หลังได้ยินข่าวมาสักพักใหญแล้วว่า มักเน่แห่งวง SNSD อย่าง ซอฮยอน จะมีหนังเรื่องใหม่ลง Netflix แถมเนื้อหายังแซ่บและน่าตื่นตา แล้วก็ตั้งตารอคอยวันนั้นมา จนถึงวันนี้ ได้ชมกันเสียทีกับหนังรักรอมคอมที่เนื้อหาไม่ซ้ำใครอย่าง ‘Love and Leashes’ หรือ ‘รักจูงรัก’ ที่เริ่มฉายสตรีมมิ่งให้ดูกันตั้งแต่ 11 กุมภาพันธ์ 2022 เป็นต้นไป
ผลงานการกำกับของผู้กำกับหญิง Park Hyun Jin/พัคฮยอนจิน ผู้ที่เคยมีผลงานภาพยนตร์อย่าง Lovers of Six Years และ Like for Likes ครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งแรกที่เธอสร้างผลงานเพื่อออกฉายในระบบสตรีมมิ่งอย่างเน็ตฟลิกซ์ ครั้งนี้เป็นการหยิบเอาเว็บตูนอย่าง Moral Sense ที่เล่าเรื่องรสนิยมทางเพศมาดัดแปลงให้เป็นบทหนัง
น่าสนใจเหมือนกันว่า หนังรอมคอมที่เล่าเรื่องรสนิยมนี่มันจะออกมาเป็นยังไง
เรื่องย่อหนัง ‘Love and Leashes’
จองจีอู (SeoHyun/ซอฮยอน จากซีรีส์เรื่อง ‘Private Lives’, ‘Warm and Cozy’ และ ‘Moon Lovers: Scarlet Heart Ryeo’) เป็นพนักงานหญิงในบริษัทใหญ่ ที่เพียงได้พบสบตารองผู้จัดการคนใหม่อย่าง จองจีฮู (Lee Jun Young/อีจุนยอง สมาชิกวง U-KISS ที่เคยเล่นซีรีส์เรื่อง ‘Imitation’ และ ‘Please Don’t Date Him’) ก็ปิ๊งในทันที แต่เธอก็พยายามรักษาท่าทีไว้ไม่แสดงออก
จนวันหนึ่ง เธอกลับได้ล่วงรู้ความลับของเขาเข้า เมื่อมีพัสดุหนึ่งส่งมาที่บริษัท จองจีอูเป็นคนที่รับมัน แต่แท้ที่จริงมันเป็นพัสดุของจองจีฮู แถมของในนั้นยังเป็นปลอกคอสุนัข จองจีฮูวิ่งหน้าตั้งมาแต่ก็ไม่ทันแล้ว
เมื่อจีอูล่วงรู้ความลับด้านรสนิยมส่วนตัวของเขา และมองเห็นว่าเธอยอมรับในตัวตนของเขา จีฮูจึงต้องขอให้จีอูเป็นนายหญิงให้ และเมื่อเธอตกปากรับคำ ทั้งสองจึงได้สวมบทบาทในเชิง S&M ด้วยการทำสัญญากันสามเดือน ความสัมพันธ์ของเพื่อนร่วมงานและดอม-ซับจึงเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันนั้น
รีวิวหนัง ‘รักจูงรัก’
สำหรับคนที่ไม่ได้ศึกษา ไม่ได้รู้ลึกซึ้ง และไม่เคยมีเพื่อนหรือคนรู้จักที่มีรสนิยมทำนองนี้ ก็อาจเป็นการเปิดโลกให้เห็นมุมมองอื่นๆ ได้เหมือนกันนะ สำหรับตัวผมเองแล้ว เลือกที่จะไม่ตัดสินอะไร มองว่ามันก็เป็นหนึ่งในรสนิยม และไม่ใช่เรื่องผิดเพี้ยนอะไร
เหมือนเนื้อหาของหนังจะใกล้เคียงกับความ 18+ แต่เอาเข้าจริง มันไม่มีฉากอะไรแบบนั้นเลย เพียงแต่เรื่องราวมันหยิบจับเรื่องเพศมาบอกเล่าเท่านั้นเอง ที่ทำงานของพระเอก-นางเอกก็เกี่ยวกับการทำรายการเด็ก [ในเรื่องจึงมีมาสคอตเป็นตัวการ์ตูนน่ารักๆ] บางส่วนก็เกี่ยวพันกับเรื่องเพศด้วยเหมือนกัน แต่ผู้จัดการแผนกที่นี่เป็นผู้ชาย เขาจะค่อนข้างปากไวและมักจะพูดจาเชิงเหยียดเพศอยู่บ่อยๆ และก็มีเพียง จองจีอู นี่แหละที่เป็นผู้หญิงพูดจาโผงผาง [แต่ก็เรื่องจริงทั้งนั้น] จนผู้จัดการยังไม่กล้าจะต่อปากต่อคำ นางจึงดูโคตรเท่ในสายตาของจองจีฮู
และเมื่อวันนึง ความลับของเขาถูกจองจีอูล่วงรู้ ความสัมพันธ์ของทั้งสองจึงเดินมาถึงวันแปรเปลี่ยน
หนังค่อนข้างให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่อง BDSM มากพอสมควรเพราะจองจีอูผู้ที่แอบชอบพระเอกเนี่ย เธอพยายามจะเรียนรู้และเข้าใจโลกของเขา เพื่อจะได้พบประสบการณ์การเป็นนายหญิงได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งที่ในใจเธอไม่ได้เป็นคนมีรสนิยมแบบนั้น [คาดว่า เลือกลองทำเพราะชอบพระเอกแหละ]
แถมหนังก็ใส่แง่มุมความรู้สึกของกลุ่มคนที่มีรสนิยมประเภทนี้ในสังคมเกาหลีว่า จะต้องถูกมองยังไงบ้าง ใส่มาหมดจนอดเศร้าใจแทนพระเอกไม่ได้จริงๆ คนแบบเขาต้องแสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่ ทำตัวให้น่าพึ่งพิงและนับถือ ปิดบังภาพลักษณ์อีกด้านเอาไว้จนมิด น่าอึดอัดแทนไม่น้อย เมื่อต้องอยู่ร่วมในสังคมที่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ จนพระเอกมาเจอนางเอกเนี่ยแหละ
การผูกเรื่องก็ถือว่าทำได้สนุก เพราะมีเซอร์ไพรส์เข้ามาทำให้สงสัยว่ามันเป็นไปได้ยังไง จนสุดท้ายก็มาเฉลย
ความขัดแย้งของเรื่องที่เห็นได้ชัดเลย ก็คือ การที่นางเอกรู้สึกมีใจให้กับพระเอก แต่เธอกลับทำได้เพียงแสดงตนเป็นนายหญิง ทั้งๆ ที่ในใจต้องการคบเป็นแฟนกับเขา ขณะที่พระเอกเองก็เจ็บปวดจากการเปิดเผยตัวตนกับแฟนเก่าที่ไม่ยอมรับและหาว่าเขามีจิตผิดเพี้ยน ทำให้ไม่อยากก้าวไกลไปสู่คำว่าแฟน พัฒนาการทางความสัมพันธ์ที่ต้องเผชิญหน้ากับการรับรู้ของคนในสังคมที่ทำงาน
Lee Jun Young/อีจุนยอง ที่รับบทเป็น จองจีฮู นั้น ผมเองก็เพิ่งจะได้ดูผลงานของเขาเป็นครั้งแรก ซึ่งก็พบว่า เขาเล่นได้ไหลลื่นดี โดยเฉพาะในพาร์ทคอมิดี้ เขาทำได้ไม่เลวเลย ในเรื่อง ต้องเล่นเป็นหมาน้อยที่สวมปลอกคอ เห่าบ๊อกๆ นี่เล่นแบบทุ่มทั้งตัวไม่สนหล่อจริงๆ นะนี่ ขณะที่ Seohyun/ซอฮยอน ผมเองก็เคยดูผ่านจากซีรีส์เรื่องอื่นๆ มาบ้าง เรื่องนี้ เธอต้องเล่นเป็นหญิงที่มีความมั่นใจประมาณหนึ่ง สายตานั้นบอกว่าชอบแต่ต้องเก็บเอาไว้ แต่อีกเวลาหนึ่งก็ต้องกลายเป็นนายหญิงที่เรียนรู้เร็ว จนสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับผู้ชมอย่างเรา พาเราไปพบกับความอึ้งว่า พวกเธอเล่นบทแบบนี้เลยเหรอนี่
โดยรวมแล้ว หนังให้ทั้งข้อมูลความเข้าใจเกี่ยวกับ BDSM ใส่ทั้งประเด็นการคุกคามทางเพศในที่ทำงาน ประเด็นการให้เกียรติอีกฝ่าย ประเด็นการถูกผู้ชายหลอกมาตีสนิทเพื่อทำร้าย อีกอย่างที่ชื่นชมก็คือ เกาหลีมีความกล้า พยายามหยิบวัตถุดิบในสังคมที่ยังไม่เคยถูกพูดมาสร้างเป็นเรื่องเป็นราวได้ดี โดยเฉพาะเมื่อมองว่า บ้านเขายังเป็นสังคมอุดมปิตายิ่งกว่าบ้านเรา [ซึ่งก็ไม่ใช่ว่า บ้านเราจะดีไปกว่าเขานักหรอกนะ]
บางทีก็อยากเห็นหนังบ้านเราพูดถึงประเด็นอะไรได้หลากหลายแบบนี้บ้างเหมือนกัน
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | Love and Leashes / 모럴센스 / รักจูงรัก |
ผู้กำกับ | Park Hyeon Jin/พัคฮยอนจิน |
ผู้เขียนบท | Park Hyeon Jin/พัคฮยอนจิน, Gyeowool (webcomic) |
นักแสดง | Seohyun/ซอฮยอน, Lee Jun Young/อีจุนยอง |
แนว/ประเภท | Romance, Comedy |
เรท | |
ความยาว | 117 นาที |
ปี | 2022 |
สัญชาติ | เกาหลีใต้ |
เข้าฉายในไทย | 11 กุมภาพันธ์ 2022 |
ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย | Netflix |
คะแนนหนัง รักจูงรัก
พล็อตและบท - 7.9
การดำเนินเรื่อง - 7.5
การแสดง - 7.9
งานถ่ายภาพ - 7.5
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.5
7.7
Love and Leashes
หนังเกาหลีที่ต้องนับถือในความกล้าเล่า เรื่องราวของผู้ชายที่มีรสนิยมทางเพศที่คนในสังคมไม่ยอมรับ พวกเขาเลือกจะมีความสัมพันธ์ในแบบที่หาความสุขจากความเจ็บปวด โดยให้ฝ่ายหญิงเป็นนาย และฝ่ายชายเป็นผู้รับใช้ ทั้งคู่ต่างพบเจอความขัดแย้งในจิตใจตัวเอง พร้อมกันนั้น หนังก็ยังใส่ประเด็นต่างๆ อย่างเช่น การถูกคุกคามทางเพศในสถานที่ทำงาน เข้ามาด้วย ขณะที่เคมีระหว่างพระนางก็ค่อนข้างดีทีเดียว