โลกได้รู้จักกับ แมด แมกซ์ นักซิ่งพเนจรผู้เอาตัวรอดในโลกที่เหลือเพียงทะเลทราย เคียงคู่ไปกับ ฟูริโอซ่า หญิงนักรบผู้แกร่งกล้าสวมแขนเทียม และวันนี้ โลกจะได้รู้จักกับชีวิตก่อนหน้าของเธอ ใน ‘Furiosa: A Mad Max Saga’ หรือชื่อไทย ‘ฟูริโอซ่า มหากาพย์แมดแม็กซ์’ ผลงานจาก จอร์จ มิลเลอร์ เจ้าเดิมที่สร้างมหากาพย์แมด แม็กซ์ ให้เกรียงไกรมาตั้งแต่ปี 1979
ความเห็นส่วนตัวของนายแพท
ภาพของความบ้าคลั่งของการต่อสู้ท่ามกลางทะเลทรายอันรกร้างกลับมาอีกครั้ง ในหนังภาคสปินออฟ ที่เล่าถึงจุดเริ่มต้นของตัวละครสำคัญอย่าง ฟูริโอซ่า หญิงแกร่งที่เคยมีชีวิตดีๆ ในเดอะกรีนเพลส ก่อนถูกดีเมนทัส หัวหน้าแก๊งซิ่งฆ่าแม่และจับตัวเธอไป ความคั่งแค้นที่สะสมยาวนานรอวันชำระ หนังพาเราไปเจอกับพื้นที่ต่างๆ ในโลกแห่งนั้น พร้อมส่งฉากสตันท์สุดอลังการให้กลับมาอีกครั้ง ทั้งยังพาให้เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงจากเด็กสาวตัวน้อยในแดนสีเขียว ที่เจอวิบากกรรมจนเปลี่ยนแปลงกลายเป็นสาวสุดแกร่งที่แก้แค้นได้ดิบโหด
อันย่าเล่นเป็นฟูริโอช่าได้อย่างโดดเด่น บทพูดน้อยเน้นสายตา ขณะที่งานภาพยังโดดเด้งเช่นเคย เพียงแต่ด้วยองค์ประกอบบางอย่าง ทำให้ประทับใจได้ไม่เท่าภาคก่อน
เรื่องย่อหนัง ‘Furiosa: A Mad Max Saga’
ฟูริโอซ่า (Alyla Browne จากซีรีส์ ‘The Lost Flowers of Alice Hart’) ในวัยเด็ก เธอยังมีชีวิตอยู่ในดินแดนเขียวชอุ่มที่ชื่อ กรีนเพลส แต่เพราะความผิดพลาดบางอย่าง ทำให้เธอต้องมีชีวิตที่ผกผัน ต้องจากแม่ผู้เป็นที่รักไปไกล และตกอยู่ในเงื้อมมือของ ดีเมนตัส (Chris Hemsworth จากหนังเรื่อง ‘Extraction II’) ชายผู้โหดเหี้ยมที่ลากดึงเอาวัยเด็กของเธอไป เอาแม่ของเธอไป และเธอต้องการเอาทั้งหมดนั้นกลับคืน
นี่คือหนทางและการผจญภัยเพื่อแก้แค้นของฟูริโอซ่า (Anya Taylor-Joy จากซีรีส์ ‘The Queen’s Gambit’) ที่ไม่สนว่ามันจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน หรือจะต้องสูญเสียอะไรไปบ้าง
รีวิวหนัง ‘ฟูริโอซ่า มหากาพย์ แมด แมกซ์’
คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ฟูริโอซ่า คือ ตัวละครสำคัญที่ผู้ชมจดจำในจักรวาลแมด แมกซ์ ด้วยเอกลักษณ์ของความเป็นหญิงแกร่งที่ตัดผมสั้นเกรียน ทาหน้าครึ่งหนึ่งด้วยสีดำ และใช้แขนเทียม ด้วยลุคที่แกร่งและเด็ดเดี่ยว ทำให้เธอได้รับบทบาทที่โดดเด่น และกลายเป็นคู่ปรับของ อิมมอร์ตัน โจ ขุนพลที่เรืองอำนาจผู้ครอบครองซิทาเดล
โดยไม่ทันคาดคิด ‘Mad Max: Fury Road ถนนโลกันตร์’ ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ทั้งการคว้ารายได้ทั่วโลกระดับ 380 ล้านเหรียญสหรัฐและทั้งการคว้า 6 รางวัลออสการ์ด้านเทคนิค จนโปรเจกต์อะนิเมะของฟูริโอซ่าถูกพัฒนาให้เป็นหนังฟอร์มยักษ์อีกเรื่องหนึ่ง หนังที่เป็นสปินออฟบวกกับมีความเป็นภาคก่อนหน้า เล่าเรื่องความเป็นมาก่อนที่โลกจะจดจำเธอในฐานะ ผู้ก่อกบฎจนนำซิทาเดลไปสู่การเปลี่ยนแปลง … อิมพีเรเตอร์ ฟูริโอซ่า
ในภาคนี้ เราจะได้เห็นเธอตั้งแต่สมัยยังเด็ก ที่ชะตาชีวิตผกผัน ถูกเดเมนตัสจับตัวไป แม้ไม่ได้ทำร้ายเธอ แต่เขาและพวกก็สังหารแม่อย่างโหดเหี้ยม เธอได้อยู่ในกองโจรเคียงข้างนักประวัติศาสตร์ผู้ล่วงรู้ข้อมูลหลากหลาย ไม่ว่าจะในเรื่องเคมีหรือเครื่องยนต์ และเขาก็คงหวังให้เธอเติบโตไปเป็นเช่นนั้นบ้าง แต่ความเคียดแค้นทำให้ฟูริโอซ่าเลือกเส้นทางที่แตกต่างไป
แม้เราจะยังคงได้เห็นภาพของทะเลทรายสีน้ำตาลอันกว้างใหญ่สุดสายตา แต่ครั้งนี้ เราจะได้เห็นว่า The Green Place บ้านเกิดของนักรบสาวสุดแกร่งนั้น มันเคยมีหน้าตาเป็นยังไง ซิทาเดลที่แสนยิ่งใหญ่ของอิมมอร์ตั้น โจ นั้นแท้จริงก็ยังมีป้อมปราการอีกสองแห่ง อย่าง Gastown และ Bullet Farm หลอมรวมเป็น Wasteland-แดนกันดาร
แตกต่างจากภาคที่แล้ว เรื่องราวของมันกินเวลายาวนาน 18 ปี จึงคล้ายจะเป็นหนังแนว coming-of-age อยู่กลายๆ เมื่อมันบอกเล่าถึงชีวิตของฟูริโอซ่าที่วิบากกรรมของเธอ แปรเปลี่ยนให้เด็กน้อยใสซื่อให้กลายเป็นหญิงสาวสุดแกร่งในตำนาน หนังเล่าเรื่องด้วยการแบ่งบทราวกับเปิดหนังนิยายเล่มหนึ่ง เพื่อให้สามารถก้าวกระโดดไปยังเวลาที่ต้องการได้
จอร์จ มิลเลอร์ เลือกจะชักชวน อันยา เทย์เลอร์-จอย มาร่วมงานและรับบท ฟูริโอซ่า คนที่อ่อนวัยกว่า พร้อมปะทะบทบาทกับ คริส เฮมสเวิร์ธ ที่เล่นเป็น ดีเมนทัส หัวหน้าแก๊งซิ่งไบเกอร์ฮอร์ดที่ค่อนข้างมีบุคลิกวิปลาสและหวังแย่งชิงความเป็นใหญ่ในซิทาเดลจากอิมมอร์ตั้น โจ และนอกจากจะพาเราไปเจอกับความบ้าคลั่งของตัวร้ายตัวใหม่แล้ว ก็ยังคงพาเราไปพบกับความคิดสร้างสรรค์ที่ถ่ายทอดออกมาในยานยนต์ต่างๆ เช่นเคย
แม้มีความยาวถึง 2 ชั่วโมง 28 นาที มากกว่าภาคก่อนหน้า แต่ทว่าบทพูดของฟูริโอซ่าก็ยังน้อยยิ่งกว่าแม็กซ์ ร็อคคาแทนสกี้ ทำให้อันย่าต้องเล่นด้วยสายตาเป็นหลักในโลกที่สื่อสารกันด้วยการกระทำระห่ำโหด
หนังยังคงความเดือด คลั่ง มันส์ อลังการ ผ่านฉากแอ็คชันสตันท์โหดท่ามกลางพื้นที่สุดรกร้าง ถ่ายทอดความบ้าคลั่งเกินบรรยายของหลายตัวละครในโลกดิสโทเปียหลังการล่มสลายของมนุษยชาติ เอาจริงๆ ไม่จำเป็นต้องผ่านภาคก่อนมา ก็ยังสามารถดูรู้เรื่องได้ เพราะมันค่อนข้างจะเล่าครบจบในตัวเอง (แต่ถ้าเคยดูมาก่อนบ้าง ก็จะพบบางจุดที่เชื่อมโยงถึงกัน)
และแม้จะดูเหมือนหนังมีความยาวมากอยู่สักหน่อย แต่เมื่อนั่งดูจริง ก็พบว่ามันเดินเรื่องได้น่าตื่นตา ไม่ได้น่าเบื่อแต่อย่างใด
เพียงแต่สิ่งหนึ่งที่รู้สึกคือ แม้ระดมงานสตันท์มันๆ เข้ามามากมาย น่าแปลกใจที่มันยังสร้างความอ้าปากค้างได้ไม่มากเท่าภาคก่อน…ซะอย่างนั้น
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | Furiosa: A Mad Max Saga / ฟูริโอซ่า มหากาพย์แมดแม็กซ์ |
กำกับ | George Miller |
เขียนบท | George Miller, Nick Lathouris |
แสดงนำ | Anya Taylor-Joy, Chris Hemsworth, Tom Burke, Alyla Browne |
แนว/ประเภท | แอ็คชัน, ผจญภัย, ไซไฟ, ระทึกขวัญ |
เรท | R |
ความยาว | 148 นาที |
ปี | 2024 |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
เข้าฉายในไทย | 22 พฤษภาคม 2024 |
ผลิต/จัดจำหน่าย | Warner Bros., Kennedy Miller Mitchell |
คะแนนรีวิวหนัง ฟูริโอซ่า มหากาพย์แมดแม็กซ์
พล็อตและบท - 7
การแสดง - 7.8
การดำเนินเรื่อง - 7.5
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชั่น - 8.5
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.5
7.7
Furiosa: A Mad Max Saga
ภาพของความบ้าคลั่งของการต่อสู้ท่ามกลางทะเลทรายอันรกร้างกลับมาอีกครั้ง ในหนังภาคสปินออฟ ที่เล่าถึงจุดเริ่มต้นของตัวละครสำคัญอย่าง ฟูริโอซ่า หญิงแกร่งที่เคยมีชีวิตดีๆ ในเดอะกรีนเพลส ก่อนถูกดีเมนทัส หัวหน้าแก๊งซิ่งฆ่าแม่และจับตัวเธอไป ความคั่งแค้นที่สะสมยาวนานรอวันชำระ หนังพาเราไปเจอกับพื้นที่ต่างๆ ในโลกแห่งนั้น พร้อมส่งฉากสตันท์สุดอลังการให้กลับมาอีกครั้ง ทั้งยังพาให้เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงจากเด็กสาวตัวน้อยในแดนสีเขียว ที่เจอวิบากกรรมจนเปลี่ยนแปลงกลายเป็นสาวสุดแกร่งที่แก้แค้นได้ดิบโหด อันย่าเล่นเป็นฟูริโอช่าได้อย่างโดดเด่น บทพูดน้อยเน้นสายตา ขณะที่งานภาพยังโดดเด้งเช่นเคย เพียงแต่ด้วยองค์ประกอบบางอย่าง ทำให้ประทับใจได้ไม่เท่าภาคก่อน