Jon M. Chu ผู้ที่เคยกำกับฯ ‘Step Up 2: The Streets’, ‘Step Up 3D’ , ‘G.I. Joe: Retaliation’ , ‘Jem and the Holograms’ และเขาจะเป็นผู้กำกับฯ หนัง ‘Now You See Me 3’ อีกด้วยนะ
นักแสดงที่เพิ่มเข้าใหม่ ยังไม่โดดเด่นพอ
การเพิ่มตัวละครเข้ามาทำให้สร้างเรื่องราวได้อย่างที่ต้องการโดยเฉพาะในเวลาที่ไม่ต้องการจะเล่าอะไรที่ซ้ำกับที่เคยเล่ามา แต่ดูท่าทาง อาชญากลปล้นโลก 2 จะใช้ประโยชน์ของนักแสดงที่เพิ่มเข้ามาได้ไม่เต็มศักยภาพ
แดเนียล แรดคลิฟฟ์ ดาราชายที่ได้รับบทเด่นเป็นตัวเอกในฝั่งตรงข้ามกับเหล่าจตุรอาชา แต่ไม่มีโอกาสในการโชว์ศักยภาพเท่าไหร่นัก บทของเขาดูเฉยๆ มาเพื่อเอาคืนคนที่เคยกระทำก็เท่านั้น
ขณะที่ดาราอาวุโสที่ใครๆ ก็รู้จักอย่างไมเคิล เคน เหมือนมาเดินเล่นจิบเหล้าออกหน้าจอ ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เป็นได้แค่แขกรับเชิญจริงๆ ส่วนเจย์ โซ นั่นเล่าแทบไม่มีบทบาทอันใดเลย นอกจากได้โผล่หน้าออกจอเพื่อทำการตลาดในเอเชีย
จัดกลชุดใหม่ใส่ไม่ยั้ง
มายากลชุดใหม่จัดมาชุดใหญ่ชนิดที่ดูแล้วอึ้ง ประมาณว่าเหลือเชื่อว่ามันทำได้ยังไง มันข้ามขั้นไปสู่ความแฟนตาซีแล้ว นัยว่าสร้างให้ดูเกินจะเป็นได้เพื่อความตื่นตาให้กับผู้ชมบันเทิงโดยหลุดพ้นจากความจริง ช่วงเวลาที่กลายเป็นภาพจำของหนังภาคนี้น่าจะเป็นช่วงยาวๆ ของการรับส่งไพ่ไปมาระหว่างสมาชิกเนตรภาคี นับเป็นช่วงที่เพลิดเพลินสุดแล้วในหนัง
หนังยังมีปัญหาอยู่บ้างในช่วงของการเล่าเรื่องเมื่อถึงเวลาเฉลย เพราะบทพูดมันไปไวกว่าจะทำความเข้าใจได้ทัน ช่วงเวลาที่หนังเล่าเรื่องด้วยภาพกลับเป็นช่วงที่เข้าใจหนังได้ง่ายที่สุด และเป็นช่วงที่สนุกที่สุดของหนัง เมื่อหนังหันมาคุยกันกลายเป็นช่วงเวลาที่ความสนุกลดลงไปพอควร
ยังไงก็ตาม ก็นับว่าบทเขียนมาค่อนข้างโอเคที่ทำให้เราได้อึ้งว่าทุกอย่างที่เห็นใช่ว่าจะเป็นจริงเสมอไป เหมือนบอกให้เราอย่าเพิ่งสิ่งที่เห็นกับตา มายากลคือเรื่องที่บอกเราแบบนั้น ก็ขนาดคนเล่นกลยังถูกหลอกให้เห็นอีกอย่างได้เลย
นับประสาอะไรกับคนดูธรรมดาๆ อย่างเราๆ
ชื่อภาพยนตร์: Now You See Me 2 / อาชญากลปล้นโลก 2
ผู้กำกับภาพยนตร์: Jon M. Chu
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Ed Solomon (screenplay), Ed Solomon (story)
นักแสดงนำ: Jesse Eisenberg, Mark Ruffalo, Woody Harrelson, Dave Franco, Daniel Radcliffe, Lizzy Caplan, Jay Chou, Michael Caine, Morgan Freeman
ความยาว: 129 นาที
แนว/ประเภท: Action, Comedy, Thriller
อัตราส่วนภาพ:
เรท: ไทย/, MPAA/PG-13
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 9 มิถุนายน 2559
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Lionsgate, Summit Entertainment
อาชญากลปล้นโลก 2
Now You See Me 2 - 6.5
6.5
Now You See Me 2
หนังยังมีปัญหาอยู่บ้างในช่วงของการเล่าเรื่องเมื่อถึงเวลาเฉลย เพราะบทพูดมันไปไวกว่าจะทำความเข้าใจได้ทัน ช่วงเวลาที่หนังเล่าเรื่องด้วยภาพกลับเป็นช่วงที่เข้าใจหนังได้ง่ายที่สุด และเป็นช่วงที่สนุกที่สุดของหนัง เมื่อหนังหันมาคุยกันกลายเป็นช่วงเวลาที่ความสนุกลดลงไปพอควร