เอาเข้าจริงๆ ยอมรับกับตัวเองว่าช่วงนี้ไม่ค่อยจะมีเวลาออกไปดูหนังนอกบ้านมากนัก ทุกครั้งที่จะเข้าโรงหนังจึงต้องเลือกแล้วว่าหนังเรื่องนี้ควรค่าแก่การเดินทางออกไปข้างนอก วันนี้ ผมมองว่าหนังไทยแนวผีผสมโรแมนซ์ ‘แสงกระสือ’ เรื่องนี้มีชื่อภาษาอังกฤษที่บ่งบอกตัวตนของหนังอย่าง ‘Inhuman Kiss’ ด้วยนะครับ
หนังเรื่องนี้กำกับโดยหนึ่งในผู้กำกับที่เคยกำกับหนัง ‘Last Summer ฤดูร้อนนั้น ฉันตาย’ ดูตัวอย่างแล้วพบว่าทำซีจีมาดีและสนใจในกลิ่นอายความเป็นหนังรักที่ซ่อนอยู่ในความเป็นหนังผีกระสือ เลยตามมาดู
เรื่องย่อหนัง ‘แสงกระสือ’
เรื่องราวที่เล่าถึงอดีตของบ้านเมืองที่อยู่ไม่ไกลจากพระนครนัก สมัยนั้นยังมีสงครามคุกรุ่นกันอยู่ เรื่องของเพื่อนในวัยเด็กที่เติบโตมาด้วยกัน แต่วันหนึ่งเพื่อนบางคนไปอยู่บางกอกเพิ่งจะกลับมาเจอกันตอนโต
สาย (ภัณฑิรา พิพิธยากร จากซีรีส์เรื่อง ‘เด็กใหม่’ และหนังเรื่อง ‘แอน Faces of Anne’) เด็กสาวแรกรุ่นในหมู่บ้านอันห่างไกล ผู้ค้นพบความจริงว่า เธอมิได้เป็นมนุษย์เหมือนเช่นคนอื่น หากแต่เธอได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าพันธุ์เก่าแก่ในตำนานที่ถ่ายทอดกันผ่านทางน้ำลาย และเผ่าพันธุ์นั้นคือ…. “กระสือ”
น้อย (โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์ จากซีรีส์เรื่อง ‘เคว้ง’ และ ‘Project S The Series’) เด็กหนุ่มคนเดียวในหมู่บ้านที่รู้ความจริงและพยายามปกป้องเธอจากการไล่ล่าของชาวบ้านที่หวาดกลัวผีกระสือ ความใกล้ชิดของทั้งสองเริ่มก่อตัวขึ้นเป็นความรัก ขณะที่ เจิด (สพล อัศวมั่นคง จากหนังเรื่อง ‘อโยธยา มหาละลวย’) เพื่อนอีกคนก็แสดงตนมาตั้งนานว่าก็หลงรักสายอยู่เช่นกัน ความรักแบบสามเส้าของมนุษย์กับกระสือจริงเริ่มต้นขึ้น
ปัญหามิได้เพียงแค่เรื่องหัวใจ แต่ยังต้องเจอการไล่ล่าของชาวบ้านอีกกลุ่มที่นำโดย ทัด (สุรศักดิ์ วงษ์ไทย) กลายเป็นอีกหนึ่งตัวแปรของความรักสามเส้า
รีวิวหนัง ‘Inhuman Kiss’
สิ่งที่ดูแปลกใหม่และน่าสนใจสำหรับหนังไทยเรื่องนี้มีหลายสิ่งนะครับ หนึ่งคือ การบอกเล่าเรื่องราวผีๆ ของไทยในมุมมองใหม่ๆ นำตำนานกระสือกระหังมาเล่าในสไตล์ใหม่ ใส่เรื่องรักของวัยแรกรุ่นเข้าไป แม้จะยังเก็บบริบทของไทยในยุคเก่าก่อนเอาไว้อยู่ และยังเก็บเรื่องราวของการสืบทอดด้วยน้ำลายเอาไว้อยู่
มันกลายเป็นหนังสยองขวัญที่ไม่ได้น่ากลัวมากมายนัก เน้นเล่าเรื่องความรักระหว่างวัยรุ่นที่มีความเป็นกระสือเข้ามาผสมผสาน โดยใช้ดาราที่หน้ายังไม่ซ้ำมาช่วยให้คนดูได้รู้สึกถึงความไม่ซ้ำใคร
งานภาพก็ถือว่าไม่เลวเลย ถ่ายภาพออกมาได้สวย มีหลายมุมที่ถ้าจับมาเป็นช็อตถือว่าเลือกมุมได้ดี โลเกชั่นต่างๆ ก็เข้าที บ้านร้างที่น่ากลัว โรงอนามัย รวมไปถึงห้องหับ ที่สำคัญก็หนังใช้ซีจีมามีส่วนร่วมค่อนข้างมาก แถมยังทำได้ดีเสียด้วย ไม่ว่าจะเป็นซีจีของกระสือที่กำลังจะแยกร่าง กระสือที่ถอดหัวออกมาแล้ว มีแสงสว่างสีแดง และมีรยางค์ขยับไปมา ทั้งยังมีความสามารถในเชิงบู๊ได้อีกต่างหาก แม้บางจุดจะดูรู้ว่าเป็นซีจีก็ตาม
หนังใส่ความขัดแย้งในตัวละครเข้าไปพอสมควรทีเดียว ทั้งสายที่กลายเป็นกระสือทั้งที่ตัวเองเป็นพยาบาล ต้องอยู่ใกล้เลือดทั้งที่ตัวเองก็ชอบของสดๆ เจิดและน้อย สองคนที่รักในคนเดียวกัน จากคนกลัวผีในวัยเด็ก พอโตมาก็กลับไม่กลัว อีกคนก็สลับกันไปเลย นอกจากนี้ บทยังเพิ่มความซับซ้อนด้วยการไม่บอกเล่าในบางจุดแล้วค่อยมาเฉลยเอาทีหลัง กลายเป็นเซอร์ไพรส์ตลอดเรื่องราว
หนังแทรกใส่ความขัดแย้งให้กับตัวละครตลอดเวลา อย่างเช่นความรู้สึกของสายที่ต้องเลือกระหว่างเจิดกับน้อย ในวันที่เธอต้องตัดสินใจว่าจะจากหมู่บ้านไปกับน้อยดี หรือจะยังอยู่ตามคำขอร้องของเจิด เป็นต้น
ระหว่างดูอาจจะพบว่า หนังเดินเรื่องได้สนุกดี แต่ก็อาจจะมีที่อ้อยอิ่งอยู่บ้าง ในแง่ของนักแสดง ผมชื่นชมในการแสดงของมินนี่ที่เล่นเป็นสาย หน้าตาเธอนั้นเป็นทั้งมนุษย์ที่สวย และเป็นได้ทั้งกระสือที่ทั้งน่ากลัวและน่าสงสาร การแสดงที่สื่อสายตาและอารมณ์ได้ดี แต่ผมกลับไม่อินอะไรมากนักกับบทดราม่าที่มีสองหนุ่มร่วมแสดง หลายคนอาจเสียน้ำตากับเรื่องรักที่น่าเศร้า แต่ที่สังเกตตัวเอง พบว่าไม่มีน้ำตาแม้เพียงเอ่อๆ
อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีเรื่องราวบางส่วนที่ชวนตะขิดตะขวงหรือสงสัยทว่าหนังก็ยังมิได้ให้คำตอบที่แจ่มชัดกับเรา เหมือนจะไม่ได้สนใจในจุดนั้น หรืออาจจะไม่มีเวลาพอจะให้กับมัน ในส่วนของความรักระหว่างหนุ่มสาวนั้น การเล่าค่อนข้างกระโดดอยู่พอสมควร พอจบวัยเด็กก็ก้าวสู่วัยรุ่นเลยโดยไม่ได้มีเรื่องราวระหว่างทาง อาจจะทำให้ไม่อินพอว่า พวกเขารักกันยังไง
สิ่งที่น่าชื่นชม ก็คือ บทที่เขียนให้ออกมาสนุกในการติดตาม ซีจีที่มีคุณภาพดีมีความละเอียดลออแสดงถึงความตั้งใจอย่างสูง มุมมองการถ่าย การจัดแสงที่เข้าขั้นสวย หยิบจับตำนานกระสือมาเล่าในมุมมองใหม่ๆ ชอบในการหยิบเรื่องราวความสัมพันธ์ที่ขมวดปมตอนเริ่มและตอนจบ โศกนาฎกรรมของบางคนที่ไม่อาจเลือกโชคชะตา
แม้ไม่ได้ถึงขั้นสมบูรณ์แบบ แต่นับได้ว่าเป็นหนังไทยที่เข้าขั้นดีจนต้องขอให้ลองไปติดตามกันดู…ด้วยตาตัวเอง
ภาพยนตร์เรื่อง: แสงกระสือ / Inhuman Kiss
ผู้กำกับภาพยนตร์: สิทธิศิริ มงคลศิริ
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล
นักแสดงนำ: โอบ โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์, มินนี่ ภัณฑิรา พิพิธยากร, เกรท สพล อัศวมั่นคง, เอ็ม สุรศักดิ์ วงษ์ไทย
ความยาว: 122 นาที
แนว/ประเภท: Drama, Horror, Romance, Action
อัตราส่วนภาพ:
ปี: 2019
ประเทศ: ไทย
เรท: ไทย/น15+, MPAA/
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 14 มีนาคม 2019
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม, เอ็ม พิคเจอร์ส, ซีเจ เมเจอร์, นอร์ทสตาร์ สตูดิโอ
แสงกระสือ
แสงกระสือ Inhuman Kiss - 8
8
Inhuman Kiss
หยิบเอาตำนานกระสือมาเล่าใหม่ในมุมความรักความสัมพันธ์ของวัยรุ่น เล่าเรื่องได้น่าติดตาม มีอะไรให้รู้สึกคาดไม่ถึงได้ตลอด มินนี่ผู้เป็นนางเอกเล่นไว้ได้ดีมาก น่าเสียดายอยู่บ้างที่ไม่อินถึงขั้นเสียน้ำตา แต่หนังโดดเด่นทั้งเทคนิคพิเศษ งานถ่ายภาพ จัดแสง ไปจนถึงดนตรีประกอบ