ในช่วงสัปดาห์ที่ผู้คนกำลังหวานกับเทศกาลวาเลนไทน์ ก็มีหนังสไตล์อื่นให้ลองลิ้ม ผลงานหนังที่ไม่ได้ชมมานานจากผู้กำกับคนนี้ ได้เวลาที่จะกลับเข้าโรงหนังเมืองไทยมาให้ผู้ชมได้ลุ้นระทึกไปกับเรื่องราวเหนือจริงอีกครั้ง และคราวนี้ที่หลายคนบอกว่าเขาคืนฟอร์ม กับหนังเรื่อง ‘Knock at the Cabin’ ชื่อไทยแบบตรงตัว ‘เสียงเคาะที่กระท่อม’
หลังได้กลับมาติดตามผลงานของ M. Night Shyamalan อีกครั้งผ่านซีรีส์บนแอปเปิลทีวีพลัสอย่าง ‘Servant’ ก็ถึงเวลาที่จะได้มาพบกับผลงานภาพยนตร์กันดูบ้าง เรื่องราวลึกลับที่ชวนให้ผู้ชมนั่งตอบคำถามตัวเองอยู่ในใจ ผ่านมโนสำนึกผิดชอบชั่วดีที่มีอยู่ในจิต
กับหนังที่ยาวเพียง 100 นาทีเรื่องแรกในรอบหลายเดือนเรื่องนี้
เรื่องย่อหนัง ‘Knock at the Cabin’
เหวิน (Kristen Cui) คือเด็กน้อยเชื้อสายเอเชียคนหนึ่งที่กำลังมีความสุขอยู่กับการจับตั๊กแตนใส่ขวด เธอมาพักอยู่ในกระท่อมกลางป่ากับคู่รักเกย์ที่เป็นพ่อทั้งสองของเธอ เอริค (Jonathan Groff จากหนังเรื่อง ‘Hamilton’ และ ‘Frozen’) และ แอนดริว (Ben Aldridge จากซีรีส์เรื่อง ‘Our Girl’ และ ‘Fleabag’) แต่คนทั้งสามกำลังเผชิญกับการมาถึงของคนแปลกหน้าทั้งสี่
เลโอนาร์ด (Dave Bautista จากหนังเรื่อง ‘Guardians of the Galaxy’), เรดมอนด์ (Rupert Grint จากหนังตระกูล ‘Harry Potter’ และซีรีส์เรื่อง ‘Servant’),ซาบรีนา (Nikki Amuka-Bird จากหนังเรื่อง ‘Old’ และ ‘Jupiter Ascending’) และเอเดรียน (Abby Quinn จากหนังเรื่อง ‘Little Women’) คือกลุ่มคนที่มาเยือนกระท่อมหลังนี้ด้วยจุดประสงค์บางอย่าง พวกเขานำข่าวเกี่ยวกับวันสิ้นโลกมาบอกเล่า พร้อมทั้งแจ้งข่าวทั้งสามถึงตัดสินใจครั้งสำคัญของพวกเขา
รีวิวหนัง ‘เสียงเคาะที่กระท่อม’
เป็นหนังที่ไต่ระดับความระทึก ด้วยเพราะมันเริ่มต้นที่ฉากสุดอบอุ่นของกระท่อมกลางป่าที่พ่อทั้งสองคนของเหวินปล่อยให้เธอออกมาเล่นนอกบ้าน จับตั๊กแตนไปก็คุยกับตั๊กแตนไป ก่อนจะได้พบกับเลโอนาร์ด บทสนทนานั้นนุ่มนวลแต่ก็แฝงความไม่น่าไว้ใจอยู่ในที ก่อนที่เจ้าของชั่วคราวของกระท่อมหลังนี้จะได้เจอโฉมหน้าของทั้งสี่คน
เอาเข้าจริง แค่ในตัวอย่างก็เล่าเรื่องไปเยอะพอสมควรแล้วแหละ คงพอจะพูดได้แหละเนอะว่า ทั้งสี่คนมาพร้อมอาวุธในมือ เมื่อดูทีท่าแล้วก็พอจะรู้สึกได้ว่าพวกเขาเป็นคนดีมีความสุภาพ พวกเขาเดินทางมาเพื่อแจ้งข้อเสนอให้ทั้งสามเลือกตัดสินใจสละ 1 ชีวิตของใครสักคนในครอบครัว เพื่อจะช่วยคนทั้งโลกให้รอดจากเหตุการณ์วันสิ้นโลก
หนังเรื่องนี้มีแต่เรื่องของ ‘การเลือก’ หนังเลือกที่เล่าเรื่องขอคู่เกย์ที่เลือกจะเลี้ยงดูเด็กน้อยวัยเกือบ 8 ขวบที่เป็นผู้หญิง ทั้งเลือกที่จะให้พวกเขาเป็นผู้ถูกเลือกของผู้มาเยือนทั้งสี่ แต่หนึ่งในสองคุณพ่อบอกเองว่า “เรามีทางเลือกเสมอ” แต่ในที่สุด ชีวิตของพวกเขาก็เดินมาถึงทางหลายแพร่ง พวกเขาต้องเลือกทำสักทางโดยที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่เหล่าผู้มาเยือนทั้งสี่บอกเล่านั้น มันเป็นคำขู่ที่มีความจริงหรือเป็นเรื่องเลอะเทอะกันแน่
ในอีกมุมหนึ่ง มันก็เป็นหนังที่พาผู้ชมไปร่วมครุ่นคิดและตอบคำถามไปพร้อมๆ กับครอบครัวนี้ เกี่ยวกับวันสิ้นโลกที่กำลังจะมาถึง ว่าเมื่อถึงวันที่คุณต้องตัดสินใจ คุณจะเสียสละเพื่อมนุษยชาติหรือจะเลือกครอบครัวของคุณเอง
เหมือนจะรู้ว่า เรื่องราวในหนังนั้นมันไม่มีอะไรมากนัก ในระหว่างทางจึงบอกเล่าเหตุการณ์แฟลชแบ็กสลับไปด้วย พร้อมกับใส่บางสิ่งที่พาให้คนดูไขว้เขว ซึ่งก็ไม่ต่างกับตัวละคร พวกเขาเองก็ไม่รู้ว่า สิ่งที่สี่คนพูดนั้นเชื่อถือได้แค่ไหน ท่าทีที่ดูเป็นคนเจตนาดีแบบนั้นเบื้องหลังคืออะไร สถานการณ์แห่งความไม่น่าไว้ใจที่เดาตอนจบได้ไม่กี่หนทาง
นับตั้งแต่จุดเริ่มที่อบอุ่น ที่นำไปสู่ช่วงเวลาของการบอกกล่าวเงื่อนไขที่ชวนตะขิดตะขวงแกมหวาดหวั่น หนังอาจจะดูไม่ชวนลุ้นสักเท่าไหร่ในช่วงแรก แต่พอผ่านครึ่งเรื่องไปได้ก็ดูเหมือนหนังจะเอาเราอยู่มากขึ้น ใช่! สไตล์ไต่ระดับของเอ็มไนท์กลับมาแล้ว แม้มันจะยังคงมีรสชาติเดิมๆ ที่เราคุ้นเคย
สำหรับ เดฟ บาติสตา เขากำลังพิสูจน์ตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าว่าสามารถแสดงในบทบาทที่หลากหลายได้ หลังวาดลวดลายใน ‘Glass Onion’ เขาก็พาตัวเองมาสู่อีกระดับกับหนังเรื่องนี้ เช่นเดียวกับ Rupert Grint ที่สลัดคราบรอน วีสลีย์ จนหมดเกลี้ยง หลังร่วมงานเอ็มไนท์ใน ‘Servant’ เขาก็อีกงานหนึ่งแม้บทจะมีไม่เท่าคนอื่นแต่ก็ไม่อาจมองข้าม รวมไปถึงนักแสดงเด็กหน้าใหม่อย่าง Kristen Cui ที่เล่นได้น่ารักน่าชังดีไม่น้อย
หนังหยิบเอาเรื่องหายนะของโลกที่อาจมาถึงในวันข้างหน้า กับไอเดียของผู้ที่ส่งสารเตือนมนุษย์พร้อมถามว่าพวกเขาจะเลือกอะไร เลือกตัวเอง คนที่รัก หรือเลือกจะทำเพื่อมนุษยชาติทั้งมวล เป็นคำถามที่คนดูทุกคนต้องครุ่นคิดและตอบมันอยู่ในใจ เราจะเชื่อคำเตือนนั้นดีไหม เขาเตือนเพราะมีความมุ่งหมายอื่นแอบแฝงหรือเปล่า ใจหนึ่ง เราอาจเชื่อว่าหายนะนั้นต้องมาถึงในสักวัน แต่เราจะยอมเสียสละเพื่อคนอื่นดีไหม หรือจะเอาแค่ตัวเองรอดก่อนดี หนังตั้งคำถามไว้ให้เราตอบทั้งหมด
เพียงแต่ทุกอย่างมันโจ่งแจ้งเกินไป จนคนดูอย่างเราทำได้เพียงลุ้นเพราะรู้สึกได้ว่าในหนังนั่นมันเป็นแค่โลกสมมุติ
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | Knock at the Cabin / เสียงเคาะที่กระท่อม |
กำกับ | M. Night Shyamalan |
เขียนบท | M. Night Shyamalan, Steve Desmond, Michael Sherman |
แสดงนำ | Dave Bautista, Jonathan Groff, Ben Aldridge, Rupert Grint, Kristen Cui, Nikki Amuka-Bird |
แนว/ประเภท | สยองขวัญ, ลึกลับ, ระทึกขวัญ |
เรท | R |
ความยาว | 100 นาที |
ปี | 2023 |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
เข้าฉายในไทย | 2 กุมภาพันธ์ 2023 |
ผลิต/จัดจำหน่าย | Universal Pictures, Blinding Edge Pictures, FilmNation Entertainment, UIP |
เสียงเคาะที่กระท่อม
พล็อตและบท - 6.8
การแสดง - 7.1
การดำเนินเรื่อง - 6.9
เพลงและดนตรีประกอบ - 6.8
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชัน - 7
6.9
Knock at the Cabin
เหมือนจะเป็นหนังที่รู้ให้น้อยที่สุดยิ่งดี การมาอ่านบทรีวิวอาจพาให้สนุกกับหนังได้น้อยลงด้วยซ้ำ แต่อย่างว่า ตัวอย่างก็เล่าหนังไปเยอะแล้ว เอาเป็นว่า มันเป็นหนังพาลุ้นได้เบาบางในครึ่งแรก แต่ไต่ระดับจนระทึกเต็มที่ในครึ่งหลัง เรื่องราวที่ตั้งคำถามให้คนดูตอบไปในใจตามเรื่องของหนัง ว่าถ้าอนาคตของมนุษยชาติอยู่ในกำมือของคุณ คุณจะเลือกอะไร