รีวิวหนัง My Sunshine สเต็ปฝันฉันคือเธอ | แอบขมท่ามกลางความอบอุ่นของอากาศหนาว

วัยรุ่นเป็นช่วงเวลาที่ได้พบอะไรหลายอย่างที่เป็นครั้งแรกๆ ของชีวิต และก็เป็นช่วงที่ได้ลองได้เรียนรู้อะไรๆ โดยไม่ต้องพะวง สนใจสิ่งไหนก็เปิดใจแล้วลองทำมันให้เต็มที อย่างในหนังเรื่องนี้ ‘My Sunshine’ หรือชื่อไทย ‘สเต็ปฝันฉันคือเธอ‘ ที่ตัวละครเล่นอะไรก็ไม่เก่ง แต่พอตกหลุมรักใครเข้าคนนึง ก็เปลี่ยนให้เขามีความพยายาม แต่โชคดีหลายอย่างก็พาให้เขาก้าวไปไกล ได้ทั้งเพื่อนที่ดี ครูที่ดี แถมแรงบันดาลใจยังชั้นหนึ่งอีกต่างหาก

คิดเห็นเช่นไรกับหนังเรื่องนี้?

เรื่องราวของเด็กหนุ่มติดอ่างที่ชอบสาว เลยใช้มันเป็นแรงบันดาลใจฝึกฝนการเล่นสเก็ตน้ำแข็ง แต่บังเอิญเขาเจอโค้ชที่มุ่งมั่นช่วยเขาฝึกฝน แถมจับคู่ให้เขาได้เล่นสเก็ตลีลากับเธออีก มันเป็นหนังแนว Coming-of-age ที่เล่าเรื่องได้อบอุ่นท่ามกลางอากาศที่แสนเหน็บหนาว หิมะขาวโพลนบนเกาะฮอกไกโด ได้มองเห็นความพยายามของตัวละครที่จะเล่นสเก็ตลีลาให้เก่ง เห็นมิตรภาพของเพื่อนที่คอยเป็นกำลังใจ เห็นความตั้งใจดีที่โค้ชคนหนึ่งอยากจะเห็นความสำเร็จของคนที่ตั้งใจ แต่ขณะเดียวกัน มันก็เล่ามุมขมๆ ของชีวิตที่สังคมไม่ยอมรับ

เหมาะมากที่จะดูในโรงที่แอร์เย็นๆ เหมือนได้ไปนั่งอยู่บนเกาะฮอกไกโดหน้าหนาวด้วยตัวเองจริงๆ

เรื่องย่อหนัง ‘My Sunshine’

เรื่องราวในช่วงฤดูหนาวที่มาถึง ในเมืองชนบทเล็กๆ บนเกาะฮอกไกโด ทาคุยะ (เคย์ทัตสึ โคชิยามะ จากซีรีส์ ‘Hatsukoi no Akuma’) หนุ่มน้อยที่พูดติดอ่างในโรงเรียนแห่งหนึ่ง เขาเล่นกีฬาไม่เก่งเลยถูกจับไปเป็นผู้รักษาประตูในกีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง ในลานสกีแห่งนั้น เขามองเห็น ซากุระ (คิอาระ นากานิชิ จากอะนิเมะซีรีส์ ‘Holo no Graffiti’) เด็กสาวที่เพิ่งย้ายมาใหม่จากโตเกียว เธอเล่นสเก็ตน้ำแข็งด้วยลีลาพริ้วไหวที่ทำให้ทาคุยะตกหลุมรักอย่างเต็มเปา

นั่นกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เขาลองหัดสเก็ตลีลาตามลำพัง จนโค้ชหนุ่ม อารากาวะ (โซสึเกะ อิเกะมัตสึ จากหนัง ‘Shin Kamen Rider’ และ ‘Talking the Pictures’) มาเห็นเข้า ด้วยความที่เขาเป็นโค้ชสเก็ตให้กับซากุระ จึงตัดสินใจสอนให้เขาเล่นสเก็ตลีลาและแนะนำให้เล่นคู่กับซากุระ โดยมีเป้าหมายคือ สอบผ่านการประกวดไอซ์แดนซ์ประเภทคู่ให้ได้

รีวิวหนัง ‘สเต็ปฝันฉันคือเธอ’

หลังรับชมภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่องนี้ คงต้องบอกว่าว่า มันเป็นหนังแนวก้าวผ่านวัย (Coming-of-age) โดยแท้ เล่าเรื่องราวที่แสนเรียบง่ายด้วยสัดส่วนภาพแคบที่ทำให้เราจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า พาเราก้าวไปสู่ญี่ปุ่นที่นายแพทยังไม่เคยไปถึง เมืองชนบทบนเกาะฮอกไกโด ที่อากาศในฤดูหนาวเต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน ภาพที่เขาใช้ก็เหมือนใส่ฟิลเตอร์ให้ดูไม่คมชัดนักจนดูคล้ายถ่ายด้วยฟิล์มสมัยก่อน กับมุมกล้องที่สวยงามราวกับภาพวาด แน่นอนว่า งานภาพคือจุดแรกที่ทำให้ชื่นชอบหนังเรื่องนี้

ถัดมาคงเป็นบรรยากาศของหนัง มันเล่าเรื่องของวัยรุ่นวัยเรียน ที่กำลังค้นหาตัวเอง ทาคุยะที่รู้สึกว่าตัวเองก็ไม่เก่งกีฬาชนิดไหน เล่นเบสบอลก็ไม่ได้เรื่อง ถึงหน้าหนาว ย้ายมาเล่นฮอกกี้น้ำแข็ง ก็ถูกจับไปเป็นโกล ซึ่งก็รับลูกไม่ได้เลย แต่สุดท้าย ฤดูหนาวคราวนั้น เขาก็ได้พบกับซากุระ ดอกไม้ที่เคลื่อนกายบนลานสเก็ตน้ำแข็งอย่างพริ้วไหว เธอกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เขาลองฝึกฝนด้วยตนเอง นี่แหละ บางครั้ง เราก็ค้นพบความชอบใหม่ๆ จากการที่เราแอบชอบใครสักคนได้เหมือนกัน

และการตกหลุมรักใครสักคนที่พาให้คนเล่นกีฬาอะไรก็ไม่เก่ง ได้ค้นพบและสนใจกีฬาสเก็ตลีลา ความพยายามที่จะศึกษาลองเล่นด้วยตนเองดันไปเข้าตาโค้ชหนุ่มของซากุระ ที่เสนอตัวเข้ามาสอนให้ฟรีๆ จากคนที่เล่นไม่เป็น กลายเป็นคนที่เล่นได้ดี น่าจะเป็นแรงผลักดันชั้นดีให้กับคนที่ยังไม่เคยประสบความสำเร็จอะไรสักอย่าง และน่าจะช่วยเสริมกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังพยายามได้เช่นกัน

หนังเล่าเรื่องหวานๆ ของหนุ่มสาวที่ได้ใกล้ชิดกันท่ามกลางอากาศที่เหน็บหนาว แต่กลับอบอวลไปด้วยความอบอุ่นและความพยายาม ทาคุยะจะรู้สึกดีแค่ไหนล่ะ ที่คนติดอ่าง เล่นอะไรก็ไม่เก่งแบบเขา ได้เล่นสเก็ตลีลาคู่กับคนที่ชอบ หนังไม่มีช่วงเวลาหวานๆ อันใด มีแต่ช่วงเวลาที่เขาทั้งคู่จับมือและวาดลีลาไปบนลานน้ำแข็งร่วมกัน

แต่ทว่า… ท่ามกลางเรื่องหวานๆ หนังก็ตัดด้วยเรื่องขมๆ เมื่อมีอีกมุมหนึ่งที่ไม่ปรากฏในหนังตัวอย่างโผล่ออกมา แง่มุมน่าเศร้าอย่าง LGBTQ+ ที่สังคมญี่ปุ่นยังไม่ค่อยจะยอมรับกัน

มันกลับกลายเป็นว่า หน้าหนาวดำเนินไปอย่างเปี่ยมความหวัง แต่ไม่นาน น้ำแข็งก็เริ่มละลาย ฤดูหนาวที่แสนอบอุ่นกำลังจะผ่านพันไป ฤดูใบไม้ผลิกำลังจะมาถึง ช่วงที่ควรจะอบอุ่นขึ้น ผลลัพธ์ของบางสิ่งกลับแตกต่างไป หนังเลือกใช้โลเกชันเดิม มุมเดิม แต่ต่างเวลามาทำให้เราได้เห็น

เมื่อพูดตัวนักแสดง เรื่องนี้ นายแพทชอบตรงที่เขาให้นักแสดงเล่นสเก็ตน้ำแข็งจริงๆ ไม่ต้องใช้ตัวแสดงแทนกับมุมกล้องมาช่วย นอกจากนี้ ทั้ง เคย์ทัตสึ โคชิยามะ และ คิอาระ นากานิชิ ก็เล่นได้น่ารักเป็นธรรมชาติดีครับ

ได้ข่าวว่า ‘My Sunshine สเต็ปฝัน ฉันคือเธอ’ เป็นหนึ่งในหนังที่ได้รับคำชมมากที่สุดจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ปีล่าสุด ก็สมอย่างที่เขาว่าจริงๆ นั่นแหละ งานภาพดี เรื่องราวอบอุ่น(แต่แอบขม) ดนตรีก็เพราะไม่น้อย ดูหนังเรื่องนี้แล้วต้องฟังเพลงตอนเครดิตหนังปิดท้าย อ่านคำแปลไปด้วย มันก็อินดีไม่หยอกนะ

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง