หนังญี่ปุ่นหลายเรื่องสร้างขึ้นมาจากมังงะชื่อดัง แน่นอนว่า เมื่อมันถูกดัดแปลงให้กลายเป็นหนังไลฟ์แอ็คชัน สิ่งที่มักจะต้องรู้สึกเวลารับชมก็คือ มันมีความเพี้ยนเกินจริง เช่นเดียวกันกับหนังเรื่องนี้ ‘Golden Kamuy’ หรือชื่อไทย ‘โกลเดนคามุย’ แต่ข้อดีของมันก็คือ การทำให้เราเกิดแรงบันดาลใจในศึกษาข้อมูลชายไอนุ ชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินญี่ปุ่นมาเนิ่นนาน
‘Golden Kamuy’ มันเกี่ยวกับอะไรกันรึ?
สองปีหลังศึกสมรภูมิเนิน 203 เมตร ซาอิจิ สุกิโมโต้ (Kento Yamazaki จากซีรีส์ญี่ปุ่น ‘Alice in Borderland’) รอดชีวิตและเดินทางรอนแรมอยู่บนเกาะฮอกไกโด พยายามร่อนหาทองคำหวังจะมีเงินมีทองกะเขาบ้าง แต่แล้ว จู่ๆ ก็มีคนเมาเล่าเรื่องราวหนึ่งให้ฟัง
เรื่องเล่าของคนเผ่าไอนุที่สะสมทองเพื่อหวังสร้างกองทัพต้านญี่ปุ่น แต่ก็ชายคนหนึ่งที่ขโมยมันไปจนเกลี้ยง สังหารชาวไอนุจนหมดและขโมยทองคำไปซ่อน ก่อนถูกจับเข้าคุกอะบาชิริ จากนั้นเขาก็สักแผนที่ไปบนตัวนักโทษหลายคน โดยสัญญาว่าจะให้ทองคำครึ่งนึงหากหาเจอ
แต่ต่อมา เขาก็ได้เจอกับ อาเชอร์ปา (Anna Yamada จากหนังญี่ปุ่นเรื่อง ‘Homestay’) หญิงสาวชาวไอนุที่เข้ามาช่วยเขาจากหมีสีน้ำตาลเอาไว้ ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินทางร่วมกันเพื่อสืบหาทองคำที่ถูกรวบรวมไว้ แต่อุปสรรคที่ทั้งคู่ต้องเจอ นอกเหนือจากบรรดาอาชญากรที่มีลายแทงฝังอยู่บนตัว ก็คือ กองพลที่เจ็ด และทหารนอกแถวที่มีความกระหายอยากได้ครอบครองทองคำพวกนั้นอยู่เช่นกัน
รีวิวหนัง ‘โกลเดนคามุย’
มันคือหนังเวอร์ชันคนแสดงที่พัฒนาต่อมาจากมังงะและอะนิเมะซีรีส์ เล่าเรื่องที่ย้อนไปไกลถึงปี 1904 ในศึกระหว่างรัสเซียและญี่ปุ่นที่เนินเขา 203 เมตร สมรภูมิที่ต่างฝ่ายต่างเสียกำลังพลไปมหาศาล แต่ดูเหมือนกองพลที่หนึ่งจะยังคงเหลือ “สุกิโมโต้คนอมตะ” ที่ได้รอยแผลเป็นบนใบหน้ากลับมา เหตุที่เขาได้ฉายานี้มาก็เป็นเพราะเป็นชายหนุ่มที่ตายยากตายเย็น บาดแผลบนร่างกายสามารถฟื้นตัวได้ไวกว่าคนทั่วไปอย่างมาก แม้เจ็บหนักแต่วันต่อมาก็เดินปร๋อแล้ว
เอาเข้าจริง เราก็ไม่ค่อยเชื่อหรอกว่า เขาจะรอดกลับออกมาได้ อย่างตอนในสนามรบก็ดูไม่น่าเชื่อว่ารัสเซียจะปล่อยให้เขามีชีวิตรอด หรือเรื่องของชายขี้เมาที่เล่าเรื่องทองคำให้ฟังก่อนจะยิงทิ้งเพราะดันรู้เรื่องที่ไม่ควรรู้ อ้าว ก็พี่เล่าเอง คนฟังผิดตรงไหนไม่ทราบ ถ้าไม่คิดว่านี่มันเป็นหนังที่สร้างมาจากมังงะก็คงจะถือสาไปแล้วล่ะ
ถ้าว่ากันตามตรง พอมันเป็นหนังคนแสดง มันก็เลยรู้สึกได้ถึงความไม่สมจริงแทรกอยู่ในหลายส่วนแหละ แต่ว่านะ เมื่อมองว่า โปรดักชันการถ่ายทำหนังเรื่องอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างดี ฉากสงครามขนาดใหญ่ ซีจีหมีสีน้ำตาลและหมาป่าสีขาวทำได้แนบเนียนใช้ได้ มันก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว
เมื่อเขาได้เจอกับหนึ่งในนั้น ก็ได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาว่า หัวโจกที่สั่งให้พวกมันแหกคุกนั้นเป็นตาแก่ที่เป็นอดีตซามูไรที่ต่อสู้ให้กับโชกุนในศึกฮาโกดาเตะ ที่ตอนนี้กำลังรวบรวมแผนที่เพื่อสืบหาทองคำ และรวบรวมคนเพื่อต่อสู้กับกองพลที่เจ็ด หัวโจกคนนี้ถูกเรียกว่า “ผีของโชกุนคนสุดท้าย”
เมื่อพูดถึงทหารกลุ่มนี้ คนที่โดดเด่นที่สุดก็คงไม่พ้น ร้อยโทสึรุมิ โทคุชิโระ (Hiroshi Tamaki จากซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่อง ‘Here Comes the Morning’) ผู้มีบาดแผลบนกะโหลดศีรษะจนมักจะมีเมือกไหลออกมาเป็นประจำ
ส่วนเหตุผลที่อาเชอร์ปาเลือกจะร่วมมือกับสุกิโมโต้ ก็คงเป็นเพราะเจ้าคนคุกไร้หน้านั่นมันยังไม่ตาย ถ้าพวกเขาค้นหาทองคำให้เจอ ก็จะถือเป็นการแก้แค้นให้กับอาช่า พ่อของอาเชอร์ปาไปด้วยในตัว ส่งผลให้พวกเขามุ่งสู่โอตารุเพื่อตามล่ากลุ่มคนที่มีลายแทงบนร่างกาย
‘คามุย’ มันคืออะไร?
ในหนังเรื่องนี้มีบทสนทนาที่ว่าด้วยเรื่องหมีอยู่หลายจุดเหมือนกันแฮะ ซึ่งก็มาจากเรื่องเล่าของชาวไอนุ ตั้งแต่ มาตาคาริป หมีที่ไม่จำศีลในฤดูหนาว มันจะโหดมากเพราะมันจะตามล่าทำร้ายผู้ที่แย่งเหยื่อของมันไป, เว็นคามุย หมีที่ฆ่าคนที่เมื่อตายไปก็จะตกนรก ที่ทำให้สุกิโมโต้ มองว่าตัวเขาเองคงต้องตกนรกขุมลึกสุดเป็นแน่ล่ะมั้ง อ่อ แล้วก็ยังมี ชิตาทัป ที่เป็นของกินที่ต้องใช้การสับด้วยนะ แต่สุกิโมโต้เป็นพวกญี่ปุ่นเลยพกมิโสะออกมากิน ซึ่งอาเชอร์ปาบอกว่าเป็น “โอโซมะ” (ที่แปลว่าอึ) ซะงั้น
บางคนอาจจะคุ้นเคยกับ คามุย ที่อยู่ในนารูโตะ มันถูกใช้ในความหมายของวิชาเนตรวงแหวนซึ่งเป็นคาถาหายตัวอะไรทำนองนั้น แต่อันที่จริง สัตว์ป่าทั้งหลายในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะ หมี หมาป่า แม้แต่นาก ก็ถูกเรียกว่าเป็น คามุย ทั้งนั้น คามุย เป็นภาษาไอนุ เท่าที่สืบๆ ดู มันมีความหมายในทำนอง เทพ เทพเจ้า วิญญาณ ในตำนานของชาวไอนุนั่นแหละ ซึ่งมันมีความหมายที่กว้างกว่าคามิของญี่ปุ่นไปมาก
หนังพาให้เราอยากทำความรู้จักกับ ‘ชาวไอนุ’
เดิมที เราก็ไม่ค่อยได้รู้เรื่องประวัติศาสตร์ชาติญี่ปุ่นมากมายนัก แต่การที่ได้มาดู ‘โกลเดนคามุย’ ก็ทำให้รู้สึกสนใจในเรื่องราวของชนชาวไอนุขึ้นมา เลยได้ล่วงรู้ว่า พวกเขาเป็นชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินญี่ปุ่นมาช้านาน ตำนานของพวกเขาเอ่ยอ้างว่าพวกตนอยู่มาก่อนหลายแสนปีก่อนบุตรพระอาทิตย์จะมา และพื้นที่ที่พวกเขาอยู่อาศัยกันก็คือบนเกาะฮอกไกโดที่เป็นโลเกชันของหนังเรื่องนี้นั่นเอง
ไอนุมีความผูกพันกับหมี พวกเขามักจะเอาลูกหมีมาเลี้ยงก่อนทำพิธีส่งไปสู่สวรรค์ และก็เป็นชนชาติที่มีวัฒนธรรมในการสัก ในหนังเรื่องนี้ เราก็จะเห็นการสักบนปากของชาวไอนุคนนึงด้วย นอกจากนี้ เด็กชาวไอนุก็จะถูกเรียกด้วยชื่อเล่น ก่อนที่จะได้รับชื่อจริงเมื่อมีอายุได้ 2-3 ขวบ อาหารของชาวไอนุก็มีบางเมนูที่ถูกหยิบมาใส่ในเรื่องนี้ นั่นคือ ซุปที่ถูกเรียกว่า ohaw ไงล่ะ
ได้ข่าวว่า ปัจจุบัน ยังคงมีชาวไอนุอยู่เรือนหมื่น แต่พวกเขาทั้งหลายกลายเป็นพวกที่ยากจนที่สุดในญี่ปุ่น
Taglines: Do you have a mission to fulfill?
เมื่อตัวหนังสือผุดขึ้นบนจอ ผมนึกว่าหนังจะจบลงซะแล้ว แต่ไม่ใช่แฮะ หนังจะเหลือให้เล่าอีกในภาคต่อ แต่หนังก็ไม่ลืมที่จะเล่าเหตุผลที่แท้จริงของการตามล่าหาทองคำในฮอกไกโดของซาอิจิเอาไว้ เรื่องราวที่เชื่อมโยงกับฉากต้นๆ ของเรื่องเกี่ยวกับเพื่อนของเขา โทราจิ
ถือเป็นการเขียนบทที่สร้างความกลมกล่อมได้ไม่เลว หนังมีความเบียวๆ เพราะมีต้นทางจากมังงะญี่ปุ่น มีนางเอกสุดน่ารักที่เล่นเป็นชาวไอนุ โดยรวมมันก็ดีพอจะรอภาคต่อได้อยู่เหมือนกันนะ
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | Golden Kamuy / โกลเดนคามุย / ゴールデンカムイ |
กำกับ | Shigeaki Kubo |
เขียนบท | Tsutomu Kuroiwa, Satoru Noda |
แสดงนำ | Kento Yamazaki, Anna Yamada, Hiroshi Tamaki, Yuma Yamoto |
แนว/ประเภท | แอ็คชัน, ผจญภัย, ประวัติศาสตร์, เวสเทิร์น |
เรท | |
ความยาว | 127 นาที |
ปี | 2024 |
สัญชาติ | ญี่ปุ่น |
เข้าฉายในไทย | 19 พฤษภาคม 2024 ทาง Netflix |
ผลิต/จัดจำหน่าย | Credeus, Toho |