ผลพวงจากการที่ฮอลลีวูดมีหนังภาคต่อออกมาเป็นจำนวนมากทำให้คนที่ความจำไม่ค่อยดีมีปัญหาที่ต้องย้อนกลับไปดูภาคเก่าอยู่บ่อยๆ นอกจากนี้ หลายเรื่องยังเป็นการหยิบหนังเก่าในตำนานมาเล่าต่อ ส่งผลให้ต้องย้อนกลับไปดูของเก่าให้ทันก่อนหนังภาคใหม่จะเข้าฉาย ‘Blade Runner’ ก็ไม่พ้นที่จะต้องเป็นหนึ่งในนั้น
ในฐานะที่กำลังจะมีภาพยนตร์ภาคต่อชื่อ ‘เบลด รันเนอร์ 2049’ จ่อเข้าฉาย 5 ตุลานี้แล้ว เราจึงขอหยิบเอาภาคเก่าแก่เมื่อปี 1982 มาเขียนเล่าสู่กันฟังในวันนี้ เพื่อปูพื้นสำหรับหลายคนที่อาจจะยังไม่เคยดูมาก่อน
จะได้รู้ว่าเรื่องราวมันเป็นไงมาไงอะนะ
เรื่องย่อหนัง ‘Blade Runner’
ตอนต้นศตวรรษที่ 21 ไทเรลล์ คอร์ปอเรชั่น ได้คิดค้นสร้างหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ขึ้นมา เรียกพวกมันว่า ‘Replicant’ โดยรุ่นเน็กซัส 6 นั้นโดดเด่นด้านพละกำลังและความปราดเปรียว มีสติปัญญาเทียบเท่านักพันธุวิศวกรรมที่สร้างมันขึ้นมา พวกมันได้ภารกิจเป็นแรงงานทาสนอกโลกเพื่อการสำรวจและการตั้งถิ่นฐานบนดาวดวงอื่น
เกิดเหตุจลาจลนองเลือดบนอาณานิคมนอกโลก พวกเน็กซัส 6 ถูกห้ามกลับโลก ฝ่าฝืนคือตายสถานเดียว และหน่วยตำรวจพิเศษ เบลด รันเนอร์ คือผู้ที่ได้รับมอบหมาย
ให้กำจัดพวกมันทันทีที่พบพวกมันเล็ดรอดเข้ามา
Harrison Ford สวมบทบาทเป็น เดคการ์ด ตำรวจเบลด รันเนอร์ มือเก๋าที่กะจะออกไปพักชิลๆ หลังกรำงานหนักมานาน ทว่ากลับต้องถูกลากตัวกลับไปช่วยกำจัดพวกเน็กซัส 6 ซะนี่
รีวิวหนัง ‘เบลด รันเนอร์’
เหตุการณ์ในเรื่องเกิดขึ้นที่ลอสแองเจลิสปี 2019 ที่ช่างแตกต่างกับลอสแองเจลิสในวันนี้อย่างมาก จินตนาการอันบรรเจิดมันกว้างไกลกว่าความเป็นจริงเหลือหลาย ทุกวันนี้เรายังไม่มีรถที่บินไปในอากาศและสัญจรกันจนเป็นปกติ (แต่อนาคตไม่แน่) และเรายังไม่มีหุ่นที่ระดับสติปัญญาสูงเท่ามนุษย์ มีร่างกายเหมือนมนุษย์ (แต่อนาคตไม่แน่)
ลอสแองเจลิสในหนังดูเจริญมาก ขณะเดียวกันก็สกปรกมากเช่นกัน
หนังใส่ไอเดียของจินตนาการแห่งโลกอนาคตมาอย่างจัดเต็ม คาดหวังว่าโลกจะเต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่ผสมผสานระหว่างหลายชนชาติในเมืองเดียว แอลเอกลายเป็นเมืองแห่งแสงสี และเทรนด์การไปเที่ยวหรืออยู่ดาวดวงอื่นกำลังมา
หนังเต็มไปด้วยดนตรีบรรเลงเพราะๆ จาก Vangelis ที่พอฟังกันยาวๆ เต็มหนังมันพาให้ง่วงได้ง่ายมาก ไม่แปลกใจตัวเองที่ต้องดูหนังเรื่องนี้สองครั้งถึงจะเข้าใจเนื้อหา
โดยรวมมันก็คือการที่ตำรวจมือเก๋านายหนึ่งที่ต้องตามล่าหาตัวกลุ่มมนุษย์เทียม ที่ภายนอกก็ดูเหมือนมนุษย์ทั่วไปนี่แหละ แต่พวกมันก็มีเบาะแสบางอย่างที่จะใช้ตามหาตัวได้ พวกมันตั้งใจจะสืบหาผู้สร้างมัน เพราะต้องการจะให้เปลี่ยนกลไกบางอย่างที่ควบคุมให้พวกมันมีอายุขัยสั้น
และเบาะแสอันนั้นแหละที่จะฆ่าพวกมันเอง
ดูเหมือนไทเรลล์จะมีความทะเยอทะยานสูงในการสร้างหุ่นที่มีทั้งหน้าตาท่าทางและความคิดอ่านที่เหมือนมนุษย์ให้มากที่สุด เขาจึงหุ่นตัวใหม่ขึ้นมาอีกโดยเพิ่มการถ่ายโอนข้อมูลเข้าไป ซึ่งหุ่นตัวนั้นเป็นผู้หญิงชื่อ เรเชล (Sean Young) ซึ่งต่อมาเธอหลบหนีไป
และทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่เขาต้องกำจัด
‘เบลด รันเนอร์’ เป็นหนังเรื่องหนึ่งที่ผมมองว่ามีการจัดแสงและวางองค์ประกอบแสงในการถ่ายที่สวยมาก ด้วยความที่มันเป็นหนังเก่า การสร้างฉากอาจจะดูเก่าๆ ไปบ้าง แต่ต้องชมว่าหลายๆ ช็อตในหนังออกมาสวยมาก ฉากส่วนใหญ่มักจะเป็นช่วงเวลากลางคืนในห้องที่สลัว การจัดแสงเป็นสิ่งที่จะถูกใช้เยอะมาก
ช่วงไคลแมกซ์ของหนัง เรียกได้ว่า เบลด รันเนอร์ ของเรานั้นสะบักสะบอมทีเดียว และดูเหมือนหนังทั้งเรื่องจะมีแต่คุณตำรวจไบรอันท์ (M. Emmet Walsh) คนเดียวที่เท่เกินกว่าใคร เขาไว้หนวดสวมหมวกสวมสูทยาว เดินไปเดินมาทั้งเรื่อง ได้ข่าวว่าเขาจะมาปรากฏกายในภาคใหม่ด้วย
น่าสนใจว่าจะกลับมายังไง
ชื่อภาพยนตร์: Blade Runner / เบลด รันเนอร์
ผู้กำกับภาพยนตร์: Ridley Scott
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Hampton Fancher (screenplay), David Webb Peoples (screenplay)
นักแสดงนำ: Harrison Ford, Rutger Hauer, Sean Young, Rutger Hauer, Sean Young, M. Emmet Walsh, Daryl Hannah, William Sanderson
ความยาว: 117 นาที
แนว/ประเภท: Sci-Fi, Thriller
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
เรท: ไทย/, MPAA/R
ปี: 1982
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Ladd Company, The, Shaw Brothers, Warner Bros.
เบลด รันเนอร์
Blade Runner - 8
8
Blade Runner
ใส่จินตนาการของโลกอนาคตได้อย่างเวอร์วังอลังการ Blade Runner ใช้แสงสีในการถ่ายภาพและวางองค์ประกอบได้ดีสุดยอด เพลงประกอบจาก Vangelis ที่อลังการทว่าชวนง่วงยิ่งนัก แฮร์ริสัน ฟอร์ด คือ สุดยอดมือปราบหนุ่มแห่งยุคปี 2019 ดูเอาไว้เพื่อรับการมาของภาคต่อ
1 คอมเมนต์