รีวิวหนัง Good Morning, Sleeping Lion สิงห์เฒ่าสุดเก๋า ผจญโอตะสุดเกรียน

ในสังคมญี่ปุ่น วัฒนธรรมบันเทิงที่กลายเป็นอีกหนึ่งแขนงที่ฝังรากอย่างแข็งแรงในประเทศนี้ก็เห็นจะเป็นไอดอล หนึ่งในสาขาที่อยู่กับญี่ปุ่นมานานจนถึงปัจจุบัน จึงมีหนังอยู่หลายเรื่องเลยที่เล่าถึงชีวิตของเหล่าไอดอล บ้างก็เน้นดราม่า บ้างก็เน้นตลก แต่เรื่องนี้ดูท่าจะเน้นไปในทางแอคชัน ผมกำลังหมายถึง ‘Good Morning, Sleeping Lion’ หรือที่มีชื่อไทยๆ ว่า ‘สิงห์เฒ่าสุดเก๋า ผจญโอตะสุดเกรียน’ นั่นแหละครับ

เท่าที่ได้ยินมา เหมือนก่อนหน้านี้เขาตั้งใจจะทำเป็นมินิซีรีส์ แต่ไป ๆ มา ๆ กลับมาลงเอยที่การเป็นภาพยนตร์ จากผลงานการเขียนบทของ Yoshiyuki Mitsumasu และได้ Sakamoto Koichi เป็นผู้กำกับ โดยที่มีนักแสดงที่คุ้นหน้าคุ้นตาสำหรับบรรดาแฟนคลับที่ชอบดูหนังไรเดอร์ มาร่วมเล่นในบทสมทบอยู่หลายคน ทั้งยังมีนักแสดงนำเป็นอดีตสตั๊นท์แมนที่เล่นเป็นเฮย์เซย์ไรเดอร์มาก่อน ครั้งนี้เขาเปิดหน้าตาเป็นครั้งแรก และแน่นอน นางเอกของเรื่องนั้นก็แสดงโดยไอดอลตัวจริงของวงการ

ได้เวลามาเล่ากันแล้วสินะครับ ว่าหนังมันเล่าเรื่องอะไรบ้าง

เรื่องย่อหนัง ‘Good Morning, Sleeping Lion’

มันเป็นเรื่องของ คาซุมะ คุโจ (Seiji Takaiwa อดีตสตั้นท์เฮย์เซย์ไรเดอร์) ลุงสุดเก๋าวัยห้าสิบขวบที่มาสมัครงานในบริษัทดูแลศิลปิน เขาได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จัดการไอดอลให้กับ เรมิ วาตานุกิ (Miho Watanabe แห่ง Hinatazaka46) ไอดอลสาวที่ขายไม่ออกแม้แต่ตัวเธอเองก็ยังไม่อยากเป็นไอดอลอีกต่อไป และได้ตัดสินใจที่จะเติมเต็มความฝันของเธอในการเป็นนักแสดงโดยการออดิชั่นละครดัง แต่ก็ต้องมีเหตุให้ความฝันสะดุดเมื่อรอบตัวเธอมีแต่เหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้น

โอตะตามสตอล์กเกอร์ หรือคดีวางระเบิด ซ้ำร้ายองค์กรลึกลับกริมรีปเปอร์ยังหมายหัวเรมิอีก ทำให้ผู้จัดการมือใหม่อย่างคุโจ ต้องต่อสู้ปกป้องเธอ คุณลุงผู้จัดการสุดเก๋าจะสามารถปกป้องไอดอลสาวจากผู้ที่จ้องจะทำร้ายเธอได้หรือไม่ เรมิจะผ่านการออดิชั่นครั้งนี้ได้ไหม นอกจากนี้ ตัวตนที่แท้จริงของคุโจคือใคร และทำไมเขาถึงเลือกงานนี้

รีวิวหนัง ‘สิงห์เฒ่าสุดเก๋า ผจญโอตะสุดเกรียน’

น่าสนใจดีที่เขาเลือกจะเอาอดีตสตั๊นท์แมนที่เคยสวมหน้ากากเข้าฉากต่อสู้ในฐานะเฮย์เซย์ไรเดอร์ มาเปิดหน้าให้ผู้คนได้เห็น แถมเล่นหนังสวมบทเป็นหนุ่มใหญ่วัยห้าสิบ ที่คิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้ เลือกที่จะมาเป็นผู้จัดการของไอดอลสาวเรมิ แถมดูท่าจะไฟแรงซะด้วย นอกเหนือจากการดูแลทุกอย่างของเธอแล้ว เขายังแอบเนียนไปโบกแท่งไฟราวกับเป็นแฟนคลับคนหนึ่งของเรมิอีกด้วย อันนี้ ถ้าใครคุ้นเคยกับวงการไอดอล หรือแม้แต่เคยเป็นโอตะ-แฟนคลับวงไอดอลอยู่แล้วด้วย จะยิ่งฮายิ่งสนุกไปกับพฤติกรรมของชายผู้นี้

ขณะที่ตัวเรมิเอง เขาก็เลือกให้ วาตานาเบะ มิโฮะ ไอดอลสาวแห่ง Hinatazaka46 รุ่น 2 ที่เพิ่งประกาศจบการศึกษาไปเมื่อต้นปี มาเล่นเป็นไอดอล เธอย่อมจะสวมบทบาทเป็นไอดอลได้อย่างแนบเนียนแน่ๆ เท่านั้นไม่พอ ตัวร้ายๆ ในเรื่องนี้ ยังใช้นักแสดงที่เคยเล่นในหนังไรเดอร์มาร่วมงานกันอีกต่างหาก เรียกได้ว่าถ้ารู้จักไอดอลและเคยดูมาสค์ไรเดอร์มาก่อน หนังเรื่องนี้คือใช่สำหรับคุณ

แต่ก็อย่างที่บอก หนังเรื่องนี้อยู่ในหมวกแอคชัน เพราะฉะนั้น ก็จะเน้นฉากต่อสู้กันหน่อย ทำให้ได้เห็นลีลาพะบู๊ของหนุ่มใหญ่คนนี้ว่ายังเหลือร้ายอยู่ แถมบางฉากยังมีการเอาหน้ากากไรเดอร์มาใส่ หวังจะพรางตัวไม่ได้เรมิรู้ว่าเขาแอบตามมาช่วยเหลือ

ในวันที่ไอดอลสาวผู้ที่กำลังใกล้จะอับแสงลงทุกที เธอเริ่มจะหมดกำลังใจในการจะเป็นไอดอล แต่กลับได้เจอกับผู้จัดการทั่วไปคนใหม่ที่ตั้งใจจะดูแลเธออย่างสุดๆ เธอก็เริ่มมองหาสิ่งใหม่ๆ ให้กับชีวิตที่อับเฉา ด้วยการตัดสินใจเข้าร่วมออดิชันในภาพยนตร์เรื่องใหม่ท่ามกลางความไม่เชื่อมั่นของผู้หลักผู้ใหญ่ แถมในช่วงเวลานั้น เรมิต้องผจญทุกอย่างที่เป็นด้านมืดของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นสตอล์กเกอร์ที่คอยตาม หรือกลุ่มแก๊งวายร้ายที่แข่งขันอะไรประหลาดและเข้ามาเกี่ยวข้องเกาะแกะกับเธอ พร้อมกับอุปสรรคภายในตัวเธอที่ต้องเอาชนะมันให้ได้ อีกทั้ง สิงห์เฒ่าวัยเก๋าที่เลือกจะเข้ามาเป็นผู้จัดการให้เธอในวัยนี้ เขาเองก็มีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ในใจ

ฟังดูน่าจะเป็นหนังที่ดูสนุกใช่มั้ยครับ แต่เอาเข้าจริงก็กลับพบความครึ่งๆ กลางๆ ที่ทำให้ลำบากใจจะตัดสินตัวหนัง

อาจมีบางส่วนที่ค่อนข้างโอเคอยู่บ้าง อย่างลีลาการพะบู๊ของคุณลุงเซจิ แต่ก็พบว่ามุมกล้องและโปรดักชันดูไม่แพงเท่าที่ควร การแสดงในพาร์ทดราม่าของมิโฮะก็ถือว่าพอไปได้ แต่ก็เจอปัญหาเรื่องการตัดต่อทั้งด้านภาพและเสียงที่ยังไม่เข้าขั้น ทำให้หนังดูมีแผลที่เห็นได้ชัดอยู่มากสักหน่อย จนจำใจต้องให้คะแนนไปอย่างที่เห็น

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง