ชีวิตของแต่ละคนมักมีขึ้นมีลงอยู่เสมอ มันคือจังหวะของชีวิต บางครั้ง เราอาจได้พบเจอกับบางอย่างที่พาชีวิตดิ่งลงเหว และบางครั้ง เราก็อาจไม่รู้ตัวว่า โอกาสหนสองได้ถูกหยิบยื่นมาให้ถึงมือ อยู่ที่ว่า เราจะคว้ามันไว้ได้หรือปล่อยให้มันว่างเปล่าไป สิ่งอันธรรมดาเหล่านั้นถูกนำมาถ่ายทอดในหนังที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องจริง ‘Next Goal Wins’ หรือชื่อไทย ‘หนึ่งประตูสู่ฝัน’ งานชิ้นใหม่จากผู้กำกับ ไทกา ไวทีที
ความเห็นส่วนตัวของนายแพท
หนังเล็กๆ จากผู้กำกับ ‘Jojo Rabbit’ และ ‘Thor: Raknarok’ ที่ครั้งนี้ไม่ต้องเล่นใหญ่ก็โดนใจผู้ชมได้เหมือนกัน นำโค้ชเมกันผู้กำลังตกต่ำ มาเจอกับทีมฟุตบอลอันดับบ๊วยโลก สร้างเนื้อหาการพบกันของสองวัฒนธรรมที่แตกต่าง เดินเกมสายกีฬาที่พาคนดูหัวเราะร่วนไปจังหวะแปลกๆ เฉพาะตัว ก่อนจะค่อยๆ หลงรักทีมฟุตบอลทีมนี้เข้าไปอย่างไม่ทันรู้ตัว และพาคนดูไปน้ำตาซึมกับเรื่องร้ายและดี มีความฟีลกู้ด เติมเต็มกำลังใจให้กับคนท้อแท้ คนที่ถูกมองเป็นลูสเซอร์ ให้กลับมายิ้มได้ พร้อมมองโลกในมุมใหม่ที่อาจเคยถูกบางสิ่งบดบังใจไว้
ดูจบแล้วอิ่มเอมดี มีแรงสู้ชีวิตกันต่อละ
เรื่องย่อหนัง ‘Next Goal Wins’
อเมริกันซามัว เป็นประเทศหมู่เกาะเล็กๆ ที่มีประชากรอยู่ไม่มากนัก แต่ก็มีทีมฟุตบอลของตนเองนะ เพียงแต่พวกเขาไม่ได้เล่นเก่งกันสักเท่าไหร่ ดูจากผลงานอันดับโลกก็ได้ รั้งท้ายสุดกู่เลย หลังผลงานโค้ชคนปัจจุบันไม่ช่วยให้ทีมกระเตื้องขึ้น พ่ายแพ้ออสเตรเลียไปอย่างสุดกู่ถึง 31-0 ก็เลยต้องหาโค้ชคนใหม่ที่คราวนี้คงต้องเป็นคนนอก ว่าแต่ใครล่ะ จะยอมรับงานนี้
โธมัส รอนเก็น (Michael Fassbender จากหนังเรื่อง ‘Steve Jobs’ และ ‘The Counselor’) โค้ชหนุ่มชาวเมกันที่เคยมีผลงานดี แต่สองปีมานี่ เขาสร้างเรื่องให้ตัวเองตลอด ด้วยนิสัยอารมณ์ร้อน ฟาดงวงฟาดงาไม่วายเว้น ทำให้ตอนนี้เขาต้องว่างงานกะทันหัน แต่เคราะห์ยังดี แฟนเก่าหยิบยื่นงานใหม่ให้ และนั่นก็คืองานคุมฟุตบอลอเมริกันซามัว
งานที่จำใจต้องทำ ทำให้เขาบินไปไกลยังอเมริกันซามัว และได้พบกับ ทาวิตา (Oscar Kightley) ผู้อยู่เบื้องหลังทีมชาติทีมนี้ เขาทำทุกทางเพื่อจะให้ทีมนี้ยังคงอยู่ ผู้ยื่นภารกิจสำคัญให้เขาพาทีมยิงประตูแรกในประวัติศาสตร์อเมริกันซามัวให้สำเร็จ เขาได้พบ เอซ (David Fane) โค้ชคนเก่า และเหล่านักฟุตบอลทุกคนที่ดูแล้วต้องขัดเกลากันสุดๆ เลยล่ะ ว่าแต่ งานหินๆ แบบนี้ เขาจะทำได้มั้ยน้าา?
รีวิวหนัง ‘หนึ่งประตูสู่ฝัน’
หลังจากสร้างงานชิ้นใหญ่ที่อาจจะเล่นอะไรหนักมือไปหน่อย ก็ถึงเวลาต้องหางานเบาๆ ที่ทำให้เล่นอะไรสนุกๆ แบบไม่ต้องกดดันกันบ้าง หลังๆ เราจะเห็นว่า เขาเริ่มหนีไปทำหนังสั้นบ้าง กำกับมิวสิควิดีโอบ้าง หรือไม่ก็ไปเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับซีรีส์เรื่องโน้นเรื่องนี้ ‘Next Goal Wins’ ก็คงเป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์ที่เอาไว้พักเบรกระหว่างรองานชิ้นใหญ่
หนังเรื่องนี้ ถูกบอกเล่าจากเค้าโครงเรื่องจริง ของทีมฟุตบอลอเมริกันซามัวที่อันดับของพวกเขานั้นรั้งท้ายสุดของโลก มันอาจเป็นด้วยวิถีชีวิตของพวกเขาก็เป็นได้ ขณะเดียวกัน ความล้มเหลวซ้ำซากก็เป็นกับดักทำให้ก้าวขึ้นไปสูงกว่าเดิมไม่ได้ งานนี้ เลยต้องคิดใหม่ทำใหม่ ใช้โค้ชที่เป็นคนนอก แต่ก็พบว่ามีเพียงคนเดียวที่ยินดีรับงาน ความหวังครั้งใหม่ที่จะทำให้ทีมฟุตบอลอเมริกันซามัวยิงประตูเป็นกับเขาสักที เดินทางมาถึงและได้เห็นผู้เล่นทีมปัจจุบันที่มองยังไงก็ไม่น่าจะรอด
อาจไม่พบว่าเรื่องราวของโค้ชมือตก กับทีมฟุตบอลฝีมือรั้งท้าย จะทำให้คนดูเอาใจช่วยอะไรนักช่วงนาทีแรกๆ แต่เมื่อหนังเดินทางไป คนดูก็จะเริ่มได้เห็นความน่ารักแบบแปลกๆ ของสมาชิกทีมนี้ กับจังหวะแปลกๆ ตามสไตล์หนังของไทกา ไวทีที ที่สามารถเรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชมได้เรื่อยๆ
มันมีความคล้ายคลึงกันกับหนังเกาหลีที่เล่าเรื่องทีมฟุตบอลกับโค้ชอย่าง ‘Dream’ อยู่พอสมควร แต่ขณะเดียวกัน มันก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่าง ที่นี่ มันคือการเอาโค้ชที่มีวิถีคิดและวัฒนธรรมที่แตกต่างไปมาพบกับวิถีคิดและวัฒนธรรมพื้นเมืองของคนบนเกาะ เป็นการผูกเรื่องให้หนึ่งคนกับหนึ่งกลุ่มที่แตกต่างกันได้มาพบมาเจอกัน เรียนรู้ แลกเปลี่ยนและให้บทเรียนซึ่งกันและกัน
หนึ่งจุดที่น่าสนใจคือ หน้าตาของมันที่เรามองเห็นจากภายนอก มันเป็นหนังกีฬาที่ว่าด้วยเรื่องฟุตบอล ที่ชวนให้เข้าใจว่าเฉพาะคนดูบอลเท่านั้นที่จะอินและสนุกไปกับหนัง แต่กลับไม่ใช่ เพราะต่อให้ไม่ใช่คอบอลก็สามารถจะสนุกไปหนังได้ สังเกตได้จากอารมณ์ร่วมของคนดูในรอบสื่อ มีปรบมือและส่งเสียงระหว่างดูไปด้วย แสดงว่าพวกเขาอินไปกับหนัง ส่วนหนึ่งก็คงเพราะมันไม่ได้เล่าอะไรที่ลงลึกนัก การแข่งฟุตบอลก็คือการประสานงานเพื่อส่งลูกบอลข้ามเส้นประตูไปเท่านั้น
หนังอาจมีมุกและไดอะล็อกที่บ่งบอกว่าเป็นหนังที่ตั้งใจเอาดีทางคอมเมดี้ แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆ ก็พาเราไปเจอกับบทดราม่าน้ำตาซึมได้เหมือนกัน
อีกส่วนหนึ่งของหนังมันเป็นการจับเอากลุ่มคนที่ถูกเรียกว่า loser ให้มาพบเจอกัน และฮีลหรือเยียวยากันและกัน คนหนึ่งก็เป็นโค้ชที่ระยะหลังผลงานตกต่ำแถมแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวเกินงาม กับคนอีกกลุ่มที่แทบจะหมดกำลังใจเล่นกีฬาเพราะแพ้ยับมาจนอันดับรั้งท้ายของโลก หลงลืมไปแล้วว่ามาเล่นด้วยกันเพราะเหตุใด
เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้พวกเขาได้พบเจอสิ่งที่หลงลืมไป กลับมามีพลังสู้กันได้ใหม่อีกครั้ง อีกทั้งหนังยังส่งต่อพลังนั้นให้กับคนดูอีกด้วย กลายเป็นหนังฟีลกู้ดที่ช่วนชุบชูใจคนที่เผชิญหน้ากับความท้อแท้ไร้ทางออกให้กลับมามีหวังและกำลังใจอีกครั้ง
มันเลยเป็นหนังเล็กๆ ที่มีหลากมุม สร้างสรรค์จากแรงบันดาลใจของเรื่องจริง หยิบพล็อตที่คุ้นเคยมาใช้ ใส่ความฟีลกู้ด บวกความคอมเมดี้ พาเข้าหาสายบอลแต่ไม่ลงลึก หาแง่มุมดราม่ามาใส่ ก่อนชุบชูใจให้คนลุกขึ้นสู้อีกครั้ง อ่อ หนังมีฉากแถมหลังเครดิตปิดท้ายด้วยนะ!
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง หนึ่งประตูสู่ฝัน
ชื่อภาพยนตร์ | Next Goal Wins / หนึ่งประตูสู่ฝัน |
กำกับ | Taika Waititi |
เขียนบท | Taika Waititi, Iain Morris |
แสดงนำ | Michael Fassbender, Oscar Kightley, Kaimana, David Fane, Rachel House, Beulah Koale |
แนว/ประเภท | คอมเมดี้, ดราม่า, กีฬา |
เรท | PG-13 |
ความยาว | 104 นาที |
ปี | 2023 |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร |
เข้าฉายในไทย | 11 มกราคม 2024 |
ผลิต/จัดจำหน่าย | Archer’s Mark, Imaginarium Productions, Piki Films, Searchlight Pictures |
คะแนนรีวิวหนัง หนึ่งประตูสู่ฝัน
พล็อตและบท - 7.2
การแสดง - 7.6
การดำเนินเรื่อง - 7.6
งานถ่ายภาพ และเทคนิคพิเศษ - 7.3
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.3
7.4
Next Goal Wins
หนังเล็กๆ จากผู้กำกับ 'Jojo Rabbit' และ 'Thor: Raknarok' ที่ครั้งนี้ไม่ต้องเล่นใหญ่ก็โดนใจผู้ชมได้เหมือนกัน นำโค้ชเมกันผู้กำลังตกต่ำ มาเจอกับทีมฟุตบอลอันดับบ๊วยโลก สร้างเนื้อหาการพบกันของสองวัฒนธรรมที่แตกต่าง เดินเกมสายกีฬาที่พาคนดูหัวเราะร่วนไปจังหวะแปลกๆ เฉพาะตัว ก่อนจะค่อยๆ หลงรักทีมฟุตบอลทีมนี้เข้าไปอย่างไม่ทันรู้ตัว และพาคนดูไปน้ำตาซึมกับเรื่องร้ายและดี มีความฟีลกู้ด เติมเต็มกำลังใจให้กับคนท้อแท้ คนที่ถูกมองเป็นลูสเซอร์ ให้กลับมายิ้มได้ พร้อมมองโลกในมุมใหม่ที่อาจเคยถูกบางสิ่งบดบังใจไว้ ดูจบแล้วอิ่มเอมดี มีแรงสู้ชีวิตกันต่อละ