รีวิวหนัง It Ends with Us ร่องรอยแห่งรักเรา | เลือกเอา จะตัดใจหรือจมปลัก

หนังดรามาหลายต่อหลายเรื่องเลยแหละที่สร้างขึ้นมาจากนิยายขายดี สิ่งที่ทำให้มันขายดี ก็คงเพราะมันหยิบเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้จริง อยู่ในกระแสการถกเถียงของผู้คน และเป็นเรื่องที่คนอ่านรู้สึกตอบโจทย์ที่อยู่ในใจ อย่างเช่นเรื่องนี้ ‘It Ends with Us’ หรือชื่อไทย ‘ร่องรอยแห่งรักเรา’ จากนิยายดราม่าโรแมนติกที่ขายดี เล่าเรื่องความรุนแรงในครอบครัว และทางเลือกของคนเพศหญิง ตอนนี้ มันได้ถูกนำมาดัดแปลงสร้างเป็นภาพยนตร์แล้วล่ะครับ

ความเห็นส่วนตัวของนายแพท

หยิบนิยายขายดีมาดัดแปลงให้กลายเป็นหนังใหญ่ เล่าเรื่องดราม่าของหญิงสาวที่เคยเจอเรื่องท็อกซิกจนเป็นแผลในใจสมัยเด็ก ย้ายมาที่ใหม่แต่ต้องมาเจอว่าสามีตนก็สร้างภาวะท็อกซิกนั่นเช่นกัน แถมยังเจอแฟนเก่าเข้ามาให้ปวดหัวอีก เรื่องที่ดูน้ำเน่าและมันก็เกิดขึ้นได้จริง เพลงเพราะ ภาพสวยดี นางเอกก็สวยมากด้วย หนังไม่ได้บอกว่า เพศชายจะร้ายอย่างไร้ที่มา พวกเขาก็เจ็บปวดอยู่เช่นกัน หนังที่อาจเดินเรื่องอย่างเนือยๆ แต่ดูๆ ไปก็พบว่ามันทำเราน้ำตาไหลพรากได้เหมือนกัน

ที่สำคัญ คือ หนังให้แง่คิดในการทำเพื่อตนเอง แทนที่จะจมปลักอยู่กับความเจ็บปวดแบบเดิมๆ

เรื่องย่อหนัง ‘It Ends with Us’

หนังมันว่าด้วยเรื่องราวของ ลิลลี่ บลูม (รับบทโดยดาราสาวสุดฮอต เบลค ไลฟ์ลี่ จากหนัง ‘A Simple Favor’) หญิงสาวผู้เคยผ่านอดีตอันเจ็บปวดและบาดแผลในใจสมัยวัยเยาว์ ล่าสุด เธอเพิ่งสูญเสียคุณพ่อที่เป็นนายกเทศมนตรีไป และเธอก็ย้ายมาอยู่ด้วยตัวเองในเมืองบอสตัน ที่ที่เธอได้ทำความฝันให้เป็นจริง อย่างการเป็นเจ้าของร้านขายดอกไม้ ธุรกิจเล็กๆ โดยมี อลิซา (Jenny Slate ผู้พากย์เสียงกิดเจ็ตในหนัง ‘The Secret Life of Pets’) เพื่อนคนใหม่ที่เข้ามาช่วยเธอดำเนินกิจการร้านแห่งนี้

การมาอยู่ที่นี่ ก็ทำให้เธอได้พบกับศัลยแพทย์หนุ่มเจ้าเสน่ห์อย่าง ไรล์ คินเคต (จัสติน บัลโดนี่ จากซีรีส์ ‘Jane the Virgin’) ทั้งสองก็ตกหลุมรักซึ่งกันอย่างรวดเร็ว เร่าร้อน และลึกซึ้ง ก่อนที่ลิลลี่จะเริ่มมองเห็นตัวตนของเขาอีกมุมหนึ่ง เป็นมุมที่ตอกย้ำให้เขานึกถึงชีวิตของลิลลี่ในอดีต

และมันก็ไม่เท่านั้น เมื่อการมาอยู่บอสตันของเธอ นอกจากจะทำให้เธอได้แฟนคนใหม่แล้ว มันก็ทำให้เธอได้พบเจอกับแฟนเก่าอย่าง แอตลาส คอร์ริแกน (แบรนดอน สเกล็นนาร์ จากหนังเรื่อง ‘Midway อเมริกา ถล่ม ญี่ปุ่น’) รักแรกของลิลลี่สมัยยังเป็นวัยรุ่น ซึ่งนั่นก็เป็นต้นเหตุให้ความสัมพันธ์ของเธอและไรล์ต้องสั่นคลอน และเธอจำเป็นต้องตัดสินใจเลือกในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับอนาคตของตัวเอง

รีวิวหนัง ‘ร่องรอยแห่งรักเรา’

นี่มันคือเรื่องของเธอ คือการเดินทางของ ลิลลี่ บลูม หญิงสาวที่เติบโตมาในครอบครัวที่คุณพ่อของเธอสร้างแผลในใจ หลังได้เห็นความรุนแรงที่คุณพ่อกระทำต่อคุณแม่มานานปี เธอไม่เคยเข้าใจว่าทำไมแม่ถึงยังรักและอยู่กับพ่อ ไม่เคยคิดหย่า จนกระทั่งเขาตายจากไปก่อน แต่เมื่อเธอโตขึ้นมา เธอกลับต้องกลายเป็นคนที่พบเจอกับมันซะเอง

ในเรื่อง ลิลลี่คบหาผู้ชายที่ลึกซึ้งจนเรียกว่าแฟนได้ 2 คนแล้ว คนแรกคือ แอตลาส หนุ่มที่เธอคบหาสมัยวัยรุ่นตอนที่ยังอยู่กับพ่อแม่ และเพราะเหตุบางอย่าง ทั้งสองก็ไม่ได้คบและห่างเหินจากกันไป จนวันที่เธอย้ายมาอยู่บอสตันเพื่อสานฝันเป็นเจ้าของธุรกิจร้านดอกไม้ เธอก็ได้พบกับศัลยแพทย์หนุ่มรูปหล่อ ที่จุดไฟรักให้ลุกโชนได้อย่างรวดเร็ว จนตัดสินใจแต่งงานกัน และจากนั้น เธอก็เริ่มจะพบความลับที่เธอไม่เคยรู้เกี่ยวกับเขา

หนังมีความยาว 2 ชั่วโมง 10 นาที แม้จะดูว่ายาว แต่เอาเข้าจริง เรื่องราวก็แน่นเอี้ยดพอควร ส่วนหนึ่ง มันให้เวลากับพัฒนาความสัมพันธ์ของลิลลี่และไรล์ สลับไปกับเรื่องรักครั้งอดีตของลิลลี่และแอตลาส และต้นเหตุของบาดแผลในใจลิลลี่ที่เกิดจากพ่อของเธอ หลายคนน่าจะติดใจในการบอกเล่าเรื่องราวบนเตียง แต่สำหรับนายแพท มองว่ามันก็มีเข้ามาเพื่อเสริมให้เราได้ซึมซับในทุกระดับของความสัมพันธ์นั่นแหละ

สิ่งที่ควรสนใจกว่า ก็คือ เรื่องราวความรักแบบสามเส้า ที่ลิลลี่พบเจอรักครั้งใหม่แต่กลายกลับเป็นว่ารักครั้งเก่าดันกลับมาอีกครั้ง และมันสร้างความยุ่งยากทั้งภายในใจและภายนอกหัวใจ ฟังเผินๆ มันอาจเป็นเรื่องรักน้ำเน่า แต่มันกลับรู้สึกว่าเกิดขึ้นได้จริงและอาจเกิดได้บ่อยครั้งด้วย ที่เพิ่มเติมคือ การที่เราต้องพบเจอเหตุรุนแรงที่มาจากฝ่ายชาย และทำให้ฝ่ายหญิงต้องรู้สึกหวาดกลัว และรู้สึกไม่ปลอดภัย

เอาจริงๆ ตัวละครแต่ละตัวต่างก็มีแผลในใจเป็นของตัวเอง ใครโดนสะกดโดนก็จะไปไม่เป็นและน้ำตาร่วงด้วยกันทั้งนั้น การดูหนังเรื่องนี้แล้ว รู้สึกอินก็อาจจะเพราะมีส่วนใดส่วนหนึ่งที่เคยเจอกับตัวเองมาก่อน หรือเคยเจออะไรที่คล้ายๆ กันแบบนั้น

ตัวละครอย่างแม่และลิลลี่ คือคนที่พบเจอในสิ่งเดียวกัน แต่พวกเธอเป็นคนละคน เกิดกันต่างยุค ความคิด เหตุผล และวิธีเดินทางหาคำตอบย่อมจะแตกต่างกัน ซึ่งต่างคนต่างก็มีเหตุผลเป็นของตนเอง เช่นเดียวกับคนดูที่อาจประสบกับเหตุคล้ายๆ กันนี้ และก็อาจเลือกคำตอบให้กับตนเองในทางที่เหมือนหรือต่างจากพวกเขาก็ได้

ขณะเดียวกัน หนังก็เลือกที่ไม่มองใครหรือเพศไหนในทางร้ายไปเสียทั้งหมด เพราะยังมองเห็นถึงความพยายามในการหาคำตอบของพฤติกรรม ต่างคนต่างก็มีแผลในใจที่ถูกสะกิดเมื่อไหร่ก็พร้อมจะสะอึกและเสียน้ำตาด้วยกันทั้งนั้น หนังจึงพยายามชี้ให้เห็นที่มาที่ไป (แม้อาจจะยังผิวเผิน) และปลอบประโลมไปในคราวเดียวกัน

Taglines: Sometimes it is the one who loves you who hurts you the most.

คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า เบลค ไลฟ์ลี่ ยังคงเป็นนางเอกที่สวยคมบาดใจ แต่ก็คงมีหลายคนที่ปันใจเพราะเห็นกล้ามเป็นมัดๆ ของพระเอกอย่าง จัสติน บัลโดนี่ เขาเป็นทั้งนักแสดงนำและผู้กำกับของหนังเรื่องนี้ ที่หยิบเอาผลงานของนักเขียน คอลีน ฮูเวอร์ และดัดแปลงโดย คริสตี้ ฮอลล์ ที่ต่างก็เป็นผู้หญิง เรื่องราวจึงออกมาเป็นมุมคิดของผู้หญิง แต่จัสตินที่เป็นผู้ชายก็ถ่ายทอดมันออกมาได้อย่างเข้าใจ

ดูหนังแล้ว ผู้ชมคงได้แง่คิดเรื่องของความสัมพันธ์ เหตุผลของพฤติกรรมที่ทำให้เราเข้าใจผู้อื่น และที่สำคัญ เราต้องรู้สึกเลือกตัดสินใจด้วยเหตุผลที่ใช่ที่สุดด้วยแหละครับ

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง