
หลังจากอยู่ห่างจากโรงหนังมาราวสัปดาห์เศษ ดูเหมือนวันนี้จะได้ปลดปล่อยความคิดถึงโรงหนังให้หลุดหายไปจากใจเสียที เมื่อผมเดินทางไกลสู่ CentralPlaza Westgate เพื่อพบกับประสบการณ์ IMAX ในโรงภาพยนตร์ Westgate Cineplex แน่นอนว่านี่คือการเก็บตกหนังเรื่องที่อยากดูแต่ไม่ได้เจอกันในวันรอบสื่อ และจะเป็นเรื่องไหนไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ ‘Guardians of the Galaxy Vol. 2’

หนังซูเปอร์ฮีโร่แบบกลุ่ม ที่มีจุดเด่นเฉพาะตัวที่มีความเป็นพวกรักเสียงเพลงย้อนยุค และมีความกวนบาทาเป็นนิจ James Gunn ยังคงเป็นผู้กำกับฯ แล้วหนังก็ขึ้นชื่อมาจากภาคก่อนเรื่องของงานภาพ วิชวล และความเป็นสามมิติ
ภาคต่อ…จึงต้องเป็น 3 มิติบนจอยักษ์เท่านั้น
เรื่องย่อหนัง ‘Guardians of the Galaxy Vol. 2’
เหล่านักสู้ทั้งห้ากลับมาอีกครั้งกับบทบาทของการพิทักษ์จักรวาล แต่ดูเหมือนอาการชอบขโมยของจะพาเรื่องกลับมาหาตัวพวกเขาได้อยู่เสมอ เหตุเพราะการหยิบฉวยแบตเตอรี่มา ทำให้พวกตัวทองตามไล่ล่าผู้พิทักษ์ทั้งห้าอย่างไม่เว้นวาง
แต่ปรากฏว่า พวกเขากลับได้การช่วยเหลือจาก อีโก้ (Kurt Russell) ผู้อ้างว่าเขาคือพ่อของปีเตอร์ ควิลล์ (Chris Pratt)
อีโก้คือคนที่พาเขาไปรู้จักกับดาวอันแสนเงียบสงบและสวยงาม แถมยังพาพวกเขาไปพบกับ แมนทิส (Pom Klementieff) คนรับใช้ที่มีเขาอยู่สองเส้น เธอมีความสามารถพิเศษในการสัมผัสแล้วซึมซับความรู้สึกคนอื่นได้
ในภาคนี้ กาโมรา (Zoe Saldana) บุตรบุญธรรมของทานอส จะได้พบกับ เนบิวล่า (Karen Gillan) พี่น้องที่ไม่เคยถูกคอกันเลยอีกครั้ง ความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานจะประสานได้หรือไม่
พร้อมตัวละครใหม่อีกตัวที่ถ้าไม่เคยรู้มาก่อนก็จะเซอร์ไพรส์ไม่หยอกทีเดียว
รีวิวหนัง ‘รวมพันธุ์นักสู้พิทักษ์จักรวาล 2’
เรื่องมันก็ต่อจากภาคที่แล้ว เหล่านักสู้ทั้งห้าต่างคนต่างที่มาได้กลายมาเป็นทีมเดียวกัน นักสู้พิทักษ์จักรวาล หลังจากควิลล์หักหลังยอนดูหยิบเอาอัญมณีมาครอบครองเสียเอง ทำให้พวกเขาถูกตามล่าและได้รับรู้ว่าจะต้องป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดกับทั้งจักรวาลหากว่าอัญมณีตกไปอยู่ในมือของคนไม่ดี
เพิ่มตัวละครใหม่ ใส่ความดราม่า
การมาของภาคที่สองย่อมจะต้องมีอะไรที่เหนือกว่าภาคแรก ที่เห็นได้ชัดสุดก็คงจะเป็นการเพิ่มตัวละครใหม่ อย่าง อีโก้ (Kurt Russell) ที่ประกาศตนว่าเป็นพ่อของสตาร์ลอร์ด เขาคือผู้ชายที่เป็นคำตอบที่ปีเตอร์ ควิลล์ตามหามานาน ในที่สุดก็ได้พบ หนังสร้างเรื่องอีโก้มีความน่าสนใจตั้งแต่ฉากเริ่ม เคิร์ทมาในลุคที่หล่อเฟี้ยวในวัยที่ยังหนุ่มแน่น เขาพบรักกับชาวโลกก่อนจะหายตัวไป
ตัวร้ายตัวใหม่กลายเป็นพวกสีทอง ราชินีอเยชา (Elizabeth Debicki) ที่ตามไล่ล่าห้าผู้พิทักษ์เพียงเพราะขโมยของมา พวกนี้กลายเป็นผู้ควบคุมพวกมือรับจ้าง นัยว่ามาทำหน้าที่ในหนังแบบเดียวกับที่โรแนนทำไว้ในภาคก่อน พวกเขาดูไม่มีที่มาที่ไปสักเท่าไหร่ และมีทีท่าจะได้อยู่ต่อในภาคหน้าเสียด้วย
อีกตัวอาจเรียกได้ว่าเป็นตัวละครลับ เขาคือผู้ชายที่คนบนโลกมนุษย์คุ้นเคยกันดี แม้เขาจะมาปรากฏว่าภาคนี้ แต่ก็ใช่จะมีบทบาทอะไรมากนัก คล้ายหนังจะปูให้เราได้พบกับบทบาทของเขาที่มากกว่าในภาคถัดไป (ก็หวังว่างั้นนะ)
สิ่งที่พบเห็นว่าถูกขับเน้นมากขึ้นกว่าภาคแรกก็น่าจะเป็นเรื่องแง่มุมดราม่าของแต่ละตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นตัวไหน ดูเหมือนว่าจะถูกหยิบจับมาเล่าถึงได้หมด
หลายดราม่าก็ชวนเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของพวกเขามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแง่มุมการโหยหาความรักของร็อคเก็ตเจ้าแรคคูนมีปม แง่มุมของพี่น้องเนบิวล่ากับกาโมร่าที่ตัดกันไม่ขาด ที่ชัดเจนคงเป็นควิลล์กับพ่อที่เยิ่นเย้อจนชวนสงสัยว่าจะเล่นอะไรทำไมต้องปล่อยให้รอนาน ขณะที่แง่มุมของควิลล์กับยอนดูเสียอีกที่ชวนให้ซึ้งยิ่งกว่า
ทว่าก็ยังไม่มีช็อตไหนที่ซึ้งชวนน้ำตาไหลได้เท่าภาคแรก
กรูทน้อยขโมยซีน กวนตีนยังอยู่ครบ
สไตล์ของเหล่าผู้พิทักษ์แห่งจักรวาลน่าจะเริ่มเห็นเป็นเอกลักษณ์กันมากขึ้นด้วยเพราะมันเดินมาถึงภาคสองแล้ว ความยียวนกวนประสาทนี่ดูเหมือนจะโดดเด่นมากหน่อย นอกเหนือไปจากการหยิบเพลงเก่าๆ มาใส่
เมื่อกรูทในภาคนี้กลายเป็นเบบี้กรูท (Vin Diesel) เขาแทบจะไม่มีบทบาทในการต่อสู้เลย แต่กลับมีพื้นที่ให้การสร้างเสียงฮาเสียมากกว่า มีทั้งคาแรคเตอร์ความน่ารักและความไร้เดียงสาปะปนกัน
มันเลยกลายเป็นตัวขโมยซีนที่เอาอยู่
ในส่วนของเพลย์ลิสต์ของเพลงเก่าๆ ที่หยิบมาใส่เต็มเรื่อง อาจไม่ถึงกับมีอะไรโดดเด่นมากนักเมื่อเทียบกับภาคแรก แต่ก็ถือได้ว่าเป็นมิกซ์เทปที่ไม่เลวเลยทีเดียว
สิ่งหนึ่งที่ชื่นชอบก็คือความครีเอทในการสร้าง End Credit ของหนังเรื่องนี้ เพราะเขาใส่ฉากแถมเอาถึง 5 ฉาก แทรกไปกับ End Credit ที่ยืดยาวตามประสาหนังใหญ่ เพื่อเรียกให้คนดูนั่งอ่านรายชื่อผู้ร่วมงานไปด้วยระหว่างรอ ก็จะมีบางส่วนที่เขียนแปะไว้ว่า ‘I Am Groot’ ก่อนจะเปลี่ยนกลับไปเป็นชื่อจริงๆ
นับถือในความครีเอตของทีมงานเขาจริงๆ
ความกลมกล่อมยังด้อยกว่าภาคแรก 3 มิติยังแจ่มเช่นเคย
ถ้าจะมองดูกันแบบรวมๆ บ้าง เราก็อาจจะพบว่าความสนุกของภาคสองนี่ยังไม่เท่าที่เคยได้จากภาคแรกนัก มีดร็อปๆ ลงไปเป็นบางส่วน พิจารณาดู อาจจะพบว่า มันมีบางส่วนที่หนังใช้การสนทนากันมากไป แถมน่าสนใจน้อยไปหน่อย โดยเฉพาะความน่าสงสัยของอีโก้ผู้อ้างตนเป็นพ่อของปีเตอร์ ควิลล์ เพราะผมรู้สึกได้ในขณะดูหนังว่า นี่เขาจะมาอยู่กันทำไมที่นี่นานนัก เมื่อไหร่จะเกิดอะไรขึ้นเสียที
หนังเหมือนจะมีฉากแอ็คชั่นมันๆ อยู่แถวๆ หัวกับท้ายของเรื่อง จนพบว่าช่วงกลางๆ ต้องตั้งตารอกันหน่อยกว่าจะฉากบู๊จะมา แม้จะมีฉากขโมยซีน มีฉากฮาๆ มาคั่น มันก็ยังรู้ว่าหนังยังไม่กลมกล่อมพอ
ยังเกลี่ยความสนุกไม่ทั่วถึง อะไรประมาณนั้น
หน้าที่ของหนังที่สร้างความบันเทิงแบบเกรียนๆ ถือว่ายังสอบผ่านได้อยู่ เพลงประกอบอาจไม่โดดเด่นนัก น่าเสียดายที่ตัวละครบางตัว อุตส่าหเพิ่มเข้ามาทว่าก็ไม่ได้มีบทบาทเท่าที่ควร รวมทั้งตัวร้ายก็แทบจะไร้มิติและมีสถานะคล้ายๆ กับภาคแรก ไม่ได้มีครีเอตอะไรกับตรงนี้สักเท่าไหร่
ไดอะล็อกคมๆ ในหนังก็ดูเหมือนจะได้ยินมาจากเรื่องอื่นมาก่อนแล้ว มันเลยไม่ได้รู้สึกอะไรกับตรงนี้เท่าที่ควรจะเป็น
แต่สำหรับงานภาพ 3 มิติและเสียงอันกระหึ่มในโรง IMAX ยังต้องถือว่ามาตรฐานยังไม่ได้ตกลงไป แต่ที่ต้องไม่ลืมเลย คือ ‘รวมพันธุ์นักสู้พิทักษ์จักรวาล 2’ มีฉากแถมในช่วง End Credit ถึง 5 ฉากด้วยกัน
…อย่าลืมนั่งดูต่อให้จบจนตัวอักษรสุดท้าย
ชื่อภาพยนตร์: Guardians of the Galaxy Vol. 2 / รวมพันธุ์นักสู้พิทักษ์จักรวาล 2
ผู้กำกับภาพยนตร์: James Gunn
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: James Gunn
นักแสดงนำ: Chris Pratt, Zoe Saldana, Dave Bautista, Vin Diesel (voice), Bradley Cooper (voice), Michael Rooker, Karen Gillan, Sylvester Stallone, Kurt Russell, Elizabeth Debicki
ความยาว: 127 นาที
แนว/ประเภท: Action, Adventure, Sci-Fi
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
ดนตรีประกอบ: Tyler Bates
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
เรท: ไทย/, MPAA/PG-13
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 26 เมษายน 2560
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Marvel Studios, Walt Disney Pictures
รวมพันธุ์นักสู้พิทักษ์จักรวาล 2
Guardians of the Galaxy Vol. 2 - 7
7
Guardians of the Galaxy Vol. 2
ถ้าจะมองดูกันแบบรวมๆ บ้าง เราก็อาจจะพบว่าความสนุกของภาคสองนี่ยังไม่เท่าที่เคยได้จากภาคแรกนัก มีดร็อปๆ ลงไปเป็นบางส่วน พิจารณาดู อาจจะพบว่า มันมีบางส่วนที่หนังใช้การสนทนากันมากไป แถมน่าสนใจน้อยไปหน่อย โดยเฉพาะความน่าสงสัยของอีโก้ผู้อ้างตนเป็นพ่อของปีเตอร์ ควิลล์ เพราะผมรู้สึกได้ในขณะดูหนังว่า นี่เขาจะมาอยู่กันทำไมที่นี่นานนัก เมื่อไหร่จะเกิดอะไรขึ้นเสียที