รีวิวหนัง Never Let Go ผูกเป็น หลุดตาย | ผูกเชือกไว้ก่อน แม่สอนไว้ ความจริงคืออะไรกันแน่

หนังหลายๆ เรื่อง ใช้วิธีการเซ็ตโลกให้แตกต่างออกไปจากโลกความจริง พาให้คนดูรู้สึกสงสัยในความจริงของโลกในหนัง กว่าจะรู้ตัวอีกที ก็ดำดิ่งเข้าไปอยู่ในนั้นแล้ว แต่พอพบว่าโลกในนั้นก็เป็นไปอย่างที่เขาคิด หนังก็พาให้เขาไขว้เขวอีกครั้ง คุณกำลังจะได้เจอกับอะไรแบบนั้นใน ‘Never Let Go’ หรือชื่อไทย ‘ผูกเป็น หลุดตาย’ หนังสยองปนระทึกขวัญที่นำแสดงโดย ฮัลลี เบอร์รี

คิดเห็นอย่างไรกับหนังเรื่องนี้?

เรื่องเล่าของครอบครัวสามแม่ลูกที่อาศัยกันอยู่ในบ้านไม้หลังหนึ่งกลางป่า แม่กำชับลูกให้ผูกตัวเองไว้กับเชือกที่ผูกไว้กับบ้าน ทั้งระวังไม่ให้ปีศาจถูกตัว หนังทั้งสยองและระทึกที่พาผู้ชมไปเจอกับโลกชวนฉงนที่พาสับสนว่า อะไรจริง อะไรไม่จริง มาพร้อมกับงานภาพคมๆ ถ่ายป่าที่สวยแต่แฝงความน่ากลัว

บทหนังหลอกล่อคนดูได้เก่ง เหมือนจะรู้ว่าคนดูเองก็สงสัยในสิ่งที่แม่กำชับ เล่าพามาเหมือนจะถูกทาง แต่แล้วก็พาให้ไขว้เขวต่อได้อีก ใช้ดนตรีบิ๊วหนัก นักแสดงเด่งเล่นกันได้ดี เช่นเดียวกับเจ้าหมาน้อย จบแล้วยังต้องอภิปรายกันถึงเหตุผลในหนังที่เพิ่งดูไป

---

เรื่องย่อหนัง ‘Never Let Go’

แม่เลี้ยงเดี่ยว (ฮัลลี เบอร์รี จากหนังเรื่อง ‘Moonfall’ และ ‘Kidnap’) คนหนึ่ง เธอใช้ชีวิตอยู่ในบ้านท่ามกลางป่าใหญ่ กับลูกชายสองคน โนแลน (Percy Daggs IV) และพี่ชายฝาแฝดของเขา ซามูเอล (Anthony B. Jenkins จากหนังเรื่อง ‘The Deliverance’) โดยสั่งสอนให้ลูกทั้งสองได้เรียนรู้วิธีที่จะอยู่ในป่าแห่งนี้

เธอบอกกับลูกๆ ว่า ชีวิตของเธอมันยากลำบากมากขึ้นหลังจากวันโลกแตก เธอกำชับให้พวกเขาผูกตัวเองด้วยเชือกให้เชื่อมต่อกับบ้าน โดยห้ามให้เชือกหลุดอย่างเด็ดขาด ทั้งยังห้ามให้มันแตะต้องเนื้อตัว แถมยังให้ลูกๆ จดจำและท่องบทสวดบางอย่างอีกต่างหาก ผลสุดท้ายของเรื่องนี้ พวกเขาจะเป็นอย่างไร ต้องไปตามกันดูล่ะนะ

---

รีวิวหนัง ‘ผูกเป็น หลุดตาย’

หันไปดูเครดิต หนังเรื่องนี้กำกับโดย อเล็กซองดร์ อาฌา เขาคือคนที่กำกับหนังเรื่อง ‘Crawl คลานขย้ำ’ หนังเอาตัวรอดจากจระเข้ที่น่ากลัวมากเรื่องหนึ่งเลย แต่คราวนี้ เขาไม่ได้เล่าเรื่องการเอาตัวรอด แต่เป็นหนังแนวระทึกขวัญของ 3 แม่ลูกที่อาศัยอยู่ในบ้านกลางป่า แถมยังมีรูปแบบการเลี้ยงลูกที่แปลกประหลาด

“Never Let Go” คือถ้อยคำที่แม่สั่ง ห้ามปล่อยเชือกให้หลุดจากตัวเป็นอันขาด เชือกจะผูกติดไว้กับบ้าน ทุกครั้งที่ออกไปไหน พวกเขาจะต้องผูกตัวเองไว้ตลอดเวลา จากที่ฟังแม่บอกเล่า มันคือมีวันโลกแตกมาก่อน ก่อนที่ทุกอย่างจะยากลำบากไปซะหมด ทุกวัน ทั้งสามต้องออกไปหาอาหารนอกบ้าน ต้องระวังไม่ให้ตัวเองหลุดจากเชือก และต้องระวังไม่ให้บางอย่างมาแตะต้องตัว แต่ลูกทั้งสอง ไม่มีใครมองเห็นปีศาจได้เหมือนแม่ แล้วพวกเขาจะระวังตัวยังไง

ก่อนดูหนัง เราจะสงสัยกันว่า ทำไมแม่ถึงต้องคอยกำชับเรื่องเชือกกับลูกขนาดนั้น การมีเชือกจะช่วยให้ลูกรอดได้อย่างไร เมื่อได้มาดูหนัง เราก็ยังต้องสงสัยต่ออีกว่า เหตุใดแม่จึงเป็นคนเดียวที่มองเห็นร่างปีศาจ ถ้าลูกๆ มองไม่เห็น พวกเขาจะป้องกันตัวได้ยังไง ซึ่งผลของมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ลูกคนนึง เชื่อในสิ่งที่แม่บอก ขณะที่อีกคนไม่เชื่อและตั้งคำถาม เด็กคนที่ตั้งคำถามก็อาจเป็นเหมือนตัวแทนของคนดู

และเมื่อมีตัวละครลูกสองคนที่คิดเห็นแตกต่างกัน ส่งผลให้มีพฤติกรรมแตกต่าง นั่นก็เลยทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ติดตามมา

Taglines: One touch is all it takes.

เอาจริงๆ ผมชอบโปสเตอร์เวอร์ชันดั้งเดิมของหนังเรื่องนี้นะ เขาทำมาหลายแบบดี สวยก็หลายแบบอยู่ แต่ก็คาดว่าที่ไทยเลือกเป็นแบบนี้ ก็คงเพราะมันสื่อถึงความสัมพันธ์ของครอบครัวที่เหลือเพียงแม่กับลูกสองคน ท่ามกลางป่าที่แสนอันตรายและมีเชือกที่ทั้งหมดต้องพึ่งพา

เมื่อดูหนัง ก็พบถึงความเชื่อมโยงที่ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน เชือกอาจหมายถึงความปลอดภัยที่ลูกจะได้รับ ลูกที่เชื่อน่าจะอุ่นใจเมื่อมีมัน ขณะเดียวกัน เชือกก็อาจเป็นสิ่งฉุดรั้ง และลูกคนที่ตั้งคำถามก็คงรู้สึกราวกับโดนกักขัง

จะว่าไป ช่วงแรกของหนังนั้นสร้างแต่ความสงสัยให้กับคนดูอย่างเรา เหตุการณ์นั้นมันคืออะไร เรื่องที่เขาบอกเล่ากับเรานี่มันจริงใช่ไหม หรือที่จริงเขากำลังหลอกอะไรเราอยู่ ถามตัวเองไปต่างๆ นานา หนังพยายามสร้างความระแวงสงสัยให้เกิดขึ้นกับคนดู มีช็อตชวนสะดุ้งบ้างไรบ้าง แต่กลับพบว่า มันไม่ได้ชวนให้รู้สึกตื่นตัวเท่าที่ควร จนอาจลากดึงเราเข้าสู่ภวังค์

มีความรู้สึกระหว่างดูว่า เด็กสองคนในหนังเรื่องนี้ เล่นได้ดีเลยนะ แม้ว่าเส้นเรื่องจริงๆ จะไม่มีอะไรมาก และเส้นของเหตุผลก็อาจจะเบาบาง

มันน่าสนใจตรงที่พยายามจะเดินเรื่องเพื่อให้เราคาดเดาไม่ถูก เหมือนมันจะรู้ว่า คนดูคิดอะไรอยู่ พอมันเดินไปถึงจุดที่ตรงกับที่เราคาดไว้ สักพักมันก็เดินไปอีกทาง ผสมผสานกับดนตรีประกอบที่ช่วยบิวต์ให้เราหวาดระแวงและสงสัย แต่ยังไงก็คงไม่เท่าช่วงท้ายของหนัง ที่พาเราตื่นตัวเต็มที่เพื่อพบกับบทสรุปที่ต้องออกมาถกกันอีกทีนอกโรงหนัง

---

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง

ชื่อภาพยนตร์	Never Let Go / ผูกเป็น หลุดตาย
กำกับ	Alexandre Aja
เขียนบท	KC Coughlin, Ryan Grassby
แสดงนำ	Halle Berry, Anthony B. Jenkins, William Catlett, Percy Daggs IV, Matthew Kevin Anderson, Christin Park, Stephanie Lavigne, Mila Morgan, Georges Gracieuse, Cadence Compton
แนว/ประเภท	ดราม่า, สยองขวัญ, ระทึกขวัญ
เรท	R
ความยาว	101 นาที
ปี	2024
สัญชาติ	สหรัฐอเมริกา
เข้าฉายในไทย	19 กันยายน 2024
ผลิต/จัดจำหน่าย	21 Laps Entertainment, HalleHolly, Lionsgate Films, มงคล เมเจอร์