ปีนี้คงเป็นปีของหนังแนวซูเปอร์ฮีโร่เสียจริงๆ เพราะตั้งแต่ต้นปี เราก็ได้เสพหนังซูเปอร์ฮีโร่มาแทบทุกเดือน และมีนาคมเดือนนี้ ก็ถึงทีของซูเปอร์ฮีโร่ดังจากฝั่ง DC Comics ที่มาพร้อมกันหลายตัว ที่เป็นที่รู้กันว่าพวกเขามาเพื่อปูทางไปสู่หนังรวมฮีโร่ที่สุดยิ่งใหญ่อลังการที่กำลังจะตามมาในอนาคตอันใกล้นี้ หนังเรื่องที่ผมกำลังพูดถึงและเพิ่งดูไปในวันนี้ ก็คือ ‘Batman v Superman: Dawn of Justice’ นั่นเอง
หลังจาก Superman มีเรื่องราวของตัวเองใน ‘Man of Steel’ มาก่อนที่ทำให้เราได้รู้ว่าเขามาจากโลกอื่น มีพละกำลังเหนือมนุษย์ เติบโตจากการเลี้ยงดูของมนุษย์ ถูกปลูกฝังให้ทำเพื่อโลกและมวลมนุษย์ และมนุษยชาติก็ได้รู้จักกำเนิดของ Batman มาจากไตรภาคที่ลือลั่นจากฝีมือของ Christopher Nolan ว่าเขาเติบโตมาจากการเป็นลูกคนรวยที่พ่อแม่ของเขาถูกฆมาตกรรมต่อหน้าในวันนั้น
จนมันส่งผลให้เขาเลือกทางเดินแห่งฮีโร่ในวันนี้
เรื่องย่อหนัง ‘Batman v Superman: Dawn of Justice’
นอกจากเราๆ ท่านๆ จะได้รู้จักกำเนิดของซูเปอร์ฮีโร่ทั้งสองตัวแล้ว ในภาคนี้ เราจะได้รู้ว่าซูเปอร์ฮีโร่สองตัวมาเกี่ยวข้องกันได้ยังไง พวกเขาเป็นซูเปอร์ฮีโร่ต่างเมืองกัน Batman/แบทแมน (Ben Affleck ผู้ได้ออสการ์จาก ‘Argo’) ครองเมืองของตนอย่าง Gotham ส่วน Superman/ซูเปอร์แมน (Henry Cavill) ก็กลายเป็นพระเจ้าสำหรับคนเมือง Metropolis ซึ่งมันจะอยู่ตรงไหนของแผนที่สหรัฐอเมริกาก็ไม่รู้แหละ รึทั้งสองเมืองมันอาจจะเป็น ‘Paper Town’ ก็ได้ ใครจะรู้
เรื่องของเรื่องมันคือสงครามที่ซูเปอร์แมนมีส่วนร่วมใน ‘Man of Steel’ มันได้ทำลายตึกที่ทำการและผู้คนของแบทแมน ซึ่งนั่นทำให้อัศวินรัตติกาลมองว่าการที่มีซูเปอร์ฮีโร่ที่มีพลังมากๆ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เมือง และจะปล่อยให้เขาตัดสินใจเอาเองว่าจะช่วยหรือไม่ช่วยใครอย่างนั้นไม่ได้
เรื่องมันจะไม่บานปลายมากนัก ถ้าไม่มีจอมเกรียนที่คอยยุแหย่ให้สองซูเปอร์ฮีโร่แตกคอ เขาคือ Lex Luthor/เล็กซ์ ลูเธอร์ (Jesse Eisenberg จาก ‘Now You See Me’ และ ‘The Social Network’ ยังไงล่ะ) ที่พยายามอย่างยิ่งที่จะดิสเครดิตซูเปอร์ และยุยงให้สองคนรบราฆ่าฟัน แถมยังคิดการณ์ใหญ่สร้างวายร้ายตัวใหม่ขึ้นมาใช้งานด้วย
งานนี้ ถือเป็นการแจ้งเกิดของซูเปอร์ฮีโร่ตัวใหม่ในจอหนัง ที่รู้กันแน่ๆ ก็คงจะเห็น Wonder Woman/วันเดอร์วูแมน (Gal Gadot สาวสายที่โด่งดังจากบนจีเซล ใน ‘Fast Five’, ‘Furious 6’ และ ‘Furious Seven’) เธอคือซูเปอร์ฮีโร่สาวสายที่จะมากระชากหัวใจหนุ่มให้แหลกเป็นชิ้นๆ
นี่แหละคือจุดเริ่มต้นของการรวมตัว Justice League ที่กำลังจะมาในไม่ช้า…
รีวิวหนัง ‘แบทแมน ปะทะ ซูเปอร์แมน แสงอรุณแห่งยุติธรรม’
จริงๆ แล้วผมว่าแบทแมนแสร้งบอกใครเขาว่าซูเปอร์แมนมีพลังมากเกินไป เกรงจะใช้พลังไปอย่างไม่ถูกต้อง สร้างความเสียหายที่ใหญ่หลวง ทั้งที่จริงแล้ว ดูก็คงรู้ว่าเพราะแบทแมนผูกใจเจ็บที่ซูเปอร์แมนเป็นต้นเหตุให้ตึกของเขาพัง และคนของเขาต้องบาดเจ็บล้มตาย ซูเปอร์แมนกลายเป็นพระเจ้าของใครๆ แทนที่แบทแมนซึ่งมาก่อน
หนังเล่าหลายปม จนจับประเด็นไม่ถูก
แม้นี่จะเป็นหนังที่กำกับฯ โดย Zack Snyder และเขียนบทโดย Chris Terrio และ David S. Goyer แต่ขณะดูก็ยังพบว่าหนังพยายามจะเล่าหลายเรื่องราวเกินไป จนคนดูเองจะจับจุดไม่ถูกว่า เขาจะมาทางไหน มันมีทั้งประเด็นของความชอบธรรมในการเป็นซูเปอร์ฮีโร่ ความหมั่นไส้กันเองระหว่างผู้มีพลังต่างเมือง การปูทางสอดแทรกตัวละครใหม่ๆ ที่กำลังจะมีบทบาทในภาคถัดๆ ไปของ ‘The Justice League’
หรือการถือกำเนิดขึ้นมาของวายร้ายตัวใหม่ที่เรายังไม่ทราบแน่ชัดถึงแรงจูงใจของเขา
เราอาจพบว่า เล็กซ์ ลูเธอร์ แห่ง LexCorp กลายเป็นแค่เศรษฐีหนุ่มเกรียนคนหนึ่งที่มีลีลากวนๆ แบบโจ๊กเกอร์ แต่มีสไตล์การพูดแบบมาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก ออกมาทักทาย บรูซ เวย์น และ คลาร์ก เคนต์ อย่างเป็นกันเอง แล้วก็จัดฉากยุให้พวกเขาตีกัน แต่ไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร หรือโกรธแค้นสิ่งไหนต่อพวกเขา นั่นก็คือ เหตุผลหนึ่งที่การเหล่าหลายประเด็นทำให้บางอย่างไม่แจ่มชัด
อีกทั้งหนังยังใช้เวลาการปูเรื่องราวยาวยืด ไล่ตั้งแต่กำเนิดของซูเปอร์ฮีโร่ทั้งสองที่ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วผ่านสไตล์ภาพสโลโมชั่นอันงามงด มิอาจเถียงได้เลยถึงงานภาพที่ออกมาหมดจด แต่แล้วการเล่าเรื่องที่ “เอาเท่” ของ ผกก. ประกอบการเล่าหลายประเด็น
ก็เลยทำให้หนังเกือบครึ่งแรกค่อนข้างไปในทางน่าง่วงเสียมากกว่า
ภาพสวย ดนตรีอลังการ วิชวลสุดตะลึง
คงมิมีใครจะปฏิเสธได้หรอกถึงความสวยงามด้านงานภาพ ทุกช่วงของหนัง เหมือนเขาประณีตมากกับการถ่ายภาพของ ‘แบทแมน ปะทะ ซูเปอร์แมน แสงอรุณแห่งยุติธรรม‘ ให้ออกมางามงดจนทุกคนต้องร้อง “ว้าว” ผสานไปกับเสียงดนตรีประกอบที่สร้างอารมณ์และความรู้สึก “ยิ่งใหญ่” และ “ตื่นเต้น”
แม้มันจะเดินไปอย่างมึนๆ และผู้ชมบางส่วนออกอาการ “หาว” อยู่ก็ตาม
แต่หลังจากผู้ชมผ่านช่วงเวลาของการปูเรื่องอันยาวนานมาได้ ก็จะพบว่า เวลาของการลุ้นระทึกสุดมันได้เริ่มขึ้นแล้ว ด้วยลีลาการต่อสู้ของซูเปอร์ฮีโร่สองฟากฝั่ง มนุษย์ธรรมดากับมนุษย์ต่างดาว ชาวเมือง Gatham กับชาวเมือง Metrolpolis เด็กกำพร้าที่พ่อแม่ถูกฆ่า กับ เด็กกำพร้าผู้ถูกชุบเลี้ยงโดยมนุษย์ คนมีปมกับคนจิตใจดี ผ่านงานวิชวลที่สุดอลังการ
ผู้ชมอย่างเราได้แต่อ้าปากค้าง เมื่อได้พบกับฉากการต่อสู้ที่ทั้งภาพสวย สุดมัน ดนตรีอลังการ ช่วงนั้นช่างต่างกับช่วงก่อนหน้าเหลือเกิน
Wonder Woman คือ Gal Gadot คือดี
นี่คือตัวละครตัวใหม่ที่วันหนึ่ง เธอจะมีภาคแยกของตัวเอง เธอคือ ‘Wonder Woman/วันเดอร์วูแมน’ ซูเปอร์ฮีโร่หญิงแสนสวยสูงโปร่งหุ่นดีตาคม เอาเป็นว่า “เป๊ะ” ก็แล้ว เมื่อเข้ามาแค่แว้บแรกก็สะกดทุกสายตา ไม่เว้นแม้แต่สองซุปนั่นด้วยซ้ำ
ทุกเสียงคงเห็นพ้องต้องกันว่า Gal Gadot คือตัวเลือกที่เหมาะแล้วจริง เพราะพร้อมจะเข้ามาขโมยซีนทุกอย่างไปจากแบทแมนและซูเปอร์แมน
แม้ว่ามันจะไม่มีช่วงเวลามากมายให้เล่าถึงที่มาที่ไปของเธอ ได้แต่ใส่น้ำจิ้มมานิดๆ หน่อยๆ ให้คนดูสงสัย แต่สำหรับคนที่ติดตามคอมมิคของดีซีมานาน ก็คงจะรู้ซึ้งดีกว่าใคร หนังไม่ได้มีแต่วันเดอร์วูแมน แต่ยังเปิดเผยตัวละครซูเปอร์ฮีโร่บางตัวที่จะมาในภายภาคหน้า
แต่ในภาคนี้ เราจะได้พบว่านี่คือตัวละครซูเปอร์ฮีโร่หญิงคนแรกๆ ที่ได้มีช่วงเวลาพะบู๊สุดระห่ำและเท่กว่าคนไหนที่เคยพบมา เธอจะอยู่ในหนังนานพอดูแต่คงจะดีกว่านี้ได้เห็นเธอตลอดเรื่องราว เอาไว้ดูหนังของเธอเต็มๆ ก็แล้วกันนะ
โดยรวม หนังไม่ได้ย่ำแย่มากนัก อาจจะเรียกได้ว่า ดีกว่า ‘Man of Steel’ ด้วยซ้ำ แถมยังหยิบบางส่วนในนั้นมาเล่าต่อ นัยว่าถ้าดูหนังของแบทแมนและซุเปอร์แมนมาก่อน ก็น่าจะช่วยให้ได้อรรถรสเต็มๆ กว่า หนังมีช่วงเวลาที่น่าอึดอัดในองก์แรก แต่เล่าแบบเอาเท่และเล่าหลายเรื่องจนไม่สามารถเอาอยู่สักประเด็น แต่หนังก็กลับตัวได้เมื่อเปลี่ยนโหมดเข้าสู่ “แอ็คชั่น” อย่างเต็มกำลัง
คอหนังฮีโร่คงไม่พลาด แม้มันจะแค่ทางผ่านไปสู่ภาคถัดๆ ไปก็ตาม
ชื่อภาพยนตร์: Batman v Superman: Dawn of Justice / แบทแมน ปะทะ ซูเปอร์แมน แสงอรุณแห่งยุติธรรม
ผู้กำกับภาพยนตร์: Zack Snyder
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Chris Terrio, David S. Goyer
นักแสดงนำ: Ben Affleck, Henry Cavill, Amy Adams, Jesse Eisenberg, Diane Lane, Laurence Fishburne, Gal Gadot, Scoot McNairy
ความยาว: 151 นาที
แนว/ประเภท: Action, Adventure, Fantasy, Sci-Fi
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
เรท: ไทย/, MPAA/PG-13
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 24 มีนาคม 2559
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Warner Bros., Atlas Entertainment, DC Comics
แบทแมน ปะทะ ซูเปอร์แมน แสงอรุณแห่งยุติธรรม
Batman v Superman: Dawn of Justice - 6
6
Dawn of Justice
โดยรวม หนังไม่ได้ย่ำแย่มากนัก อาจจะเรียกได้ว่า ดีกว่า 'Man of Steel' ด้วยซ้ำ แถมยังหยิบบางส่วนในนั้นมาเล่าต่อ นัยว่าถ้าดูหนังของแบทแมนและซุเปอร์แมนมาก่อน ก็น่าจะช่วยให้ได้อรรถรสเต็มๆ กว่า หนังมีช่วงเวลาที่น่าอึดอัดในองก์แรก แต่เล่าแบบเอาเท่และเล่าหลายเรื่องจนไม่สามารถเอาอยู่สักประเด็น แต่หนังก็กลับตัวได้เมื่อเปลี่ยนโหมดเข้าสู่ "แอ็คชั่น" อย่างเต็มกำลัง
