ในยุคปัจจุบันที่โลกเดินหน้าด้วยโซเชียล โลกออนไลน์ก้าวเข้ามามีบทบาทต่อทุกชีวิตบนโลก ทุกความรู้สึกนึกคิดถูกถ่ายทอดจากเสียงในสมองกลายเป็นถ้อยคำดิจิทัลที่มนุษย์อ่านเห็นได้บนอุปกรณ์ไอที แล้ววันหนึ่ง ก็มีคนจับสิ่งเหล่านั้นมาผูกเป็นเรื่องราวและสร้างเป็นหนังมาให้เราทุกคนได้ดู แล้วย้อนนึกถึงตัวเอง วันนี้ ผมได้ดู ‘Nerve เล่นเกม เล่นตาย’ และหยิบมาเขียนถึงกันเนี่ยแหละครับ
ผลงานจากผู้กำกับฯ สองคนจาก ‘Paranormal Activity’ ภาค 3 และ 4 ที่คราวนี้มาร่วมกันกำกับฯ ด้วยกันอีกครั้ง ด้วยพล็อตที่ดูแปลกใหม่ในวงการฮอลลีวูด แต่อาจดูคุ้นตาอยู่บ้างสำหรับคนไทย เมื่อโลกนี้มีเกมโซเชียลชนิดใหม่เกิดขึ้น ด้วยการท้าผู้เล่นให้ทำภารกิจตามที่ต้องการ เมื่อทำสำเร็จก็จะได้รับเงินตามที่ระบุเอาไว้
โดยไม่เคยรู้ล่วงหน้าเลยว่าจะมีอะไรรออยู่เบื้องหน้า
เรื่องย่อหนัง ‘Nerve เล่นเกม เล่นตาย’
หนังพาเราไปสู่บ้านหลังที่มี วี หรือวีนัส (Emma Roberts) เป็นกลายเป็นลูกคนเดียวเมื่อสูญเสียพี่ชายไป เธออยู่อาศัยกับแม่ แต่วันๆ เธอก็อยู่กับหน้าคอมพ์ มือถือ และกลุ่มเพื่อนๆ เธอมีเพื่อนสนิทเป็นซิดนีย์ (Emily Meade)
วันหนึ่ง เธอรู้สึกเหมือนถูกท้าให้ออกไปทำอะไรที่เธอเขินอายกับชายที่เธอชอบ ในที่สุด เธอก็คิดจะออกจากสิ่งที่เป็นอยู่ด้วยการโดดเข้าสู่เกม เนิร์ฟ ที่ซิดนีย์เข้าเล่นไปก่อนหน้าแล้ว อาจเพื่อพิสูจน์อะไรสักอย่าง แม้จะได้รับการทัดทานจากเพื่อนสนิทชายของเธอ ทอมมี่ (Miles Heizer) ก็หาได้ฟังไม่
แต่นั่นก็ทำให้เธอได้เจอกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง
เอียน (Dave Franco) ชายหนุ่มที่วีเข้าไปจูบในเกมแรกที่เธอได้รับการท้า และเขากลายมาเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่จะอยู่ข้างกายเธอไปตลอด เพราะดูเหมือนผู้ชมจะต้องการเช่นนั้น กติกาของเกมก็คือ เมื่อทำภารกิจที่ถูกท้าได้สำเร็จ เงินสดๆ ก็จะถูกโอนเข้าบัญชีทันที ยิ่งเล่นก็จะยิ่งได้เงินรางวัลสูงขึ้นเรื่อยๆ ผู้เล่นที่มีผู้ชมมากขึ้นจะได้เลื่อนอันดับ และห้ามแจ้งตำรวจเด็ดขาด!
เกมนี้มันเป็นเกมอันตราย แต่ชีวิตวัยรุ่นมันต้องเสี่ยง!
รีวิวหนัง ‘เล่นเกม เล่นตาย’
หนังเรื่องนี้ดูท่าจะเน้นเอาใจวัยรุ่นอยู่ไม่น้อย ด้วยเรื่องราวที่นำมาเล่า นักแสดงนำและประกอบ องค์ประกอบของการสร้าง ที่ดูจะไปในทางเดียวกันหมด คือส่งเสริมให้คนดูกลุ่มวัยรุ่นได้สนุกไปกับเรื่องราวที่เล่าจิกกัดโลกโซเชียลที่เป็นลมหายใจของพวกเขาในวันนี้ทั้งสิ้น จำลองโลกที่พวกเขาอยู่ไว้ในหนังที่ว่าด้วยเกมที่คนสมัยนี้โดยเฉพาะวัยรุ่นและเกรียนคีย์บอร์ดจะต้องให้ความสนใจ
สีสันเปรี้ยวฉูดฉาด เพลงประกอบจี๊ดโดนใจ
เพียงแว้บแรกก็รู้สึกได้แล้วว่า ‘เล่นเกม เล่นตาย’ มีองค์ประกอบที่เอาใจวัยรุ่นอย่างแท้จริง (แต่ก็ใช่ว่าคนมิใช่วัยรุ่นจะดูไม่ได้นะครับท่าน) ด้วยสีสันของหนังที่เน้นฉูดฉาด ทั้งการออกแบบฉาก รวมไปถึงยานพาหนะ ที่ต้องใส่ไฟเรืองแสงเข้าไป ผสานเข้ากับเสียงเพลงประกอบที่เน้นเอาแบบที่วัยรุ่นกำลังชื่นชอบ (และพอดีมันก็เป็นแบบที่ผมกำลังชอบด้วยน่ะสิ)
เรื่องราวในหนังก็ว่าด้วยโลกโซเชียล ตัวตนความเป็นวัยรุ่นวัยแห่งการแสวงหาตัวตน เกมที่มีลูกเล่นง่ายๆ แค่ “การท้า” และ “เงิน” ก็ชักชวนให้คนเดินเข้าไปเล่นกันได้แล้ว พร้อมจะมองข้ามมิตรภาพออกไปเพื่อหวังกลายเป็นผู้ชนะ เป็นผู้มีชื่อเสียง มีผู้คนรู้จักห้อมล้อม มียอดวิวยอดไลก์เป็นตัวชี้วัด
โดยไม่สนใจว่าการกระโดดเข้าไปนั้นจะมีราคาที่ต้องจ่ายเป็นอะไร
หนังมีองค์ประกอบที่การตัดต่อได้กระฉับกระเฉง มีเร่งเร้ามีผ่อนคลาย ถ่ายภาพสวยๆ จากหลากหลายมุม มีช่วงที่ลุ้นกันหัวใจจะวาย มีช่วงที่เซอร์ไพรส์ พร้อมจิกกัดระคนให้แง่มุมความคิดแทรกเข้าไปด้วย
เหล่าพระ-นางก็แซ่บโดนใจเหลือหลาย ทั้งฝ่ายชายที่มีทั้ง Dave Franco ที่โชว์กล้ามและนมแน่นๆ ให้สาวๆ ละลายและละสายตาไปไม่ได้ ขณะที่ Miles Heizer คนที่เพื่อนนางเอกนั่นเล่า ก็หล่อเหลาได้ใจ ได้บทเป็นพระรองที่นางเอกเธอไม่เคยจะเหลียวแลแต่กลับไปสนใจชายผู้ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้า
หันมาเหล่นางเอก แม้เธอจะตัวไม่สูง แต่ Emma Roberts เธอสวยทั้งหน้าทั้งยิ้มไม่แพ้ญาติสูงวัยกว่าอย่าง Julia Roberts แต่อย่างใด หลายคนว่าเธอแรดได้น่ารักมากๆ แต่สำหรับคนที่ไม่มองว่าเธอแสดงได้แรด ก็คงจะรู้สึกเธอสวยจนไม่อาจละสายตาและมองข้ามไปได้เลย
ทุกองค์ประกอบช่างส่งเสริมให้หนังเรื่องนี้น่าดูได้เสียจริงๆ
จิกกัดโซเชียลได้ใจ ตบหน้าเกรียนคีย์บอร์ดได้ฉาดใหญ่!
ทุกวันนี้ มนุษย์ทุกผู้ที่มีกำลังเข้าถึงเทคโนโลยีต่างก็เข้าไปอยู่ในโลกโซเชียลกันเกือบหมด และส่วนใหญ่ต่างๆ ก็สร้างตัวตนอยู่บนนั้น ไม่ว่าจะอยู่ในโซเชียลไหน และในหนัง ‘เล่นเกม เล่นตาย’ ก็เป็นเหมือนอีกโซเชียลเน็ตเวิร์กที่แสดงตัวตนออกมาในรูปของเกมที่เล่นกับชีวิตจริงๆ ของผู้คน โดยมีภารกิจที่ท้าให้ทำ ถ้าทำแล้วจะได้เงินเป็นรางวัล แต่ทุกการกระทำจะถึงถ่ายและมีผู้คนติดตาม ชีวิตในเกมของพวกเขาคือความเป็นสาธารณะ และพวกเขาจะถูกสังคมออนไลน์ควบคุมอย่างไม่ต้องสงสัย
เหมือนเช่นที่คนสมัยนี้ถูกสังคมโซเชียลควบคุมอยู่โดยอาจไม่รู้ตัวกันนั่นเอง
วัยรุ่นอาจจะเป็นวันที่ประสบการณ์ชีวิตยังไม่สูงนัก อาจถูกชักจูงชักนำได้ง่าย ประกอบความอยากลอง ถูกท้าทายไม่ได้ต้องโดดลงไปลองเอง แต่ผลของมันก็อาจออกมาดีเพราะพวกเขาจะได้เจอมันด้วยตัวเอง
แต่ผลร้ายก็มี คือระหว่างทางเขาอาจพังชีวิตตัวเองจนมันกู้กลับไม่ได้
หนังมีองค์ประกอบที่ชวนให้คนดูสนุกไปด้วย แม้ว่าเรื่องมันจะไม่ถึงกับคาดเดายากเกินไปนัก แถมทีมงานยังใส่ไอเดียต่อเนื่องไปถึงฉากเอนด์เครดิตตอนท้ายอีกด้วย
ไม่ว่าคุณจะอยู่ในวัยใด หากยังวนเวียนอยู่ในโลกโซเชียล ‘เล่นเกม เล่นตาย’ ก็ยังคงเหมาะกับคุณได้อยู่ บางทีมันอาจจะถึงเวลาต้องเรียนรู้ว่า การเป็นแค่ผู้ชม-คนดู ไม่ใช่ไม่ต้องรับผิดชอบกับการกระทำของตัวเอง การไม่เปิดเผยตัวตนในโลกออนไลน์ ไม่ช่วยให้คุณทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องรู้สึกผิดหากว่ามันเลวร้าย
แม้จะเป็นโลกโซเชียลแต่คุณก็ต้องมีจิตสำนึกด้วยเช่นกัน
ชื่อภาพยนตร์: Nerve / เล่นเกม เล่นตาย
ผู้กำกับภาพยนตร์: Henry Joost, Ariel Schulman
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Jeanne Ryan (novel), Jessica Sharzer (screenplay)
นักแสดงนำ: Emma Roberts, Dave Franco, Emily Meade, Miles Heizer, Kimiko Glenn, Machine Gun Kelly, Brian ‘Sene’ Marc
แนว/ประเภท: Adventure, Crime, Mystery
ความยาว: 96 นาที
อัตราส่วนภาพ:
เรท: ไทย/ , USA/PG-13
วันเข้าฉายในประเทศไทย: สิงหาคม 2559
ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย/สตูดิโอ: Allison Shearmur Productions, Keep Your Head, Lionsgate
เล่นเกม เล่นตาย
Nerve - 7.9
7.9
Nerve
หนังมีองค์ประกอบที่ชวนให้คนดูสนุกไปด้วย แม้ว่าเรื่องมันจะไม่ถึงกับคาดเดายากเกินไปนัก แถมทีมงานยังใส่ไอเดียต่อเนื่องไปถึงฉากเอนด์เครดิตตอนท้ายอีกด้วย
1 คอมเมนต์