โลกนี้มีนักแสดงอยู่มากมายที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้กำกับ บ้างก็ไปได้สวย บ้างก็ไปได้เสีย และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่นายแพทจะได้ลิ้มรสชาติหนังที่กำกับโดยนักแสดงชื่อดังจากเกาหลี นี่คือผลงานครั้งแรกของเขาในฐานะผู้กำกับเลยเชียวนะ เป็นหนังที่ได้ข่าวว่ากลายเป็นกระแสอย่างมากในบ้านเกิด เพราะก้าวขึ้นอันดับ 1 ในบ็อกซ์ออฟฟิศของเกาหลีมา 3 สัปดาห์ติดๆ แล้ว และหนังเรื่องนั้นก็คือ ‘Hunt’ ชื่อไทย ‘ล่าคนปลอมคน’ นั่นเองแหละครับ
ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ไม่ใช่ใคร เขาคือ อีจองแจ/Lee Jung Jae นักแสดงนำจากซีรีส์เรื่อง ‘Squid Game’ นั่นแล แต่นอกจากรับหน้าที่กำกับแล้ว เขาก็ยังแสดงนำด้วย ประกบและเชือดเฉือนกับพระเอกอีกคน จองอูซอง/Jung Woo Sung ผู้ได้รับบทบาทที่เขามองว่า หล่อ เท่ ที่สุดเท่าที่เคยได้แสดงมา เล่นเอาอยากดูมากขึ้นทุกทีทุกที
หนังเข้าฉาย 1 กันยายนนี้แล้วล่ะทุกคน
เรื่องย่อหนัง ‘Hunt’
มันคือเรื่องราวสุดเข้มข้น เมื่อสองมือฉกาจอย่าง พัคพยองโฮ (อีจองแจ/Lee Jung Jae จากหนังเรื่อง ‘Deliver Us From Evil’ , ‘Along With the Gods’ ทั้งสองภาคและซีรีส์เรื่อง ‘Squid Game’) หัวหน้าฝ่ายกิจการต่างประเทศของหน่วยสืบราชการลับเกาหลีใต้ และ คิมจองโด (จองอูซอง/Jung Woo Sung จากหนังเรื่อง ‘Innocent Witness’) ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการภายในประเทศ ที่ต้องมาประจัญหน้าด้วยภารกิจเดียวกัน
นอกจากทั้งคู่จะถูกมอบหมายให้ปฎิบัติการล่าตัวสายลับเกาหลีเหนือโค้ดลับ ‘ทงลิม’ ที่แฝงตัวอยู่ในองค์กรแล้ว พวกเขาก็ต้องสกัดแผนลอบสังหารผู้นำให้ได้ก่อนที่เกาหลีจะลุกเป็นไฟไปพร้อมกันด้วย ทว่าต่างฝ่ายต่างกลับต้องมาเค้นสืบเรื่องเบื้องหลังของอีกฝ่ายเสียเอง
นอกเหนือสองตัวละครหลัก ก็ยังมีตัวละครรองๆ ไปร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็น เจ้าหน้าที่ระดับสูงฝ่ายกิจการต่างประเทศผู้ช่วยสาวของหัวหน้าพัคอย่าง บังจูคยอง (Jeon Hye Jin/จอนฮเยจิน จากหนังเรื่อง ‘Ashfall’, ซีรีส์เรื่อง ‘Stranger 2’ และ ‘Search: WWW’) หรือยูจอง (โกยุนจอง จากซีรีส์เรื่อง ‘Sweet Home’,‘Law School’ และนักซูใน ‘Alchemy of Souls’) นักศึกษาสาวที่หัวหน้าพัคคอยช่วยเหลือแม้ไม่ใช่ลูกสาวของตัวเอง รวมไปถึง จางชอลซอง (Heo Sung Tae/ฮอซองแท จากหนังเรื่อง ‘Rampant’, ซีรีส์เรื่อง ‘Squid Game’ และ ‘Adamas’) เจ้าหน้าที่กิจการภายในประเทศที่อยู่ในทีมของหัวหน้าคิมด้วย
รีวิวหนัง ‘ล่าคนปลอมคน’
แค่ตัวอย่างก็คงพอจะเดาได้ว่าหนังเรื่องนี้จะพาผู้ชมได้ระทึกไปกับเรื่องราวการสืบค้นและการปะทะดวลด้วยปืนที่อาจทำให้หัวใจเต้นระรัวไม่ยอมหยุดพัก และเมื่อได้ดูหนังเต็มๆ ก็พบว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ไม่น่าแปลกใจเลยที่หนังจะโกยรายได้สูงอย่างต่อเนื่องในประเทศเกาหลี ก่อนจะข้ามมาฉายถึงที่ประเทศไทย
เล่าเรื่องเกาหลียุค 80s แต่เหมือนไทยในปัจจุบันเฉยเลย
หนังเรื่องนี้มีหลายช่วงเลยที่หยิบเอาเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริงในเกาหลี นั่นคือเหตุการณ์สังหารหมู่กวังจูในช่วงปี 1980 การประท้วงของกลุ่มนักศึกษาที่เรียกร้องประชาธิปไตยก่อนถูกรัฐบาลเผด็จการสั่งให้ปราบปราม ทำให้เกิดการนองเลือด มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บและสูญหายเป็นจำนวนมาก ทั้งยังถูกใส่ความว่าพวกเขาเป็นสายลับเกาหลีเหนือ เรื่องพวกนี้ก็ถูกหยิบยกมาเล่ากันหลายต่อหลายครั้งในซีรีส์เกาหลีเรื่องต่างๆ ที่เราเคยได้ดู
บทสนทนาในนั้นก็ดูเหมือนจะเอามาอิงกับหลายๆ สถานการณ์ในบ้านเราได้อย่างแนบเนียน ดูหนังไปก็อาจจะขำหึหึไป ราวกับว่า ไทยไปลอกเลียนสถานการณ์จากเกาหลีมา…ซะงั้น
เฉือนคม โคตรเดือด
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับภาพยนตร์เรื่องแรกของอีจองแจก็คือ บทหนังและการดำเนินเรื่อง เพราะมันคือการเฉือนคมกันไปมาระหว่างหัวหน้าหน่วยข่าวกรองคนสำคัญจากสองหน่วยงานที่พยายามสืบหาสายลับเกาหลีเหนือที่แทรกซึมและแอบซ่อนตัวอยู่ในประเทศ และโดยเฉพาะอยู่ในองค์กรของพวกเขาเอง เท่านั้นมันยังไม่พอ พวกเขายังสงสัยกันเองอีกต่างหาก พลิกไปพลิกมาจนผู้ชมอย่างเราๆ คาดเดาไม่ถูกเลยว่า เป็นใครกันแน่ และเรื่องราวจะลงเอยอย่างไร
ตลอดทั้งเรื่อง หนังดำเนินไปอย่างดุเดือด แถมยังไม่ยอมผ่อน หลายฉากมีการดวลปืนกันหูดับตับไหม้ บ้างก็วิ่งวุ่นไล่เสี่ยงตาย แทบไม่มีให้หยุดพักหายใจ
เท่านั้นไม่พอ หนังเรื่องแรกที่อีจองแจกำกับยังมีเรื่องราวที่พาดพิงถึงประเทศไทยซะอีก เมื่อเหตุการณ์ในหนังมีระบุว่าเกิดขึ้นในกรุงเทพฯ หนังพยายามเซ็ตฉากให้เหมือนว่าเป็นสักที่หนึ่งในบ้านเรา เขาคงพยายามให้มันดูเหมือนเป็นเมืองไทยนั่นแหละ แม้จะรู้สึกแปลกๆ แต่ก็ยอมรับครับว่า ฉากนี้เขาทุ่มทุนและวินาศสันตะโรไม่ไม่น้อยเลย
งานกำกับครั้งแรกของอีจองแจ
ต้องบอกว่า หนังเดินเรื่องเร็วสุดๆ ชนิดที่ถ้าคุณสมองช้า จดจำชื่อตัวละครไม่ทัน มีสิทธิ์หลุดจากหนังไปได้บางช่วง แถมบทยังมีพลิกผันไปมา หักเหลี่ยมเฉือนคมกันไม่หยุดหย่อน ทั้งยังต้องอาศัยความเข้าใจเรื่องเหตุบ้านการเมืองของแดนกิมจิมาเป็นส่วนประกอบอีก แต่แม้จะไม่ทันในส่วนนั้น แต่ก็ยังคงมันและเดือดกับเรื่องราวในหนังได้อยู่
งานนี้ ไม่ได้มีแค่นักแสดงที่บอกไป เพราะในหนังยังมีนักแสดงที่คุ้นหน้าคุ้นตาเพิ่มมาอีกหลายคน กลายเป็นหนังที่ฟอร์มใหญ่ไม่พอ ยังดึงเอานักแสดงตัวท็อปมาร่วมงานได้ด้วย
ถือว่า งานกำกับครั้งแรกของอีจองแจทำได้ไม่เลวเลยทีเดียว
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | Hunt / ล่าคนปลอมคน / 헌트 |
กำกับ | อีจองแจ/Lee Jung Jae |
เขียนบท | Jo Seung Hee |
แสดงนำ | อีจองแจ/Lee Jung Jae, จองอูซอง/Jung Woo Sung, ฮอซองแท/Heo Sung Tae |
แนว/ประเภท | Action, Drama |
เรท | |
ความยาว | 131 นาที |
ปี | 2022 |
สัญชาติ | เกาหลีใต้ |
เข้าฉายในไทย | 1 กันยายน 2022 |
ผลิต/จัดจำหน่าย | Artist Studio, มงคลภาพยนตร์ |
ล่าคนปลอมคน
พล็อตและบท - 7.9
การแสดง - 7.9
การดำเนินเรื่อง - 7.9
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.1
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชัน - 7.6
7.7
Hunt
หนังแอคชันแนวหักเหลี่ยมเฉือนคมที่อีจองแจนั่งกำกับครั้งแรก เล่าเรื่องราวในเกาหลียุค 80s ที่มีการประท้วงของนักศึกษาและอาจารย์ต่อรัฐบาลเผด็จการจนเกิดเป็นเหตุการณ์สังหารหมู่กวังจูขึ้น และเล่าเรื่องราวของสองหัวหน้าหน่วยข่าวกรองที่ได้รับภารกิจสืบค้นสายลับต่างชาติที่แทรกซึมอยู่ในองค์กรจนต้องมาหักเหลี่ยมเฉือนคมกันเอง หนังเดินเรื่องเร็ว ไม่มีผ่อนให้หยุดพักหายใจ ไล่ล่าและดวลปืนกันสนั่น แถมมีฉากในเมืองไทยอีกต่างหาก ดุเดือด เฉือนคม อยากได้มันๆ ก็ได้มันของจริง