หนังจากเกาหลีใต้ที่บอกเล่าความเลวร้ายและน่าอึดอัดในเกาหลีเหนือ สองประเทศที่เคยเป็นประเทศเดียวกัน ทั้งสองยังคงพูดจาด้วยภาษาเดียวกัน ถูกคั่นกลางด้วยเส้นเขตแดน แต่แตกต่างในบางถ้อยคำที่ใช้ และระบอบการปกครอง ที่ทำให้คนแดนเหนือบางส่วนพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะแปรพักตร์ให้สำเร็จ ตัวละครนำในหนังเรื่องนี้ ‘Escape หรือชื่อไทย ‘หนี ให้พ้นนรก’ ก็เช่นกัน เขาเป็นทหารเกาหลีเหนือที่ต้องการหลบหนีมาอยู่แดนใต้
ความเห็นส่วนตัวของนายแพท
จากเดิมก่อนเข้าไปดูที่ไม่ได้คาดหวังอะไรไปมากนักนอกจากที่ได้ยินว่าสนุก แต่เมื่อเข้าไปดูจริงๆ ก็พบว่า หนังตั้งใจหยิบความบันเทิงใส่มือผู้ชมอย่างเต็มที่ ด้วยบทที่อาจจะจงใจอวยแดนใต้และกล่าวร้ายแดนเหนือ ซึ่งก็พบเห็นกันมาจนเป็นปกติ หนังมันเล่าถึงทหารแดนเหนือที่แม้ใกล้ปลดประจำการแต่ก็ยังอยากจะหนีลงมายังแดนใต้ ด้วยความหวังที่จะได้กำหนดชะตาชีวิตตนเอง แต่อย่างที่รู้กันว่า ใครหนีทหารจะถูกฆ่าตายทันที งานนี้ ตัวนำจึงต้องฟันฝ่าทุกอย่างเพื่อให้รอดชีวิตออกมามองเห็นแสงสว่าง คนดูก็ได้แต่ตามลุ้นแล้วลุ้นอีกว่าเขาจะทำสำเร็จหรือไม่
ขณะเดียวกัน มันก็เล่าถึงตัวละครที่อยากเหลือเกินที่จะหลุดพ้นจากการกดขี่ แต่ก็ไม่สามารถจะก้าวออกมา ได้แต่ก้มหน้าทำตามระบอบของท่านผู้นำ เหมือนจะตั้งคำถามกลายๆ ถึงสิ่งที่อยู่ในใจของคนแดนเหนือว่า พวกเขากล้าพอจะแปรพักตร์หรือเปล่า
เรื่องย่อหนัง ‘Escape’
อิมกยูนัม (อีเจฮุน จากซีรีส์ ‘Taxi Driver’) เป็นทหารของเกาหลีเหนือมานานเกือบ 10 ปี เขาใกล้จะได้ปลดประจำกาลแล้ว และเขาก็รอวันนั้นอยู่ แต่เขาก็รู้ว่า แม้จะปลดแล้ว ชีวิตของเขาก็ยังไร้ความหวังอยู่ดี ชีวิตทุกวันของเขาใช้ไปกับการสะสมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการหลบหนีลงใต้ของเขาเท่านั้น
แต่การหนีไม่สำเร็จในดินแดนแห่งนี้ ผลลัพธ์ของมันคือความตายสถานเดียว เพราะทหารที่เป็นทั้งเพื่อนเป็นทั้งผู้บังคับบัญชา อย่าง ฮยอนซัง (คูคโยฮวาน จากซีรีส์ ‘D.P.’) กลายเป็นขั้วตรงข้ามและอุปสรรคขวากหนามขนาดใหญ่ที่ขวางกั้นไม่ให้เขากระทำการหลบหนีครั้งนี้ได้สำเร็จ
รีวิวหนัง ‘หนี ให้พ้นนรก’
เรามักจะเห็นบทบาทของ อีเจฮุน ในแบบตำรวจอยู่บ่อยๆ ตามซีรีส์ต่างๆ ที่เขารับเล่น ด้วยบุคลิกมุทะลุดุดัน กับสีหน้าแววตาที่ขึงขังจริงจังของเขา ที่อาจเป็นเหตุให้ได้รับประมาณนี้อยู่บ่อยๆ ครั้งนี้ก็ไม่ได้ต่างอะไรสักเท่าไหร่นัก เมื่อเขาได้สวมบทบาทเป็นทหาร แต่เป็นทหารระดับจ่าที่ประจำการอยู่ในเกาหลีเหนือ
แม้ว่าจะเหลือเวลาประจำการอีกไม่มากนัก ภารกิจที่ยาวนานถึง 10 ปีก็จะสิ้นสุดลง แต่ดูเหมือนกยูนัม (ที่ซับไตเติลเขียนว่า “คิวนัม”) ก็ยังมองไม่เห็นแสงแห่งความหวังอยู่ดี ในขณะที่ทางการก็มักจะใส่คำว่าความหวังลงมาในถ้อยคำสวยหรูทุกเมื่อเชื่อวัน แต่กยูนัมก็ไม่เคยปักใจเชื่อ เขายังคงใช้เวลายามค่ำคืนระหว่างทุกคนหลับไหล ลอบออกไปนอกค่ายเพื่อสำรวจเส้นทางอยู่เสมอ แล้วเส้นทางก็ไม่ได้ง่าย ต้องขุดหลุมลอดรั้วออกไปโดยไม่ให้ทหารยามส่องไฟมาเห็น ต้องทำเครื่องหมายเพื่อสำรวจทุ่นระเบิดว่าอยู่ตรงไหนบ้าง
แม้ว่าเรื่องนี้ เขาจะพยายามเต็มที่ไม่ให้ใครรู้ แต่สุดท้ายก็มีคนที่ล่วงรู้อยู่ดี คือพลทหารคิมดงฮยอก (ฮงซาบิน จากหนังเกาหลี ‘Hopeless คน/จน/ตรอก’) ที่มีแม่และพี่สาวอยู่แดนใต้ จึงอยากจะขอติดตามหนีไปพร้อมกัน
ตัวอย่างหนังอาจจะไม่ได้เปิดเผยอะไรมากมายนัก ซึ่งก็เป็นเรื่องดี เพราะผู้ชมจะได้มาพบกับอะไรที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนที่พรั่งพรูมาให้เจอเต็มไปหมด บทหนังดูจะตั้งใจให้คนดูรู้สึกลุ้นไปว่า ‘ภารกิจหนีทหาร’ ของกยูนัมในครั้งนี้จะสำเร็จลุล่วงหรือไม่ เพราะดูท่าทางโอกาสทำสำเร็จมันช่างแสนริบหรี่ซะเหลือเกิน
บทหนังระบุให้ว่า ‘ความหวัง’ ที่ทางการสร้างเอาไว้นั้นเป็นแค่ภาพลวง มันไม่เคยมีจริง มีแต่ความมืดมน และมีแต่อนาคตที่คนในชาติขีดเขียนเองไม่ได้ ‘ความหวัง’ เดียวที่กยูนัมมองเห็นจึงเป็นการลงใต้ ที่นี่เขามองว่าเป็น ‘ความหวัง’ ที่แท้จริง ที่นั่นเขาสามารถกำหนดชีวิตตนเองได้ สามารถล้มเหลวแล้วกลับได้เริ่มต้นสู้ใหม่ได้ ซึ่งต่างจากที่นั่นราวฟ้ากับเหว เพราะเหตุนั้น การหนีทหารคือการเสี่ยงตายเพื่อไปเจอความหวัง กยูนัมจึงต้องทั้งวิ่ง มุด กลิ้ง หลบกับระเบิด และฝ่าดงกระสุนเพื่อไปให้ถึง ‘ชีวิตที่ดีกว่า’ บทนี้จึงยังคงเหมาะกับอีเจฮุนเป็นยิ่งนัก
ขณะที่อีกด้านก็เป็นฮยอนซัง นายทหารขั้วตรงข้ามกับกยูนัม ซึ่งรับบทโดย คูคโยฮวาน ที่เหมือนจะรู้จักมักจี่กับกยูนัมเป็นอย่างดี เขาคือผู้ล่วงรู้แผนการหลบของกยูนัม ลองใจด้วยการเสนอดึงตัวกยูนัมไปเป็นผู้ช่วย แต่ตามกฎแล้วการหลบหนีถือเป็นความผิดคิดคดทรยศต่อท่านผู้นำที่ต้องโทษประหาร (ซึ่งก็เห็นมีอยู่โทษเดียว) จึงเข้ามาขัดขวางทุกวิถีทาง จนทำให้คนดูอย่างเราๆ นั่งลุ้นกันตัวโก่งว่าพระเอกจะรอดไปได้อย่างไรเมื่อเจอตัวร้ายเล่นโหดขนาดนี้
แต่ขณะเดียวกัน บทหนังก็สร้างสีสันให้กับฮยอนซัง ด้วยการใส่ให้เขามีจริตจก้าน มีรสนิยมรักร่วมเพศ ที่ก็พาให้เราได้เจอ ซงคัง ที่ร่วมแสดงในบทของซอนอูมิน หนังทำให้คาแรกเตอร์ฮยอนซังมีหลายมิติ เขาเป็นทั้งคนอ่อนไหว มีความรักที่ต้องห้าม ต้องตัดใจละทิ้งความฝันทางดนตรี แต่เลือกที่จะยอมตามท่านผู้นำ และสาดซัดความโหดใส่กยูนัมแทน
บทอาจจะมีเว่อร์ๆ บ้างก็ทำใจปล่อยไปเผื่ออรรถรสความมันในแบบหนังแอ็คชัน ไม่ว่ายังไง หนังก็เดินเรื่องได้สนุก คนดูจะได้ทั้งมุกชวนขำ เข้าโหมดดราม่าสลับกับโหมดลุ้นระทึกหนีตายเพื่อแปรพักตร์ไปหาความหวังที่แดนใต้ ทั้งเหตุการณ์ยังพลิกไปพลิกมาได้อยู่เรื่อยๆ จากที่คิดจะจบแล้ว ยังมีทางเล่าต่อได้อีก ใครอยากจะพาตัวเองมาเจอความสนุกลุ้น ก็เชิญเลือกดูหนังเรื่องนี้กันได้เลย
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | Escape / หนี ให้พ้นนรก / 탈주 |
กำกับ | Lee Jong Pil/อีจองพิล |
เขียนบท | Kwon Sung Whee, Kim Woo Geun |
แสดงนำ | Lee Je Hoon, Koo Kyo Hwan, Hong Sa Bin, Esom, Song Kang, Lee Ho Jung |
แนว/ประเภท | แอ็คชัน, ผจญภัย, ระทึกขวัญ |
เรท | |
ความยาว | 94 นาที |
ปี | 2024 |
สัญชาติ | เกาหลีใต้ |
เข้าฉายในไทย | 18 กรกฎาคม 2024 |
ผลิต/จัดจำหน่าย | Megabox Plus M, The Lamp, มงคลภาพยนตร์ |
คะแนนหนัง หนี ให้พ้นนรก
พล็อตและบท - 7.5
การดำเนินเรื่อง - 7.8
การแสดง - 7.8
การถ่ายทำ โปรดักชัน และเทคนิคพิเศษ - 7.6
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.5
7.6
Escape
หนังตั้งใจหยิบความบันเทิงใส่มือผู้ชมอย่างเต็มที่ ด้วยบทที่อาจจะจงใจอวยแดนใต้และกล่าวร้ายแดนเหนือที่พบเห็นกันมาจนเป็นปกติ หนังมันเล่าถึงทหารแดนเหนือที่แม้ใกล้ปลดประจำการแต่ก็ยังอยากจะหนีทหารลงมายังแดนใต้ ด้วยความหวังที่จะได้กำหนดชะตาชีวิตตนเอง แต่อย่างที่รู้กันว่า ใครหนีทหารจะถูกฆ่าตายทันที งานนี้ ตัวนำจึงต้องฟันฝ่าทุกอย่างแต่หนีจากนายทหารจอมโหดเพื่อให้รอดชีวิตออกมามองเห็นแสงสว่าง คนดูก็ได้แต่ตามลุ้นแล้วลุ้นอีกว่าเขาจะทำสำเร็จหรือไม่