ในปี 1959 โลกเราเคยมีหนังเอพิคระดับตำนานอย่าง ‘Ben-Hur (เบน-เฮอร์)’ กับความยาวหนังถึง 3 ชั่วโมง 32 นาที แต่คว้า 11 ออสการ์มาครอบครอง นับว่าเป็นสถิติที่สุดยอดมากในอดีต มันคงยากที่จะทำได้ดีกว่าหรือเท่ากับต้นฉบับ แต่ผ่านมาถึงปี พ.ศ. นี้มีคนกล้าทำออกมาแล้วครับ และคนๆ นั้นคือ Timur Bekmambetov (เจ้าของผลงานกำกับฯ ‘Wanted’ และ ‘Abraham Lincoln: Vampire Hunter’) ผู้กำกับฯ และโปรดิวเซอร์ชาวโซเวียต ผู้กล้าที่จะหยิบของในตำนานมาทำใหม่ ด้วยการดัดแปลงจากงานเขียนเดียวกัน Ben-Hur: A Tale of the Christ ซึ่งไม่ผิดถ้าจะเรียกเวอร์ชั่นนี้ว่าเป็น “รีเมก”
เรื่องราวของสองพี่น้องที่ต้องมาห้ำหั่นกันในสนามกีฬาที่เป็นความภาคภูมิใจแห่งโรมัน เรื่องราวที่ย้อนยุคไปยังอดีตอันแสนไกลในยุคที่คริสตศาสนากำลังจะถือกำเนิด มีฉากจำที่ทุกคนรู้กันดีคือ ฉากแข่งรถม้าในสนามกีฬา ไม่ว่าหนังจะผ่านมานานจนเริ่มจะลืมๆ รายละเอียดไปบ้างแล้วก็ตาม แต่ฉากจำนั้นจะยังคงอยู่
และมันก็ได้รับการนำมาเป็นฉากขายในภาคนี้
เรื่องย่อหนัง ‘Ben-Hur’
เรื่องราวของสองพี่น้องต่างสายเลือด จูดาห์ เบนเฮอร์ (Jack Huston) สายเลือดยิวแท้ๆ ของพ่อกับแม่ ที่มีพี่ชายสไตล์ลูกบุญธรรมอย่าง เมสซาลา เซเวอรัส (Toby Kebbell) ที่รักชอบพอกับน้องสาวของจูดาห์ แต่วันหนึ่งเมสซาลาก็รู้สึกน้อยเนื้ออย่างไรบอกไม่ถูก ขนข้าวขนของออกไปตามหาฝันด้วยการเป็นทหารรับใช้โรมัน พร้อมกับหวังที่จะกลับมาอย่างสมภาคภูมิ
เรียกว่าได้ว่าหวังจะมีเกียรติมากพอจะขอลูกสาวเขาแต่งงาน ว่างั้นเถอะ
แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไป เมื่อจูดาห์ผู้ปรารถนาดีต่อทุกคนต้องกลายมาเป็นทาสรับใช้โรมัน ไต่เต้าจากคนพายเรือรบจนได้ว่าเลี้ยงม้าของชายอาหรับอย่าง Ilderim (Morgan Freeman) ผู้ซึ่งให้โอกาสเขาได้กลับไปแก้แค้นพี่ชายที่หัวใจใฝ่โรมันจนลืมพี่น้องเสียสิ้น
เรื่องราวที่คนดูแล้วคงคุ้นกันดี อาจมีเปลี่ยนแปลงนิดหน่อยนั่นแล
รีวิวหนัง ‘เบน-เฮอร์’
ถ้าเคยได้ดูหนังเวอร์ชั่นเก่าก็จะพบว่าเรื่องราวมันดำเนินไปเชื่องช้ามาก หาวแล้วหาวอีกก็ยังไม่ไปไหนสักที แต่ต้องยอมรับเลยว่าทำแต่ละฉาก อลังการเอามากๆ จนเรียกว่าทำเกินยุคของตัวเองไปมาก สมกับที่ได้รางวัลออสการ์มาท่วมท้นเช่นนั้น
เรื่องราวมันก็เกี่ยวกับศาสนา ความเชื่อ และศรัทธา ที่บางครั้งคนที่อยู่นอกศาสนาก็ยากที่จะอินตามไปได้ มันจึงอาจเหมาะที่จะทำให้หนังมันเดินช้าให้คนดูได้ค่อยๆ ซึมซับเรื่องราว แม้มันจะง่วงไปหน่อยก็ตามทีเถอะ
แต่ด้วยความที่ความคิดของตัวละครและไดอะล็อกต่างๆ มันดูเก่าๆ และภาคดั้งเดิมก็ทำไว้ได้ดีแล้ว ก็ไม่คิดหรอกว่าจะมีใครหยิบมาทำใหม่ได้ดีกว่านั้นไปได้อีก จนวันนี้ มีคนนำมันมาสร้างใหม่ โดยอาจจะปรับเปลี่ยนเรื่องเล็กน้อย แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์เดิมๆ
นั่นคือ “ฉากแข่งรถม้าช่วงท้ายที่แสนตื่นตาตื่นใจ”
ถ้าจะมองไปอีกที ช่วงไหนของหนังอีกที่ดูน่าตื่นตาก็น่าจะเป็นช่วงที่จูดาห์ต้องไปเป็นทาสคอยเป็นฝีพายให้กับเรือรบโรมันที่สู้อยู่กับกองเรือกบฎกรีก ช่วงนั้นถือเป็นอีกช่วงหนึ่งที่กราฟของหนังเริ่มตีตื้นขึ้นมา ทว่าก็ยังไม่สุด
ถ้ามองไปที่นักแสดง ไม่มีใครเลยที่เราจะรู้จักนอกไปเสียจาก Morgan Freeman ชายผิวสีที่แต่งตัวเป็นอาหรับผู้ส่งรถม้าเข้าชิงชัยในสนามกีฬาเลือด อีกคนที่ผมมองแทบไม่วางตาก็คงจะเป็นเอสเธอร์สาวใช้ที่กลายมาเป็นเมียของจูดาห์ Nazanin Boniadi เธอสวยคมตรงตามสเป็ก เวลายิ้มเธอช่างชวนมองเป็นที่สุด เธอมักจะเล่นซีรีส์เสียมากกว่า แต่ก็เคยมาเล่นเป็น Amira Ahmed ใน ‘Iron Man (2008)’ ด้วยนะครับ
ลองมองโดยรวมๆ ของ ‘เบน-เฮอร์’ บทหนังมีความเก่าอยู่มาก แทบจะเรียกว่าเชยเกินไปสำหรับสมัยนี้ มีความเป็นละครเวทีมากกว่าจะเป็นหนัง แถมเวอร์ชั่นใหม่ก็ไม่ชวนให้ลงลึกไปในชีวิตของตัวละครจนคนดูไม่อาจจะอินในตัวละครใดๆ จนขนาดเอาใจช่วยได้ แม้จะถูกตัดต่อให้ดูสั้นลงกว่าเวอร์ชั่นดั้งเดิมราว 1 ชั่วโมงกว่าๆ แต่ก็ไม่อาจจะทำให้ความเนือยนั้นหายไปเสียทั้งหมด
และกลายเป็นว่าฉากขายอย่างช่วงแข่งรถม้าคือฉากที่ทุกคนรอคอยซึ่งก็ทำได้ค่อนข้างดี แต่ก็เรียกได้ว่าดีตามที่เทคโนโลยีการสร้างหนังสมัยนี้จะทำได้ แต่ถ้าเทียบกับหนังเวอร์ชั่นก่อนก็อาจจะไม่
หนังไม่ได้ถึงขั้นย่ำแย่อย่างที่กลัวกัน แต่หนังก็ไม่อาจจะทำได้ดีกว่าต้นฉบับ โดยเฉพาะฉากบทสรุปที่เล่นเอาผมอึ้งๆ ไปเหมือนกันว่าจะตัดบทกันง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ และสุดท้ายภาพ 3 มิติไม่ได้ขับเน้นอะไรออกมาเท่าที่ควร
แทบจะไม่ต่างอะไรกับหนัง 2 มิติเลยด้วยซ้ำ
ชื่อภาพยนตร์: Ben-Hur / เบน-เฮอร์
ผู้กำกับภาพยนตร์: Timur Bekmambetov
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Lew Wallace (based on the novel by), Keith R. Clarke (screenplay)
นักแสดงนำ: Jack Huston, Toby Kebbell, Rodrigo Santoro, Nazanin Boniadi, Sofia Black-D’Elia, Morgan Freeman
แนว/ประเภท: Adventure, Drama
ความยาว: 124 นาที
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
เรท: ไทย/ , USA/PG-13
วันเข้าฉายในประเทศไทย: 18 สิงหาคม 2559
ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย/สตูดิโอ: LightWorkers Media, Metro-Goldwyn-Mayer (MGM), Paramount Pictures
เบน-เฮอร์
Ben-Hur - 5
5
Ben-Hur
เรื่องราวมันดำเนินไปเชื่องช้ามาก แต่ต้องยอมรับว่าแต่ละฉากนั้นอลังการมาก บทหนังมีความเก่าอยู่มาก แทบจะเรียกว่าเชยเกินไปสำหรับสมัยนี้ มีความเป็นละครเวทีมากกว่าจะเป็นหนัง แถมเวอร์ชั่นใหม่ก็ไม่ชวนให้ลงลึกไปในชีวิตของตัวละครจนคนดูไม่อาจจะอินในตัวละครใดๆ