
จะว่าไปแล้ว นายแพทก็ติดตามดูหนังของผู้กำกับชาวญี่ปุ่นอย่าง Hirokazu Koreeda มาแทบทุกเรื่องที่เข้าฉายในไทยเหมือนกันนะ อาจพอเรียกว่าเป็นแฟนหนังของเขาเลยก็ว่าได้ ยิ่งมาครั้งนี้ เขาเลือกกำกับหนังสัญชาติเกาหลี มีนักแสดงคุ้นหน้าคุ้นตามากมาย แล้วจะทำใจพลาดดูหนังอย่าง ‘Broker’ ชื่อไทย ‘จัดหารัก’ ไปได้อย่างไรกัน
นอกจากจะเป็นผลงานของผู้กำกับที่รู้สึกชื่นชมในฝีมือแล้ว ก็ยังเป็นการรวมตัวกันของเหล่าดารามีชื่อจากเกาหลี ที่สำคัญ หนึ่งในนั้นเป็น อีจีอึน หรือที่ทุกคนรู้จักเธอในชื่อ IU มาร่วมแสดงในบทบาทสำคัญด้วย มันจึงน่าดูเข้าไปใหญ่ อีกทั้งเรื่องราวก็เล่าถึงประเด็นการค้าเด็กทารก การทำธุรกิจหาพ่อแม่บุญธรรมให้กับเด็กน้อยที่ถูกพ่อแม่ที่แท้จริงไม่ต้องการหรือไม่สามารถเลี้ยงดูได้
แนวทางที่ผู้กำกับคนนี้คุ้นเคยเลยแหละ
เรื่องย่อหนัง ‘Broker’
หนังเล่าเรื่องของ Baby Box หรือกล่องรับเด็กทารกที่พ่อแม่ตัวจริงผู้ไม่อาจเลี้ยงดูเด็กได้ จะนำเด็กน้อยมาฝากไว้โดยไม่ต้องเปิดเผยตัว กล่องนี้จะตั้งวางไว้ที่โบสถ์แห่งหนึ่งในเมืองปูซาน โดยมี ซังฮยอน (Song Kang Ho/ซงคังโฮ จากหนัง ‘Parasite’) เป็นคนที่รับเด็กมาและคอยติดต่อและทำข้อตกลงกับพ่อแม่คนใหม่ แน่นอนว่า เขาย่อมต้องเรียกค่านายหน้าและแบ่งส่วนหนึ่งให้พ่อหรือแม่ตัวจริงด้วย เขาเรียกตัวเองว่าเป็น ‘นายหน้าแห่งความปรารถนาดี’ ซังฮยอนทำงานอยู่กับ ดงซู (Gang Dong Won/คังดงวอน จากหนัง ‘Peninsula’) ทั้งสองจะเดินทางด้วยรถตู้สีน้ำเงินคันโทรมเพื่อตระเวนพูดคุยและส่งต่อเด็ก
แต่คืนฝนตก โซยอง (Lee Ji Eun/IU/ไอยู จากซีรีส์ ‘My Mister’) หญิงสาวแม่เลี้ยงเดี่ยวคนหนึ่ง เธอวางลูกน้อยไว้นอกกล่องพร้อมด้วยจดหมายสั้นๆ ฉบับหนึ่ง ก่อนที่อีกวัน จะเปลี่ยนใจมารับลูกกลับคืน
อีกด้าน ทั้งซังฮยอนและดงซู ต่างถูกจับตามองโดย นักสืบซูจิน (Bae Doo Na/แบดูนา จากหนัง ‘Air Doll’ และซีรีส์ ‘Kingdom’) และนักสืบอี (Lee Joo Young/อีจูยอง จากซีรีส์ ‘Itaewon Class’) ที่ตามสืบและหมายจับตัวขบวนค้าทารกกลุ่มนี้อยู่
รีวิวหนัง ‘จัดหารัก’
จากจุดเริ่มต้นที่ผู้กำกับได้รับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับระบบอุปถัมภ์บุตรบุญธรรมในเกาหลี ตอนที่โคเรเอดะหาข้อมูลเพื่อทำหนัง ‘Like Father, Like Son’ ทำให้เขาเกิดไอเดียที่จะสร้างหนังที่เล่าเรื่องนี้ และพัฒนามันเรื่อยมา จากที่เคยมองว่าน่าจะออกมาใกล้เคียงกับ ‘Shoplifters’ เพราะเล่าเรื่องคนชายขอบในสังคมที่พัฒนาแล้วและครอบครัวที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่สุดท้าย มันกลับต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
หนังได้รับเสียงปรบมือยาวนาน 12 นาทีในการฉายที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ พร้อมหอบรางวัลกลับมาทั้ง Best Actor ที่ให้กับ ซงคังโฮ และรางวัล Prize of the Ecumenical Jury ที่มอบให้กับหนังที่เชื่อมั่นในความดีของมนุษย์ ทำให้เสียงเรียกร้องให้มีการนำภาพยนตร์เรื่องนี้มาฉายในไทยมากขึ้น และในที่สุด ฝันของพวกเขาก็เป็นจริง หนังเรื่องนี้ได้ฉายในไทยแล้วตั้งแต่ 23 มิถุนายน เป็นต้นมา
มันเป็นหนังที่ไม่ได้เร่งเร้า ดำเนินเรื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป ให้ผู้ชมได้ซึมซับเรื่องราว ขณะเดียวกัน หนังก็เต็มไปด้วยบทสนทนาที่แทรกข้อมูลและแง่มุมชวนฉุกคิดอยู่ตลอดทาง ทำให้เรารู้สึกว่า ประเด็นของการค้าเด็กทารกนั้นมีหลากหลายมุมให้มอง ทั้งหนังก็ไม่ได้ชี้ชัดหรือชักนำ ได้แต่เปิดประเด็นให้ผู้ชมคิดตาม สิ่งที่โดดเด่นของหนังคือการตั้งคำถามเกี่ยวกับทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกัน ไม่ใช่แค่คำถามเดียว แต่เป็นหลากหลายคำถาม
ปัญหาของการมีเด็กที่ถูกทอดทิ้งมันเริ่มต้นมาจากอะไร การเป็นนายหน้าค้าทารกแท้จริงแล้วเป็นความเลวทรามแต่เพียงถ่ายเดียวหรือไม่ การตั้งท้องโดยไม่ได้ต้องการก่อให้เกิดปัญหาอะไร การเลือกจะเก็บหรือการทำแท้ง ข้อไหนที่ถูกต้องกว่ากัน และก็ยังมีอีกมากมายหลายประเด็นแล้วแต่ใครจะเก็บเกี่ยวสิ่งไหนได้
ตัวซังฮยอนเองก็มองว่าตนเองกำลังทำบุญ เขากำลังทำให้เด็กที่ถูกทอดทิ้งได้โอกาสมีพ่อแม่ใหม่ ทั้งที่ทุกครั้งที่ส่งต่อเด็กให้ เขาเรียกรับเงินค่านายหน้า โดยไม่ได้มองในสิ่งที่จะติดตามมาจากความไม่ใส่ใจของตนด้วยซ้ำ เหมือนกับจะมองว่ามันคือหนทางที่ทำรายได้ได้มากกว่าที่ร้านซักรีดของเขา
หนังเลือกจะให้โซยองเป็นแม่ที่ยังสับสนในตนเอง เธอไม่แน่ใจว่าตัวเองต้องการเด็กคนนี้จริงๆ หรือไม่ เธอทิ้งลูกไว้แต่ก็กลับมา สุดท้ายก็เดินทางไปพร้อมกับนายหน้าเพื่อเฝ้ามองการเสนอขายลูกของตนให้กับคนอื่น ระหว่างทาง เราจึงได้มีโอกาสมองเห็นแง่มุมความคิดต่างๆ ที่แต่ละคนเปิดเผยออกมา รวมทั้งเหล่าพ่อแม่ที่ต้องการได้เด็กทารกไปเลี้ยงดูด้วย ไม่เท่านั้น การที่หนังวางบทให้มีตำรวจนับสืบเฝ้าติดตาม ก็ยิ่งทำให้สิ่งที่ถูกซุกซ่อนไว้ค่อยๆ ถูกเปิดเผย พร้อมกันนั้น แต่ละตัวละครก็เหมือนจะได้ข้อคิดของตน
แต่ละตัวละครในเรื่องต่างก็มีความเทาๆ ในตัวเอง ไม่มีใครขาวสะอาด หรือดำมืดไปเสียทั้งหมด ระหว่างเดินทางไปพร้อมกัน ต่างคนต่างค้นหาความหมาย เพื่อเข้าใจชีวิต และเข้าใจคำว่าครอบครัว
ในด้านการแสดงนั้น ผมมองว่า นักแสดงนำทั้งทีมต่างทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมพอๆ กัน ไม่มีใครเด่นกว่าใคร แม้คานส์จะให้รางวัลกับ ซงคังโฮเพียงผู้เดียว แต่ คังดงวอน แบดูนา อีจูยอง และโดยเฉพาะ อีจีอึน (หรือ IU/ไอยู) ต่างก็สวมบทบาทของตนได้ยอดเยี่ยมไม่มีที่ติ
ขณะที่ในด้านงานภาพนั้น หนังถ่ายทำออกมาอย่างเนี้ยบและสวยงาม ผมชอบช็อตที่หนังถ่ายแบบแบ่งครึ่ง มาหาข้อมูลดูก็เห็นว่าเป็นผลงานของ ฮงคยองเปียว ตากล้องคนดังที่กำกับภาพในหนัง ‘Parasite’ และ ‘Burning’ อีกส่วนหนึ่ง ก็ชื่นชอบดนตรีประกอบของ ‘จัดหารัก’ มากเป็นพิเศษ เพราะมันทำหน้าที่ส่งเสริมอารมณ์ของเหตุการณ์ในเวลานั้นได้อย่างดีเยี่ยม
ฮิโรคาสุ โคเรเอดะ ยังคงทำหนังได้ดีด้วยธีมที่เล่าเรื่องของครอบครัว ทั้งยังมองเห็นมุมมองด้านบวกหรือแง่งามของเรื่องราวอันหนักอึ้ง หนังบ่งบอกความหมายของคำว่า ‘ครอบครัว’ บ่งบอกว่าคุณค่าของการได้เกิดมาบนโลกนี้ น้ำตาเอ่อท้นและรินไหลไปกับเรื่องอันน่าเศร้าสะเทือนใจ หากไม่อาจตัดสินอะไรได้เลยในสิ่งที่พวกเขาทำ
แม้ชีวิตจะเต็มไปด้วยเรื่องหนักหนาและเจ็บปวด แต่หากมองดีๆ มันก็ยังมีความอบอุ่นแทรกซึมอยู่ในนั้นเสมอ
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | Broker / จัดหารัก |
กำกับ | Hirokazu Koreeda |
เขียนบท | Hirokazu Koreeda |
แสดงนำ | Bae Doona, Song Kang Ho, Lee Ji Eun, Lee Joo Young, Gang Dong Won |
แนว/ประเภท | Drama |
เรท | น15+ |
ความยาว | 129 นาที |
ปี | 2022 |
สัญชาติ | เกาหลีใต้ |
เข้าฉายในไทย | 23 มิถุนายน 2022 |
ผลิต/จัดจำหน่าย | Zip Cinema, CJ Entertainment, Mongkol Major |
จัดหารัก
พล็อตและบท - 10
การแสดง - 10
การดำเนินเรื่อง - 10
เพลงและดนตรีประกอบ - 10
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชัน - 10
10
Broker
หนังเลือกจะให้โซยองเป็นแม่ที่ยังสับสนในตนเอง เธอไม่แน่ใจว่าตัวเองต้องเด็กคนนี้จริงๆ หรือไม่ เธอทิ้งลูกไว้แต่ก็กลับมา สุดท้ายก็เดินทางไปพร้อมกับนายหน้าเพื่อเฝ้ามองการเสนอขายลูกของตนให้กับคนอื่น ระหว่างทาง เราจึงได้มีโอกาสมองเห็นแง่มุมความคิดต่างๆ ที่แต่ละคนเปิดเผยออกมา รวมทั้งเหล่าพ่อแม่ที่ต้องการได้เด็กทารกไปเลี้ยงดูด้วย ไม่เท่านั้น การมีตำรวจนับสืบติดตามไปด้วย ทำให้เราได้เห็นสิ่งที่ถูกซุกซ่อนไว้ค่อยๆ ถูกเปิดเผยออกมา พร้อมกันนั้น แต่ละตัวละครก็เหมือนจะได้ข้อคิดของตน อีกอย่าง แต่ละตัวละครในเรื่องต่างก็มีความเทาๆ ด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีใครขาวสะอาด หรือดำมืดไปเสียทั้งหมด ต่างเดินทางไปพร้อมๆ กันเพื่อค้นหาความหมาย เข้าใจชีวิต และเข้าใจคำว่าครอบครัว