ตอนเป็นละครช่อง 3 ก็สร้างปรากฏการณ์กลายเป็นกระแส เป็นละครทีวีที่มีผู้ชมพูดถึงและเข้าชมเป็นประวัติการณ์ ด้วยเรื่องราวที่คนเคล้ากันทั้งความเป็นละครย้อนยุค บวกกับละครประวัติศาสตร์ แถมยังสร้างสรรค์บทได้ชวนหัว มีอะไรในนั้นให้หยิบออกมาพูดถึงในโลกโซเชียลได้เยอะแยะ ไม่แปลกเลย ถ้าวันหนึ่งจะมีคนหยิบมันมาสร้างเป็นภาพยนตร์ แต่เขาไม่ได้นำมารีเมกแต่ใช้วิธีการสร้างเป็นภาคต่อ นั่นแหละ ‘บุพเพสันนิวาส ๒’ จึงกำเนิดขึ้นในวันนี้
หนังเรื่องนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่าง Broadcast Thai กับ GDH ปรุงมันออกมาจนเป็นภาพยนตร์ที่สานต่อเรื่องราวความรักข้ามภพข้ามชาติของตัวละครคู่หนึ่ง โป๊ป ธนวรรธน์ และ เบลล่า ราณี ยังคงเป็นคู่ขวัญคู่พระนางเช่นเดิม แต่เปลี่ยนมาเล่าเรื่องในยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น พร้อมมีตัวละครที่มาจากตัวตนคนจริงในประวัติศาสตร์เข้ามาร่วมด้วย
มาลองดูกันซิว่า หนังจะสานตาความสนุกจากละครได้มากน้อยเช่นไร
เรื่องย่อหนัง ‘บุพเพสันนิวาส ๒’
ในชาตินี้ พี่หมื่นเกิดใหม่กลายเป็น ภพ หรือ ขุนสมบัติบดี (โป๊ป ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ จากละครเรื่อง ‘บุพเพสันนิวาส’) นายช่างหนุ่มผู้ยิ้มหวานที่สุดในประเทศสยาม คนที่ฝันถึงแม่หญิงคนหนึ่งมาเนิ่นนานจนปักใจว่าเธอคือคู่บุพเพสันนิวาส และเมื่อเขาได้มาเจอกับกับเกสร (เบลล่า ราณี แคมเปญ จากหนังเรื่อง ‘อีเรียมซิ่ง’) หญิงที่มีหน้าตาตรงกันกับแม่หญิงการะเกดสาวในฝันของเขาเด๊ะๆ จึงไม่รอช้าเข้าไปจีบในทันที แต่เธอเป็นหญิงหัวก้าวหน้า เธอชอบจะไปเล่าเรียนและได้ภาษาจากบาดหลวงปาลเลอกัวซ์ เธอเลยไม่เชื่อเรื่องบุพเพฯ แถมยังไม่ชอบหน้าภพเข้าเสียอีก
ยามใดที่ภพได้ปะหน้ากับเกสรเขายังคงติดเรียกเธอว่า ‘ออเจ้า’ เสมอมา
คนที่เกสรสนใจกลับกลายเป็น เมธัส (ไอซ์ พาริส อินทรโกมาลย์สุต จากหนังเรื่อง ‘Ghost Lab’ และมินิซีรีส์ ‘Bad Genius’) ชายหนุ่มในโลกปัจจุบันที่ดันย้อนเวลากลับไปในอดีตยุคเดียวกับสองคนก่อนหน้าเข้าโดยบังเอิญ ทั้งยังเข้าไปอยู่ในช่วงเวลาที่สยามกำลังเจรจาซื้อเรือหลวงเอกสเปรส เรือกลไฟจากเมืองลิเวอร์พูล ที่นายห้างหันแตรนำมาเสนอขาย แต่เรื่องราวเริ่มจะลุกลามบานปลายจนอาจทำให้ประวัติศาสตร์เกิดการเปลี่ยนแปลง
นี่คือภารกิจรัก เคล้าภารกิจบ้านเมือง ที่ภพและเกสรจักต้องเผชิญ
รีวิวหนัง ‘Love Destiny The Movie’
มันคือเรื่องราวของชายผู้หลงรักหญิงในความฝัน จนถึงขนาดอิดออดของถอนหมั้นกับคู่ที่ผู้ใหญ่ได้คุยกันไว้ มุ่งมั่นตามหาหญิงที่เป็นคู่บุพเพฯ แต่ดันมาพบเอาทีหลังว่า นางคือคนถูกหมายหมั้นกันเอาไว้ สุดท้ายต้องกลับลำไปจีบให้เธอรักเพื่อจะได้ครองคู่ตามที่สร้างบุญกรรมด้วยกันเอาไว้
ขณะที่เหตุการณ์ในชาติภพใหม่เปลี่ยนจากสมัยอยุธยา กลายมาเป็นรัตนโกสินทร์ตอนต้น ที่ถ้าจะพูดอย่างจำเพาะเจาะจงลงไปก็คือสมัยรัชกาลที่สาม ที่ยุคนั้นรู้กันว่ารุ่งเรืองมากทั้งด้านการค้า วรรณกรรม และการเข้ามาของพวกยุโรป (ที่ชาวสยามเรียกพวกเขาว่า ชาววิลาศ) มีบาทหลวงปาลเลอร์กัวซ์ที่มาเผยแผ่ศาสนาแลอาศัยอยู่โบสถ์อัสสัมชัญ หมอบรัดเลย์ที่เข้ามาเผยแผ่ศาสนาเช่นกันแต่เพราะความสนใจในการพิมพ์จึงได้เป็นผู้ตีพิมพ์หนังสือฉบับแรกแห่งสยาม มีนายห้างหันแตรผู้นำทั้งกล้องถ่ายรูปเข้ามา เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าแห่งแรก ทั้งยังเป็นคนนำเรือกลไฟเข้ามาเสนอขายกับเสด็จในกรมด้วย อีกทั้ง สมัยนั้นก็สยามยังรุ่งเรืองทางด้านวรรณกรรมเพราะมีกวีเอกของโลกของ สุนทรภู่ ที่มีชีวิตอยู่ในช่วงนั้นเช่นกัน บุคคลที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์สยามเหล่านี้ต่างก็มีพื้นที่โลดแล่นอยู่ในหนัง เกาะเกี่ยวไปกับตัวละครสำคัญๆ ของเรื่องทั้งสิ้น
เรื่องราวในหนังจึงเป็นการเล่าสลับกันไปมา ระหว่างพาร์ทความรักของ ภพ และ เกสร ที่กลับชาติมาเกิดใหม่อีกครั้ง พร้อมมี เมธัส หนุ่มจากอนาคตเป็นตัวสอดแทรก และพาร์ทการเมือง เมื่อเหตุการขายเรือกลไฟที่ลุกลามบานปลาย และการก้าวข้ามเวลามาของเมธัสที่อาจส่งผลให้ประวัติศาสตร์สุ่มเสี่ยงจะถูกเปลี่ยนแปลง ภพจึงตั้งปณิธานทุ่มเทเต็มที่เพื่อให้เรื่องราวมันเป็นไปตามนั้น พร้อมๆ กันไปกับทำยังไงให้เกสรมีใจ
เอาจริงๆ ก็เหมือนเป็นหนังที่ผู้ชมรู้ตอนจบมาตั้งแต่ก่อนดูอยู่แล้ว หนึ่งคือมันเป็นหนังที่ว่าด้วยเรื่องบุพเพสันนิวาส กับมันเป็นเรื่องที่เอาประวัติศาสตร์มาขีดเขียนเป็นบทหนัง
ความน่าสนใจของหนังจึงไม่ต่างกับตอนเป็นละคร คือ การหยิบเอาตัวตนคนจริงในประวัติศาสตร์มารับใช้บทหนัง ทำให้ผู้ชมรู้สึกจับต้องพวกเขาได้มากกว่าจะเป็นแค่ตัวอักษรในหนังสือ แต่ก็ทำให้หนังเรื่องนี้มีตัวละครมากมายตามไปด้วย ลำบากในการจัดเรียงกันพอสมควร รวมทั้งยังต้องสร้างฉาก เสริมด้วยการใช้ซีจีมาปรับแต่งภาพให้ใกล้เคียงกับยุคสมัย ซึ่งจะว่าไป หนังก็ทำตรงนี้ได้ไม่ขี้เหร่เลย
ผมชื่นชอบที่หนังแทรกเอาภาพการ์ตูนที่บ่งบอกแผนที่ของตำแหน่งแห่งที่ของจุดต่างๆ ระหว่างเรื่องราวมาให้ เป็นอีกหนึ่งสีสันที่น่าสนใจ นอกเหนือไปจากกิมมิกต่างๆ ที่ถูกใส่เข้าไปหลายหลาก โดยเฉพาะเสื้อผ้าหน้าผมที่ส่งเสริมให้ตัวละครที่คู่กันแล้วไม่แคล้วกันได้ออกมาสวยหล่อตามที่อยากให้เป็น หรือเหล่าดอกไม้ชนิดต่างๆ ที่ภพมักจะใช้มันในการจีบเกสร แถมยังมีจุดเชื่อมโยงกับภาคละครได้อีกต่างหาก
แต่สิ่งที่รู้สึกตะขิดตะขวงใจระหว่างดูหนังเรื่องนี้ก็มีเช่นกัน
แม้บางจุดของหนังจะใส่ความชวนจิ้นและชวนซึ้งมาให้ แฟนละครอาจได้พบกับสิ่งที่พวกเขารอคอยมาเนิ่นนาน แต่สำหรับนายแพทกลับพบว่า บางส่วนของหนังยังดูเยิ่นเย้อและยืดยาวเกินพอดี ราวกับหนังจะต้องการเก็บทุกเม็ดทุกมุกเพื่อเสิร์ฟมันให้กับคนที่รอคอยได้เต็มอิ่มมากที่สุด แต่บางส่วนอย่างพาร์ทการจีบกันของตัวละครหลักมันช่างดูธรรมดาและแห้งแล้ง หรือพาร์ทแอคชันบนเรือที่เยิ่นเย้อเชื่องช้า ทำให้หนังขาดความกลมกล่อมไปมากทีเดียว
อีกทั้งด้วยความเป็นหนังที่ต้องเล่าเรื่องให้จบภายใน 2 ชั่วโมง 46 นาที ก็อาจทำให้ไม่สามารถนำความสนุกอย่างที่พบในละครมาทำให้ผู้ชมได้อินไปกับเรื่องราวได้ เราอาจจะได้พบส่วนผสมเล็กๆ น้อยๆ ที่ถูกหยิบใส่เข้ามาแต่ไม่อาจทำให้เราฟินได้มากพอ
แม้นักแสดงแต่ละคนต่างทำหน้าที่ได้ดี ไอซ์ พาริส กับบทเมธัสคือตัวละครแนวขโมยซีนในเรื่อง เขามีบทบาทสูงที่ทำให้เรื่องราวดำเนินไป พร้อมๆ กับการเป็นคนในอนาคตที่มีความเกี่ยวข้องกับอดีต นนกุล ชานน ที่สวมบทเสด็จในกรม ส่วนบทที่ชวนรู้สึกแปลกประหลาดก็คงจะเป็น บทสุนทรภู่ ที่สวมบทบาทโดย นิมิตร ลักษมีพงศ์ เป็นบทที่มาๆ ไปๆ บางทีก็แทรกเข้ามาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แต่ก็ทำให้หนังมีอีกมุมที่เพิ่มเติมเข้ามา
หลายช็อตในหนังชวนขำคิกคัก แต่กลับไม่มีตรงไหนชวนขำคำโต ขณะที่บางส่วนก็กลับแป้กเสียอีก หนังเรื่องนี้จึงมีทั้งส่วนที่ดูดีน่าสนใจ ปะปนไปกับส่วนที่ลดทอนความสนุกลงไป จุดโดดเด่นที่สุดในใจนายแพทคือดนตรีประกอบที่ทำได้จึ้งมากๆ แม้หนังจะจบลงไปแต่ก็ยังเหลือฉากที่แถมท้ายในระหว่างกลางเครดิตที่ไม่ควรพลาด
เพราะมันจะช่วยต่อจิ๊กซอว์ให้กับจักรวาลบุพเพฯ ก่อนจะได้รับชมละคร ‘พรหมลิขิต’ กันในเวลาต่อมานั่นเองขอรับ
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง ‘บุพเพสันนิวาส ๒’
ชื่อภาพยนตร์ | บุพเพสันนิวาส ๒ / Love Destiny the Movie |
กำกับ | อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม |
เขียนบท | Pattaranad Bhiboonsawade, เบ็ญจมาภรณ์ สระบัว, ทศพล ทิพย์ทินกร, อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม |
แสดงนำ | ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ, ราณี แคมเปน, พาริส อินทรโกมาลย์สุต, ชานน สันตินธรกุล, ปวีณ์นุช แพ่งนคร, นิมิตร ลักษมีพงศ์, สุวัจนี พานิชชีวะ, สุรพล พูนพิริยะ, Daniel B. Fraser, Jonathan Samson |
แนว/ประเภท | History, Comedy, Romance |
เรท | ไทย/ท |
ความยาว | 166 นาที |
ปี | 2022 |
สัญชาติ | ไทย |
เข้าฉายในไทย | 28 กรกฎาคม 2022 |
ผลิต/จัดจำหน่าย | จอกว้างฟิล์ม, GDH559, Broadcast Thai Television |
Love Destiny the Movie
พล็อตและบท - 6.6
การแสดง - 7.2
การดำเนินเรื่อง - 5.5
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.9
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชัน - 7.3
6.9
บุพเพสันนิวาส ๒
เรื่องรักของคนที่คู่กันในชาติภพก่อน จากในละครมาเจอกันอีกทีในฉบับภาพยนตร์ เรื่องราวที่เกิดในยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น นำพาบุคคลจริงในประวัติศาสตร์มาเจอกับตัวละคร หนังเล่าพาร์ทความรักสลับกับพาร์ทการเมืองที่อิงเกร็ดความจริงและนำมาเขียนใหม่ให้เกาะเกี่ยวกัน หนังมีทั้งมุกขำคิกคักกับมุกแป้ก แม้จะผูกเรื่องกับยุคสมัยได้ดีแต่กลับเดินเรื่องเยิ่นเย้อ ดูแล้วอาจรู้สึกก้ำกึ่งไม่แน่ชัด แต่ที่แน่ๆ เขาพยายามจะส่งไปยังละครใหม่ พรหมลิขิต เป็นแม่นมั่น