รีวิวหนัง Get Out ลวงร่างจิตหลอน | เล่นเอาอึ้งกันเลยทีเดียว

วันหยุดสุดสัปดาห์มันช่างหมดไปอย่างรวดเร็วเสียจริงๆ วันเพียงแค่สองวัน มันอาจดูไม่พอเสียแล้วกับการเหลือไว้สำหรับการพักผ่อน เพราะยังไงก็ยังพบว่าถึงแม้จะเป็นวันหยุด แต่สมองไม่เคยหยุดคิดเรื่องงานได้เลยสักวัน แต่แม้จะเป็นวันหยุดแต่ก็ยังไม่หยุดเข้าโรงหนังนะครับ วันนี้ขอไปเก็บตก ‘Get Out’ หนังหยองๆ ที่พลาดไปจากวันฉายรอบสื่อ

หนังสยองขวัญจากค่าย Blumhouse Productions ที่ส่งโปรเจ็กต์นี้ให้กับ Jordan Peele ผู้กำกับฯ ที่ได้ชิมลางครั้งแรก หลังจากได้แสดงความสามารถมาหลากหน้าที่ ทั้งเขียนบท ลงมือแสดง โปรดิวเซอร์ และทำดนตรี แถมผลงานชิ้นนี้ยังได้เสียงตอบรับอย่างดี สร้างปรากฏการณ์ทำรายได้ในอเมริกาไปได้ถึง 160 ล้านเหรียญ

ไม่ธรรมดาเลย!

เรื่องย่อหนัง ‘Get Out’

เมื่อคริส (Daniel Kaluuya จากเรื่อง ‘Sicario’) หนุ่มผิวสีแต่เป็นแฟนสาวผิวขาว โรส (Allison Williams จากซีรีส์ ‘Girls’) ตกลงใจจะเดินทางไปพักผ่อนสุดสัปดาห์ที่บ้านพ่อแม่ของโรส คริสดูจะประหม่าอยู่พอสมควร เพราะเขาคือคนผิวดำที่จะต้องไปทำความรู้จักกับครอบครัวคนผิวขาว แต่โรสดูจะช่วยให้เขาสบายใจขึ้นได้มากทีเดียวเมื่อเธอเล่าว่าครอบครัวเธอไม่ได้เหยียดผิว

เขากำลังเดินทางไปพบกับ มิสซี (Catherine Keener จาก ‘Captain Phillips’) และดีน (Bradley Whitford จาก ‘The Cabin in the Woods’) พ่อแม่ของโรส

ที่ที่เขารู้สึกแปลกๆ ตั้งแต่แว้บแรกที่ไปถึง…

ผู้ชายผิวสีที่เลี้ยงหมาไปตัวนึงกับมีความสุขในการถ่ายภาพ แต่พอเขาได้มาอยู่ในบ้านนี้ ความไม่ชอบมาพากลเริ่มผุดให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ

อะไรนะที่อยู่ภายใต้ความไม่น่าไว้ใจเหล่านั้น

รีวิวหนัง ลวงร่างจิตหลอน

กลายเป็นว่า ผมได้มานั่งเขียนรีวิวตามหลังชาวบ้านเขาแบบนี้ แต่ก็คิดว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร สามารถหลบเลี่ยงสปอยล์ไปจนได้ตลอดรอดฝั่ง และได้มาพบกับบรรยากาศของหนังลึกลับปนสยองขวัญเรื่องนี้แบบที่เรียกว่าแทบจะสดใหม่ เพราะไม่ได้ดูตัวอย่างมาก่อนเลยด้วยซ้ำ

แทรกใส่เรื่องเหยียดผิวมุมใหม่ในหนังสยองขวัญ

ได้ยินมาเลาๆ ก่อนจะดูแล้วว่าหนังเรื่องนี้จะพูดถึงเรื่องราวในมุมของความแตกต่างเชิงสีผิว แต่คงเป็นครั้งแรกๆ ที่หยิบมันมาเล่าในหนังสยองขวัญ เมื่อหนุ่มผิวดำเดินทางไปพบกับครอบครัวของแฟนสาวที่เป็นหญิงผิวขาว ก่อนไปก็ว่าประหม่าแล้ว พอเจอกันจริงๆ กลับประหม่ายิ่งกว่า

เขาได้รับรู้ว่าบ้านหลังนี้มีแต่คนรับใช้ที่เป็นคนผิวสี และแต่ละคนก็ดูมีทีท่าแปลกกับเขา ดังถูกล้างสมองเอาความคิดที่ไม่สนิทกับคนขาวออกไปเสียหมดจด แถมเขาได้พบกับปาร์ตี้ที่มีแต่คนผิวขาว ที่แต่ละคนดูเหมือนจะร่ำรวยกันมาจากไหนไม่รู้ แถมยังดูจะดีกับเขาเหลือเกิน

อย่างกับไม่เคยมีเส้นอะไรขีดคั่นระหว่างคนทั้งสองสีกันมาก่อน

หนังอย่าง ลวงร่างจิตหลอน ไม่มีแค่เรื่องเหยียดผิวเท่านั้นที่ถูกสอดใส่เข้าไว้ในเรื่องราว หากมันยังมีอีกแง่มุมหนึ่งในนั้น เรื่องราวของความอยากเป็นอยากมีในสิ่งที่ตนไม่มีแต่คนอื่นมีนั่นไงล่ะ ซึ่งบางทีมันก็ทำให้เราได้คิดไปว่า การเลือกจะเป็นตัวเองนั่นก็ดีพอแล้ว และถ้าเราอยากจะดีเท่าคนอื่น เราก็ไม่ควรจะใช้วิธีขึ้โกงหรอกนะ

ครึ่งแรก พาเราสับสนไปว่า บ้านนี้มีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ช่วงท้าย หนังพาเราไปถึงจุดที่ทำให้เราหัวปั่น เหมือนโดนปั่นหัวว่าควรจะอยู่ฝั่งไหนดี หรือควรจะรู้สึกอย่างไรดี

ตื่นเต้นระคนสะใจ ระคนไปกับความรู้สึกผิด 

สร้างสถานการณ์ไม่น่าไว้ใจ

เริ่มต้นเรื่องมา หนังก็ทิ้งเราไว้กับฉากที่ไม่เข้าใจ ก่อนจะปล่อยให้เราไปทำความรู้จักกับคริสและโรส ระหว่างทางก็เจอกับอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน พาไปรู้จักกับครอบครัวที่ตั้งบ้านอยู่ห่างไกล แถมมีแต่คนที่มีพฤติกรรมชวนประหลาดใจ ไม่รู้ว่าจะมีคนไหนที่พอจะเชื่อถือได้หรือพอจะเป็นพรรคพวกได้

กลายเป็นหนูติดอยู่ในจั่นที่ไม่น่าไว้ใจ

เราไม่จะเชื่อใจใครได้เลยในสถานการณ์นั้นๆ แม้แต่คนที่เราเชื่อว่าไว้ใจได้ กลายเป็นว่าหนังพาเราไปสู่ความสยดสยองมุมมองใหม่ๆ เอาเรื่องราวของความแตกต่างและการเหยียดผิวมาสร้างเป็นพล็อตหนังสยองขวัญได้อย่างแนบเนียน ชักชวนให้ลุ้นไปกับฉากสยองและระทึกสลับกัน ปรับเปลี่ยนสไตล์การหลอกล่อไปเรื่อย เดี๋ยวตุ้งแซ่ เดี๋ยวมาหลอน เดี๋ยวมาเซอร์ไพรส์

ลวงร่างจิตหลอน ใส่เรื่องราวของการสะกดจิตที่แทบจะไม่ได้เห็นในหนังในสมัยกันละ และหนังก็ขับเน้นที่ตัวคริสเป็นหลักเสียจนทำให้ผู้ชมแทบจะเอาแต่นึกคิดว่าตัวเองเป็นพระเอกคนผิวสีกันเป็นทิวแถว แล้วเราก็ได้แต่ลุ้นกันไปจนจบ

เพื่อจะได้เข้าใจว่าฉากที่เริ่มไว้มันคืออะไร

อึ้งกับการพลิกแพลงที่เกือบจะเดาถูก

ก็ไม่ใช่ว่าหนังเรื่องนี้เราจะเดาทางอะไรไม่ได้นะครับ มันก็มีอยู่บ้างที่เราตะหงิดๆ อยู่ว่าเดี๋ยวต้องมาทางนี้แน่ๆ แต่ก็อาจจะถูกหนังพาเราเขวไปว่า “สงสัยจะไม่ใช่ละ” ไปๆ มาๆ หนังก็มาเฉลยว่า ที่คิดไปนั่นแหละใช่แล้ว มันก็เหมือนๆ เราถูกหนังปั่นหัวอยู่ยังไงยังงั้น ถือว่าเป็นเรื่องดี

เพราะมันทำให้เราต้องคิดตลอด

ช่วงท้าย ยังเหมือนว่าหนังได้ดำเนินมาถึงจุดจบเร็วเกินคาดคิด เหมือนสมองยังคิดว่าเรื่องมันยังดำเนินไปไม่นานเลย นี่หนังจะจบเสียแล้วหรือ และช่วงท้าย มันกลายเป็นช่วงที่เดาทางหนังได้ยากขึ้นเพราะมันจะออกทางไหนก็ได้นั่นเอง ดูจบแล้วเข้าใจเลยที่คนเขาชื่นชมกัน เพราะมันได้สร้างตัวเองให้เป็นหนังสยองขวัญที่สร้างพล็อตด้วยไอเดียอื่นๆ บ้าง

มันคือเรื่องของปัญหาสังคมล้วนๆ แหละครับ

ชื่อภาพยนตร์: Get Out / ลวงร่างจิตหลอน
ผู้กำกับภาพยนตร์: Jordan Peele
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Jordan Peele
นักแสดงนำ: Daniel Kaluuya, Allison Williams, Bradley Whitford, Catherine Keener,​ Marcus Henderson, Betty Gabriel, Caleb Landry Jones
ความยาว: 104 นาที
แนว/ประเภท: Horror, Mystery
อัตราส่วนภาพ: 2.35:1
เรท: ไทย/น18+, MPAA/R
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 6 เมษายน 2560
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Blumhouse Productions, QC Entertainment