หลังได้พบกับหนังแนวฆาตกรรมและการสืบสวนที่ดัดแปลงสร้างจากนิยายขายดีของ อกาธา คริสตี้ ไปในภาคก่อน ‘Murder on the Orient Express’ มาคราวนี้ แอร์กูล ปัวโรต์ ก็วาดลวดลายสืบคดีอีกครั้ง เปลี่ยนจากบนรถไฟอันหรูหรา ไปอยู่บนเรือสำราญกลางลำน้ำไนล์ กับหนังภาคใหม่อย่าง ‘Death on the Nile’ ชื่อไทย ‘ฆาตกรรมบนลำน้ำไนล์’
เมื่อเกิดเหตุคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญสุดระทึกใจกลางเรือสำราญหรูล่องแม่น้ำไนล์ ก่อความโกลาหลแก่ผู้ร่วมทางอย่างไม่มีวันลืม ก็ถึงเวลาที่สุดยอดนักสืบอย่าง แอร์กูล ปัวโรต์ จะได้ออกโรงอีกครั้ง คดีอันซับซ้อนซ่อนเงื่อน ยากจะมองเห็นว่าใครกันแน่ที่เป็นผู้ร้าย แต่ที่แน่ๆ เขาอยู่บนเรือสำราญลำนี้อย่างไม่ต้องสงสัย ตามแนวทางของนิยายแนวสืบสวนของนักเขียนผู้นี้ การหักมุมสุดขั้วจะเกิดขึ้นหรือไม่ ตรงไหน…
ได้เวลาไปนั่งดูในโรงกันแล้วล่ะ
เรื่องย่อหนัง ‘ฆาตกรรมบนลำน้ำไนล์’
สุดยอดนักสืบหัวใสชาวเบลเยียมอย่าง แอร์กูล ปัวโรต์ (Kenneth Branagh/เคนเน็ธ บรานาห์ จากหนังเรื่อง ‘Harry Potter and the Chamber of Secrets’, ‘Dunkirk’ และ ‘Valkyrie’) นักสืบหนวดงามผู้มีไหวพริบปฏิภาณและชอบสังสรรค์ท่ามกลางสังคมไฮโซ ครั้งนี้เขากลับมาอีกครั้ง หลังไขคดีบนรถไฟสายด่วนได้สำเร็จ เขาก็ขึ้นเรือสำราญล่องแม่น้ำไนล์โดยไม่ได้ตั้งใจ
เหตุมันเริ่มมาจากการที่ปัวโรต์ได้รู้จักกับ ลินเน็ต ริดจ์เวย์ (Gal Gadot/กัล กาด็อต จากหนังเรื่อง ‘Wonder Woman’, ‘Criminal’ และ ‘Triple 9’) มหาเศรษฐีสาวเพื่อนของ แจคกี้ (Emma Mackey จากซีรีส์ ‘Sex Education’) เธอกำลังอยู่ในช่วงฮันนีมูนกับเจ้าบ่าวและสามีนาม ไซม่อน ดอยล์ (Armie Hammer จากหนังเรื่อง ‘Call Me by Your Name’ และ ‘On the Basis of Sex’) เธอชักชวนให้เขาร่วมล่องแม่น้ำไนล์ไปด้วยเพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุร้ายกับตน ซึ่งมันก็เกิดขึ้นจริงๆ นั่นแหละ
นักสืบปัวโรต์กับผู้คนที่รายล้อมเกี่ยวข้องกับลินเน็ต ต่างโดยสารเรือสำราญคาร์นัคลำใหญ่และหรูหรา ที่แล่นไปตามลำน้ำไนล์ ก่อนหน้านั้น ลินเน็ตแจ้งว่า รอบตัวเธอมีแต่คนที่ไม่น่าไว้ใจ คนมีเงินไม่มีเพื่อนที่แท้จริงหรอก คดีนี้จึงแต่มีความโลภ ความอาฆาตแค้น เป็นแรงจูงใจ แล้วนักสืบหนวดงามผู้นี้จะไขคดีได้หรือไม่ เพราะยังไงๆ เขาก็รู้ดีว่า
ฆาตกรตัวร้ายแฝงอยู่ในหมู่ผู้โดยสารเรือลำนี้แน่ๆ
รีวิวหนัง ‘Death on the Nile’
จากนิยายของอกาธา คริสตี้ ที่ตีพิมพ์ออกจำหน่ายในปี 1937 ถูกดัดแปลงมาเป็นภาพยนตร์แนวลึกลับผสมอาชญากรรม ที่เล่าเรื่องของความหรูหราฟู่ฟ่าที่เป็นฉากหน้า ทว่าเบื้องหลังล้วนเต็มไปด้วย ความอิจฉาริษยาอาฆาตมาดร้าย ครั้งนี้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนเรือสำราญที่ล่องไปในลำน้ำไนล์ พวกเขายกขบวนกันไปถ่ายทำในเมืองอัสวอน ประเทศอียิปต์จริงๆ แถมยังสร้างเรือสำราญขนาดเท่าของจริงเพื่อใช้ในการถ่ายทำ แถมผู้กำกับภาพอย่าง Haris Zambarloukos ยังเลือกใช้กล้องฟิล์ม Panavision ในการถ่ายทำอีกด้วย
เรื่องราวครั้งนี้ ถูกเล่าย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่ปัวโรต์เป็นทหารเบลเยี่ยมและร่วมรบในสงคราม หนังทำให้เราได้รู้จักกับยอดนักสืบหนวดงามคนนี้ให้ลึกซึ้งกว่าที่เคย แถมยังผูกเรื่องราวที่ทำให้ย้อนนึกไปถึงอดีตของเขา แถมคนดูยังได้เข้าถึงตัวตนของปัวโรต์ได้มากกว่าที่เคยเป็นมาอีกด้วย
จากนั้นจึงค่อยหันมาเรื่องราวในปัจจุบัน [เวลาของตัวละคร] ที่เขาได้พบกับเศรษฐีสาวสวยนาม ลินเน็ต ริดจ์เวย์ ที่จู่ๆ ก็สามารถคว้าใจไซม่อนแฟนหนุ่มของเพื่อนสาวอย่างแจคกี้ไปครองหน้าตาเฉย ส่งผลให้แจคกี้เลือกจะตามราวีด้วยการไปปรากฏตัวในทุกที่ที่บ่าวสาวคู่นี้อยู่ แน่นอนว่า คนดูย่อมจะเพ่งเล็งแจคกี้เพราะรู้สึกว่าเธอมีแรงจูงใจ
ในที่สุด ช่วงเวลาฮันนีมูนที่เหลือของคู่รักข้าวใหม่ปลามันก็ถูกจัดขึ้นบนเรือสำราญ ซึ่งผมว่า ก็เป็นวิธีคิดที่เข้าทีเหมือนกัน หากเกิดอะไรขึ้นก็ถือว่าทุกอย่างถูกจำกัดทั้งพื้นที่และคนเอาไว้แล้ว ฆาตกรย่อมจะไม่ใช่คนอื่น ต้องอยู่บนเรือลำนี้แน่ ทั้งไซม่อนและเล็นเน็ตเลือกที่จะเชื้อเชิญให้แอร์กูล ปัวโรต์ เดินทางไปด้วยเพื่อช่วยสอดส่อง
ทว่า กลับเกิดเหตุฆาตกรรมขึ้นจริงๆ ปัวโรต์จึงต้องปวดหัวเพราะฆาตกรอาจเป็นใครก็ได้ ไม่ใช่แค่แจคกี้ แต่เป็นทุกคนที่มีแรงจูงใจ
ภาคนี้ หนังอาจใช้เวลามากหน่อยในการปูเรื่องราว แต่ก็นับเป็นเรื่องดีที่ทำให้เราได้รู้จักกับตัวละครหลักอย่าง แอร์กูล ปัวโรต์ ให้ลึกซึ้งและมีมติเพิ่มขึ้น อีกทั้งก็ยังได้ให้เวลาผู้ชมได้รู้จักกับที่มาที่ไปของตัวละครหลักๆ อย่าง เล็นเน็ต ไซม่อน และแจคกี้ ในระหว่างนั้น หนังก็จะพาเราไปรู้จักกับตัวละครตัวอื่นๆ ที่อาจจะมองไม่เห็นแรงจูงใจมากนัก แต่บางตัวก็เริ่มมองเห็นเค้าลางบ้างแล้ว
จากนั้น เมื่อเรือล่องไปตามลำน้ำ เหตุร้ายๆ ก็เริ่มต้น และก็ไม่พ้นมีเหตุฆาตกรรม ช่วงนี้ ก็จะได้ปวดหัวกันไปกับบทสนทนาต่างๆ แอร์กูล ปัวโรต์ คือ นักสืบหน้าหนวดที่เฉลียวฉลาดในการตั้งคำถามและคิดวิเคราะห์ แม้จะดูเป็นคนหยิ่งทะนงและภาคภูมิในตนเองอยู่สักหน่อย บทสนทนาในนั้น ใครที่ตามทันก็คือสนุก คนที่ตามไม่ทันก็แทบจะกลายเป็นคนนอก แต่อย่างน้อยก็บอกได้ว่า ไม่มีใครบนเรือที่น่าไว้ใจแม้สักคน
เรื่องราวเดินค่อนข้างฉับไว ใส่จังหวะสับขาหลอกไปมา จนเมื่อไหร่คนดูเริ่มจะมึนงงเดาทางไม่ถูก ปัวโรต์ก็จัดข้อสรุปที่ฆาตกรยังต้องอึ้ง ทั้งยังเก็บประเด็นที่ทิ้งไว้ตั้งแต่ต้น มาขมวดตอนปิดท้าย โดยรวมของภาคนี้จึงดูน่าสนใจ ไม่น่าเบื่อเท่ากับภาคแรกอย่าง ‘Murder on the Orient Express (ฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส)’
สิ่งที่ผมชอบมากในภาคนี้ก็เห็นจะเป็น งานถ่ายภาพที่ถ่ายทอดอียิปต์ออกมาสวยงามตะลึงตาเอามากๆ การถ่ายด้วยกล้องฟิล์มดูเหมาะและเข้ากันอย่างยิ่งกับหนังที่ต้องการความวินเทจ ดนตรีประกอบจากผลงานของ Patrick Doyle ก็นับเป็นอีกสิ่งที่ช่วยเล่าเรื่องให้น่าตื่นตามากขึ้นเช่นกัน ประสานกันไปกับงานภาพได้อย่างกลมกลืน
ว่าแล้วก็คงถึงเวลาของคุณแล้วสินะ ที่จะไปร่วมหาคำตอบของคดีนี้ในโรงภาพยนตร์
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | Death on the Nile / ฆาตกรรมบนลำน้ำไนล์ |
ผู้กำกับ | Kenneth Branagh |
ผู้เขียนบท | Michael Green (screenplay by), Agatha Christie (based upon the novel by) |
นักแสดง | Kenneth Branagh, Gal Gadot, Tom Bateman, Letitia Wright, Emma Mackey, Sophie Okonedo |
แนว/ประเภท | Crime, Drama, Mystery |
เรท | MPAA/PG-13, ไทย/ |
ความยาว | 127 นาที |
ปี | 2022 |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
เข้าฉายในไทย | 10 กุมภาพันธ์ 2022 |
ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย | Scott Free Productions, 20th Century Studios |
ฆาตกรรมบนลำน้ำไนล์
พล็อตและบท - 6.7
การดำเนินเรื่อง - 6.5
การแสดง - 6.8
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.2
งานภาพ เทคนิคพิเศษ และโปรดักชัน - 7.3
6.9
Death on the Nile
นักสืบหน้าหนวด แอร์กูล ปัวโรต์ กลับมาในภาคที่สอง ฆาตกรรมบนลำน้ำไนล์ ที่ครั้งนี้เปลี่ยนจากบนรถไฟมาไขคดีบนเรือสำราญ เรื่องราวของคู่รักเพียงแต่งงานใหม่ที่ภรรยาเป็นสาวสวยเศรษฐีที่ไร้เพื่อนที่แท้จริง เมื่อเกิดเหตุฆาตกรรมขึ้นบนเรือ นักสืบผู้เก่งกาจจึงต้องใช้มันสมองและไหวพริบมาวิเคราะห์จับผิดเพื่อจะรู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นฆาตกร งานสืบเข้มข้นน่าติดตามกว่าภาคก่อน ส่วนงานถ่ายภาพอียิปต์มาได้สวยสด แง่มุมนี้ต้องยกนิ้วให้เขาจริงๆ